บันเทิง

เพลงที่ต้องฟังก่อนตาย - รุ้งกินน้ำ
อัสนี-วสันต์ พ.ศ.2536

เพลงที่ต้องฟังก่อนตาย - รุ้งกินน้ำ อัสนี-วสันต์ พ.ศ.2536

24 พ.ค. 2554

ปรากฏการณ์ของรุ้งจากธรรมชาติ เกิดหลังฝนตก เมื่อแสงแดดส่องผ่านละอองน้ำ ทำให้แสงสีต่างๆ เกิดการหักเห ส่งผลให้กำเนิดงานดนตรีที่เหมาะเจาะลงตัวของเพลงไทยดนตรีไทย อัลบั้ม รุ้งกินน้ำ ด้วยเช่นกัน

  ผมเคยยกย่อง อัสนี-วสันต์ ในอัลบั้ม บ้าหอบฟาง มาแล้ว ในคอลัมน์นี้ เมื่อปีกลาย ครั้งนี้ผมขอข้ามประวัติของพี่น้องสองคนนี้ไป เพราะงานชุดนี้เป็นชุดที่ 6 เริ่มจาก บ้าหอบฟาง ผักชีโรยหน้า กระดี่ได้น้ำ ฟักทอง สับปะรด ต่อด้วยอัลบั้มชุดนี้ 7 ปี หลังออกอัลบั้ม บ้าหอบฟาง

 เริ่มกันตั้งแต่ปกอัลบั้มที่มี Gimmick (กลเม็ด) ในการนำเสนอที่น่าสนใจ เพราะบนปกเทปมีปิ๊กกีตาร์เสียบปกมาด้วย เป็นสิ่งที่เห็นกันอยู่ทุกครั้งบนเวทีคอนเสิร์ต ที่พี่ป้อมแกเล่นกีตาร์ไปแจกปิ๊กให้คนดูไป ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว ปี 2536 นั้นถือว่าเป็นเรื่องฮือฮา ที่แจกปิ๊กบนปกเทปและซีดี

รุ้งกินน้ำ (พ.ศ.2536, 1993)
 1.รุ้งกินน้ำ 2.ลักไก่ 3.ลงเอย 4.ทุกข์ไม่เว้นวันราชการ 5.ความงามที่แตกต่าง 6.คิดไปคิดมาเห็นแต่หน้าเธอ 7.รักเธอเสมอ 8.อเมริกา 9.ตาอยู่ 10.ลาก่อน 11.ลาก่อน (Solo) 

 เริ่มฟังตั้งแต่เพลงแรกเราได้พบกับ เพลงหนึ่งหน้าหนึ่ง ชื่อเดียวกับชื่ออัลบั้มคือ รุ้งกินน้ำ เนื้อเพลงไม่ได้สั่งสอนให้รักธรรมชาติตรงๆ แต่คือเพลงที่บรรยายสิ่งมหัศจรรย์ที่เกิดทางธรรมชาติไว้ได้อย่างน่าสนใจ ติดตาม แม้จะมีความยาวกว่าเพลงเชิงพาณิชย์ทั่วไปก็ตาม แต่วิธีการในการเล่าเรื่อง และนำเสนอดนตรี ชวนให้นึกถึงความสวยงาม ความตื่นเต้นเมื่อครั้งยังเด็ก เต็มไปด้วยความบริสุทธิ์และจินตนาการ และความตื่นตา เมื่อได้เห็นรุ้งกินน้ำครั้งแรกๆ ด้วยสองตา จากธรรมชาติจริงๆ ที่อยู่ตรงหน้า เป็นเหตุการณ์ที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อยๆ และก็ไม่สามารถบังคับให้เกิดได้ตามอำเภอใจเช่นกัน คงไม่ต้องกล่าวถึงเรื่อง รุ้งปฐมภูมิ หรือ รุ้งฑุติยภูมิ กัน ณ ที่นี้ เพราะเดี๋ยวจะเริ่มเข้าสู่วิชาวิทยาศาสตร์กันไปซะฉิบ เนื้อเพลงโดย เขตอรัญ เลิศพิพัฒน์ ครูใหญ่ในวงการเขียนเพลง ผู้ล่วงลับ ในทางดนตรีก็สร้างสรรค์ได้น่าสนใจ โดยมีองค์ประกอบของความเป็นอัสนี-วสันต์ครบถ้วน ทั้งเสียงคอรัสเจ้าประจำ เสียงกีตาร์ และชั้นเชิงดนตรีที่มีความเคลื่อนไหวอยู่ตลอดทั้งเพลง ยาว 6.29 นาที เปิดไปฟังไป กินกาแฟได้เกือบครึ่งแก้ว

