
แห่ดูหนัง"พระนเรศวร3"รอบปฐมฤกษ์ล้นโรง
ชาวโคราชแห่เข้าชมภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 รอบปฐมฤกษ์ที่โคราช คับคั่ง โดยมี "สรพงษ์ ชาตรี" ซึ่งแสดงเป็น "มหาเถรคันฉ่อง" นำทีมเชิญชวนคนไทยดู เหตุที่ผ่านมาภาพยนต์พระนเรศวรทั้ง 3 ภาค ใช้งบประมาณสร้างถึง พันล้านบาท
เมื่อช่วงเย็นวันที่ 31 มี.ค.ที่ผ่านมา บริเวณชั้น 3 หน้าโรงภาพยนตร์ EGV ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ สาขา นครราชสีมา นายสรพงศ์ ชาตรี นักแสดงชื่อดัง ที่รับบทเป็น "มหาเถรคันฉ่อง" หรือ "มหาปราชญ์รามัญประเทศ" ปรมาจารย์หงสา บุเรงนองและพระองค์ดำ ในภาพยนตร์เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค 3 ยุทธนาวี ประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี เป็นประธานเปิดการฉายภาพยนตร์ เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ภาค3-ยุทธนาวี รอบปฐมทัศน์ ทั้งหมด 5 โรง พร้อมกัน โดยมีประชาชนชาวจังหวัดนครราชสีมา และคณะครูและนักเรียนจากโรงเรียนต่างๆในจังหวัดนครราชสีมา เข้าชมเป็นจำนวนมาก
โดยทางมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์(โต พรหมรังสี) ได้นำอาหารและน้ำดื่มมาเลี้ยงต้อนรับผู้ที่มารอชมภาพยนตร์รอบปฐมฤกษ์ด้วย ซึ่งบรรยากาศก่อนการชมภาพยนตร์เป็นไปอย่างคึกคัก และในโอกาสเดียวกันนี้ พล.ต.ท.เดชาวัต รามสมภพ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค3 ได้ร่วมชมภาพยนตร์รอบปฐมทัศน์ในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
สำหรับเนื้อหาของภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงถึงความรักชาติและการเสียสละของสมเด็จพระนเรศวรมหาราชและคนไทยในสมัยก่อนที่ยอมเสียสละด้วยเลือดและชีวิตเพื่อรักษาผืนแผ่นดินไทย
นายสรพงศ์ ชาตรี ดารานักแสดงชื่อดังและประธานมูลนิธิสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี กล่าวว่า ภาพยนตร์ เรื่องตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช ฉายวันนี้(31 มี.ค.54) เป็นวันแรก เพื่อให้ประชาชนได้เข้าชม ดังนั้นทางมูลนิธิสมเด็จพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) เมตตาบารมี อำเภอสีคิ้ว จ.นครราชสีมา เล็งเห็นว่า เป็นภาพยนต์ร์ที่ควรจัดให้ประชาชนคนไทยทุกคนได้ชม เพื่อให้ทราบถึงพระมหากษัตริย์มีความสำคัญต่อประเทศชาติอย่างไร และคนในสมัยกรุงศรีอยุธยา มีความรักชาติอย่างไร มีการเสียสละอย่างไร ดังนั้นประชาชนในยุคปัจจุบันควรที่จะเอาเยี่ยงอย่างที่ถูกต้องอย่างไร และควรที่จะดูแลชาติอย่างไรจึงจะสงบสุขก็จากการได้รับชมภาพยนตร์ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราชภาค 3 ยุทธนาวี ดังนั้นหากประชาชนคนไทยไม่มีชาติและไม่มีบ้านเมืองให้อยู่ แล้วเราจะทำตัวอย่างไรหรืออยู่ที่ไหน ซึ่งตนอยากให้ประชาชนที่มารับชมได้นำความรู้และสาระที่แฝงไว้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ไปบอกต่อๆถึงความรักชาติและการเสียสละ ไม่ใช่แต่มารับชมเพียงแค่ความบันเทิงเท่านั้น
นายสรพงศ์กล่าวอีกว่าตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช นั้นได้สร้างมาตั้งแต่ ภาคที่ 1 ที่ 2 และ 3 เป็นระยะเวลานานกว่า 8 ปี และกำลังจะมีการสร้างภาคที่4 ซึ่งได้งบประมาณที่ใช้ลงทุนไปแล้วประมาณ 1 พันล้านบาท ซึ่งประชาชนที่นั่งชมอยู่ที่บ้านได้รับชมนั้น นักแสดงแต่ละคนที่ต้องมารับบทเป็นตัวละครแต่ละตัวที่ต้องขี่ม้าตากแดดเป็นชั่วโมง นั้น เป็นเพียงแค่เศษเสี้ยวของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพราะขณะที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชออกศึกแต่ละครั้งนั้นต้องเจอกับ อาวุธจริง ที่จะต้องใช้ความสามารถส่วนตัวในการหลบหลีกและใช้ความกล้าหาญเป็นอย่างมาก ดังนั้นตนต้องการให้ประชาชนเข้ามาร่วมชม ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อได้ทราบถึงความเสียสละของคนในสมัยก่อนที่รักษาผืนแผ่นดินไทยให้ลูกหลานอยู่จนถึงปัจจุบัน และต้องการให้ผู้ที่มาร่วมรับชมได้เอาสิ่งดีจากภาพยนตร์นำกลับมารักษาผืนแผ่นดินเหมือนกับคนสมัยก่อนได้ทำไว้