
เสร็จแล้วพระนเรศวร3ท่านมุ้ยหวังคนไทยรักชาติมากขึ้น
"ท่านมุ้ย"หม่อมเจ้าชาตรีเฉลิม ยุคล เผยตำนานสมเด็ดจพระนเรศวรมหาราช 3 เน้นฉากสงคราม เปรยแม้ทิ้งระยะเวลาฉายห่างจากภาค 2 นาน เชื่อคนดูเข้าใจเนื้อเรื่องอย่างแน่นอน หวังคนไทยรักชาติมากขึ้น
ทิ้งระยะห่างจาก "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 2 ตอนประกาศอิสรภาพ" ไปกว่า 4 ปี ล่าสุ ม.จ.ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับ ได้กลับมาอีกครั้งกับภาพยนตร์ที่คนไทยทั้งชาติรอคอยอย่าง "ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 ตอนยุทธนาวี" โดยท่านมุ้ยได้ให้สัมภาษณ์ถึงภาพยนตร์เรื่องนี้
"ไฮไลท์ในภาคนี้ คือฉากยุทธนาวีของพระนเรศวรกับพระยาจีนจันตุ และฉากรบที่ศึกทุ่งบางแก้ว โดยเกือบม้วนหนึ่งเต็มๆ กับส่วนที่เป็นสงคราม ซึ่งสัดส่วนความกลมกล่อมของภาคนี้ คือเรื่องรักจะน้อยหน่อย เพราะเป็นช่วงที่มีการเข้าใจผิดกัน เป็นการเกลียดหน้ากันมากกว่า ส่วนจะรักกันหรือเปล่า ก็ต้องไปดูกันที่ภาคต่อไป"
ส่วนที่หลายคนกังวล ว่าห่างหายจากภาค 2 ถึง 4 ปีนั้น กลัวว่าจะดูไม่ต่อเนื่อง ท่านมุ้ยกล่าวว่า ต่อเนื่องแน่นอน เพราะว่ามีการอ้างอิงถึงภาค 2 ตั้งแต่หัวเรื่อง เพื่อให้คนดูจำได้ และเมื่อถามถึงสาเหตุของการทิ้งช่วงนานนั้น ท่านมุ้ยได้ตอบ ว่าเป็นเพราะได้ถ่ายทำรวมภาค 3-4 ในทีเดียว
"ความยากของภาค 3 ที่เป็นเหตุให้ทิ้งช่วงนาน คือ เราถ่ายภาค 3 และ 4 รวมกัน และตามจริงภาค 4 จะฉายพรุ่งนี้เลยก็ได้ แต่ว่ารอหน่อยก็ดีเหมือนกัน และไม่ขอยืนยันว่าภาค 4 จะเข้าฉายเมื่อไหร่ ซึ่งตอนนี้ผมพูดจริงๆ เลย ผมไม่ได้นอนตลอด 3 เดือนเต็ม ไม่ได้นอนแม้แต่คืนเดียวเลย พอกลับถึงที่พักก็ทันดูข่าวเช้าพอดี แต่สุขภาพผมก็โอเคนะ เมื่อเทียบกับอายุ 70 ตอนนี้" ท่านมุ้ยกล่าว
และท่านมุ้ยยังได้กล่าวถึงความพิเศษที่มีต่อเนื่องของภาค 3-4 ที่ผู้ชมคาดไม่ถึงก็คือ
"สำหรับเรื่องนี้ เป็นการปูคาแรกเตอร์หลายๆ คนสำหรับภาคต่อไป ที่จะเดากันลำบาก อย่าง "ต๊อก" ศุภกรณ์ กิจสุวรรณ ที่มีบทบาทเข้ามา ซึ่งมีความสำคัญมากกับหนังเรื่องนี้ แต่พนันได้เลย ว่าไม่มีใครรู้ว่า 'ต๊อก' จะเล่นเป็นบทอะไรในภาคต่อไป คือตอนยุทธหัตถี หรือจุดจบของคุณ "เกรซ" มหาดำรงค์กุล ที่อยากให้ติดตามกัน ส่วนความคาดหวังเรื่องรายได้นั้นไม่เคยคาดหวังเลย คือได้ก็ดี แต่ไม่ได้ก็ไม่ดี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับคนดูว่าจะมาดูกันหรือไม่" ท่านมุ้ยกล่าว พร้อมเสริมด้วยว่า
"ท้ายที่สุดหวัง ว่าคนไทยที่มาดูจะรักชาติยิ่งขึ้น เพราะเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับการกอบกู้ชาติเอกราชของเราไว้ ซึ่งเป็นอะไรที่สำคัญทีเดียวในความรู้สึกของคนไทย และการกลับมาหลังจากหายไปนานกว่า 4 ปีของหนังเรื่องนี้ ฝากให้เรามาเริ่มต้นกันใหม่ เทียบได้กับพระนเรศวร 1 เพราะมีคาแร็กเตอร์ใหม่ๆ เกิดขึ้น และจะไปลงเอยกันท้ายที่สุดในภาค 4 ตอนยุทธหัตถี" ท่านมุ้ยกล่าวทิ้งท้าย