 ลักไก่ เพลงดัง ฟังสนุก
ใครจะบอกรักใคร ให้ชอกช้ำใจ ลักไก่ใคร ไม่ดีหรอก
ใครจะบอกรักใคร เรื่องความในใจ บอกไป ตรงตรง 

 ลงเอย เมื่อดนตรีของชาตรี คงสุวรรณ บรรจบกันกับเนื้อของ นิติพงษ์ ห่อนาค ก็การันตีได้ว่ามันต้องมีอะไรดีๆ เกิดขึ้น และมันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ซะด้วย เสียงคีย์บอร์ดเลียนเสียงเครื่องเป่า เล่าบรรยากาศเป็นห่วงเป็นใย ได้เป็นอย่างดี ด้านเนื้อเพลงนั้นแมนสุดๆ ที่เป็นห่วงคนรักเก่ากับคนรักใหม่ของเขา เริ่มจะกลับกลาย ไม่อยากให้ซ้ำรอยเดิม ขออวยพรให้ทั้งคู่ลงเอยกันด้วยดี ลงเอย ลงตัวมาก มากซะจนทุกวันนี้ยังซึ้งได้ทุกครั้งที่ได้ฟัง แม้จะผ่านมาเกือบ 20 ปีแล้วก็ตาม

 ทุกข์ไม่เว้นวันราชการ ประชา พงษ์สุพัฒน์ เขียนเพลงในแนวทางที่แตกต่างอย่างหาตัวจับได้ยาก วัยรุ่น ที่ทุกข์เรื่องความรัก ต้องหามาฟังซะหน่อย วิธีการเล่าเรื่องของ น้าประชา บวกชั้นเชิงดนตรีของเพลงนี้ ขอบอกว่า ฟังเพลิน เจริญใจ

 ความงามที่แตกต่าง คำว่าความสุขและความสำเร็จในชีวิตของคนเราไม่เหมือนกัน อยู่ที่ใครจะมอง ใครจะเป็น ทุกคนล้วนมุ่งแต่ทำในสิ่งที่ตนเองตั้งความหวังไว้ แตกต่างกันไปในทุกคน บางคนยังค้นหาความหมายในชีวิตกันต่อไป จนกว่าจะหมดลมหายใจ ซึ่งสุดท้ายอาจไม่ทันพบมันก็เป็นได้ การเข้าใจตัวเอง มาจากการคุยกับตัวเอง อยู่กับตัวเองเยอะๆ เยอะพอที่จะให้เรารู้จักหัวใจตัวเอง เมื่อได้รู้ก็เพียงพอที่จะเป็นทางออกของชีวิตให้กับเราได้สักวัน เพลงที่เป็นเรื่องราวปรัชญาถูกนำเสนอจาก วสันต์ ผู้น้อง บุคลิกเงียบขรึม แต่ดูสบายๆ ฟังไป คิดตามไป ได้อะไรไม่น้อยก็มากครับ

 คิดไป คิดมา เห็นแต่หน้าเธอ สีสัน และอารมณ์ ดนตรีในอัลบั้มชุดนี้คุมได้ดี ให้บรรยากาศไปทางเดียวกันเป็นเอกลักษณ์ทั้งอัลบั้ม ในขณะที่ความหลากหลายก็มีให้ฟังอยู่ในทุกๆ เพลง เพราะออกแบบเพลงมาทั้งอัลบั้ม ต่างจากปัจจุบันที่ยากไปอีกระดับที่ผู้ประพันธ์ต้องวางแผนการผลิตเป็นเพลงเพลงไป คุณประชา พงศ์สุพัฒน์ เขียนเพลงแบบฟังไม่ค่อยรู้เรื่อง ไม่เกี่ยวกันให้ไปด้วยกันได้อย่างแนบเนียน แบบนี้ล่ะที่ผมบอกว่าหาคนเทียบยาก คิดแทนคนฟุ้งซ่านได้มันมากครับ

 รักเธอเสมอ เพลงนี้ผมยังต้องพูดถึงอีกเหรอ ขอข้ามไปเลยดีกว่า คุณค่าเพลงนี้คุณให้คะแนนกันเองได้สบายมาก รักทั้งเพลง รักทั้งเธอครับ

 อเมริกา เขาว่าแฟนไปเรียนเมืองนอก ก็เหมือนกับเราเสียเขาไปแล้วครึ่งใจ จริงไม่จริงประการใด ตอบในใจก็แล้วกันท่านผู้อ่าน เพลงสนุกของเรา แต่เขาที่ถูกทิ้งไปคงไม่สนุกเท่าเรา ภาวนาให้กลับมาเร็วๆ ก็แล้วกัน

 ตาอยู่ จังหวะสามช่าสนุกๆ ตั้งแต่ บังอร บังเอิญ ชุดนี้ก็มีตาอยู่มารับหน้าแทน รับไปเต็มๆ ปล่อยตาอินกับตานาจ๋อยไป เพราะมัวแต่ทะเลาะ ยื้อแย่งกัน ไม่ทันระวังตัว บุคคลที่สามจึงคว้าไปดื้อๆ

 ลาก่อน เพลงที่ตั้งใจจะปิดท้าย แต่ไม่สำเร็จ เพราะเข้าว่าเนื้อเทปหน้า B อาจเหลือเยอะ จึงขอบรรเลงกีตาร์ สร้างอารมณ์ต่อจนจบม้วน (ผมเดาเล่นๆ) เพลงลาก่อน เข้าถึงอารมณ์ของผู้ฟังด้วยเปียโนเศร้าหม่น โดย ธนวัฒน์ สืบสุวรรณ เนื้อเพลงจาก สุรักษ์ สุขเสวี ฟังแล้วเศร้า เพราะปูเรื่องราวมาตั้งนานแสนนาน สร้างอารมณ์ร่วมเป็นระยะจนถึงท่อนสุดท้ายของเพลงจึงเอ่ยประโยคคำว่า ลาก่อน เฮ้อ....อัดอั้นมานานเกือบ 4 นาที ชั้นเชิงการเขียนเพลงของสุรักษ์นั้นคมคาย ภาษาสละสลวย ทีเดียวสำหรับเพลงนี้

 เรียกว่าบรรยายมาทั้งอัลบั้ม ฟังละเอียด รอบแล้วรอบเล่า เข้าถึงอัลบั้มชุดนี้อีกครั้งหลังออกวางแผงมา 18 ปีเต็ม เป็นความลงตัวของงานดนตรีที่ผสานศิลป์กับพาณิชย์ได้อย่างแนบเนียน ขอยกย่องผู้เกี่ยวข้องทุกท่านและศิลปินเจ้าของผลงาน ที่สร้างงานชิ้นนี้ออกมาให้เราได้ฟังกัน เป็นอัลบั้มเพลงไทยอีกชุดหนึ่งที่ต้องฟัง ต้องได้ฟัง ต้องหามาฟัง ต้องไปตามฟัง ทำยังไงก็ได้ที่จะได้ฟังทั้งอัลบั้มทุกเพลง แล้วจะพบความงามของดนตรีที่ลงตัว

ชาตินี้ ยังไงก็ฟังเพลงทั่วไป ได้ไม่หมด
ขอเลือกเพลงโปรด ฟังก่อนตาย ดีกว่า

"โชคชัย เจี่ยเจริญ"
[email protected] <mailto:[email protected]>
www.facebook.com/chokchai.jeijaroen <http://www.facebook.com/chokchai.jeijaroen>