
Kung Fu Panda 2
ขออนุญาตเรียนผู้อ่านทุกท่านว่า ในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมประสบปัญหาชีวิตส่วนตัวนิดหน่อย แม้จะไม่ใช่เรื่องใหญ่โต แต่ทว่ามันก็ส่งกระทบถึงการทำงานอยู่บ้าง และแน่นอนว่า มันเริ่มมาจากผลกระทบทางจิตใจก่อน
และเมื่อ 2-3 สัปดาห์ที่แล้วเช่นกัน ผมค่อนข้างทำตัวไม่เป็นโล้เป็นพาย เนื่องจากสมาธิไม่อยู่กับเนื้อกับตัว ซึมเศร้า จิตตก หมกหมุ่นครุ่นคิดถึงแต่ความผิดพลาดในอดีตที่ผ่านมา ซึ่งย้อนกลับมาทำร้ายตัวเองในปัจจุบันขณะ และก็ไม่น่าเชื่อว่า เมื่อมีโอกาสได้ดูหนังบางเรื่อง ‘สาร’ ในนั้น ทำให้เรากลับมาคิดใคร่ครวญ ไตร่ตรอง และพอมองหาทางออกของปัญหาชีวิต แม้ไม่ถึงกับเกิดพุทธิปัญญาสามารถแก้ไขได้โดยพลัน แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้เรามีแรงบันดาลใจ ฮึกเหิมที่จะเริ่มต้นคือหรือตัดสินใจอะไรบางอย่างได้
...นี่คืออิทธิพลของหนัง...ที่ส่งมาถึงผู้คน และเกิดผลต่อชีวิตในทางใดทางหนึ่ง โดยเฉพาะทัศนคติหรือมุมมองที่มีต่อโลก สังคม และชีวิตที่เปลี่ยนไป ซึ่งก็ไม่น่าเชื่อว่า หนังที่โน้มน้าว ช่วยปลุกปลอบขวัญและกำลังใจให้กับเราขึ้นมาได้บ้างนั้น กลับกลายเป็นหนังการ์ตูนแอนิเมชั่น ที่มีตัวละครเป็นหมีแพนด้า ทว่าหน้าตายียวนของมัน เห็นแล้วกลับทำให้รู้สึกหมั่นไส้ กวนอารมณ์ มากกว่าความน่ารักน่าชังอย่างที่เห็นกันในสวนสัตว์หรือทางหน้าจอทีวี แต่สุดท้ายก็หลงรักในเรื่องราวและวีรกรรมของมัน
การผจญภัยของเจ้า ‘โพ’ และผองเพื่อนในภาคนี้ นักรบมังกรทั้งห้าต้องออกไปห้ำหั่นต่อกรกับ ‘เชน’ นกยูงตัวร้ายที่หวนกลับมาล้างแค้นสังหารปรมาจารย์นักสู้แห่งนครกงเหมิน หลังถูกเนรเทศออกจากเมืองเพราะความอำมหิต อีกทั้งยังสร้างสมอาวุธสุดร้ายกาจเพื่อหวังครอบครองแผ่นดินจีนต่อไป
ลำพังแค่การต่อสู้กับเหล่าร้ายของ ‘โพ’ แค่นี้ดูเหมือนไม่น่าจะคณาฝีมือของเขาและผองเพื่อน หากแต่ปริศนาที่มาของ ‘โพ’ ที่ผุดขึ้นในห้วงคำนึงอยู่เสมอ ทำให้เขาขาดสมาธิในการต่อสู้ จนต้องเพลี่ยงพล้ำให้แก่เจ้า ‘เชน’ คู่ปรับอยู่ร่ำไป จนถึงขั้นเกือบเอาชีวิตไม่รอด
อารมณ์ขันที่ปรากฏอยู่เกือบตลอดเวลาในหนัง แม้จะสร้างเสียงหัวเราะสนุกสนานได้ไม่น้อย แต่เมื่อคราวเจ็บเจียนตาย ฉากที่เจ้า ‘โพ’ ฟื้นตื่นขึ้นมาจากอาการบาดเจ็บสาหัสและความฝันเมื่อครั้งเยาว์วัยที่วนเวียนอยู่ในมโนสำนึก มันลุกขึ้นสะบัดศีรษะ แล้วพลันฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า การลุ่มหลงยึดติดอยู่กับอดีตนั้น ไม่อาจทำให้เราแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในวันนี้ได้ แต่หากเราครองสติอยู่กับปัจจุบัน พิจารณาปัญหาด้วยสมาธิ ตรึกตรองด้วยสติ เราอาจจะพบทางออก สามารถขจัดปัดเป่าความทุกข์ให้พ้นไปได้ไม่ยาก
ท่ามกลางความสรวลเสเฮฮา “Kung Fu Panda 2” แฝงปรัชญาวิถีแห่งพุทธเอาไว้ได้อย่างแยบคาย กระบวนท่าไม้ตายที่ใช้จัดการกับเจ้าวายร้ายของเจ้าโพ เกิดจากการใช้สติ ทำสมาธิ โดยการใช้ปัญญาเพ่งพินิจ คิดอย่างรอบคอบ มากกว่าทุ่มเทใช้พละกำลังเข้าห้ำหั่นคู่ต่อสู้ การละวางกับอดีต อยู่กับปัจจุบันและทำให้ดีที่สุด คือวิถีทางแห่งความสุขที่เจ้าแพนด้าค้นพบ
ทุกครั้งที่เกิดปัญหา เรามักจะกลับไปคร่ำครวญถึงความผิดพลาดที่ผ่านมา และก็มักละเลยอยู่เสมอว่า ถ้ารีบลงมือทำวันนี้ให้ดีที่สุด ใช้ชีวิตอย่างมีสติที่สุด อาจเป็นการหลีกเลี่ยงปัญหาที่จะเกิดขึ้นในวันข้างหน้าได้ เช่นกันที่การยึดติดอยู่กับอดีต ไม่รู้จัก ละ วาง บางทีความทุกข์ พะว้าพะวง ก็ไม่อาจสลัดให้หลุดไปได้ กลายเป็นเงื้อมเงาที่ตามรบกวน บั่นทอน สมาธิ สติปัญญา และกำลังใจให้ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ
ยืนยันว่า “กังฟูแพนด้า 2” ไม่ใช่หนังธรรมะแต่อย่างใดนะครับ หากแต่สอดแทรกเรื่องของธรรมะชนะอธรรม ท่ามกลางการผจญภัยที่รายล้อมด้วยมิตรภาพระหว่างเพื่อน ความรักระหว่างคนในครอบครัว การมองโลกด้วยสายตาที่รื่นรมย์ระหว่างทางที่ท่องไป รวมถึงการแก้ไขปัญหาด้วย สติ สมาธิ อันนำมาซึ่งปัญญา
เป็นครั้งแรกที่ผมเขียนวิจารณ์หนังการ์ตูนแอนนิเมชั่น ด้วยมุมมองของธรรมะ ทั้งที่ความรู้ความเข้าใจในเรื่องนี้ของตัวเองค่อนข้างตื้นเขิน ซึ่งต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ แต่ด้วยภาวะที่จิตใจตกอยู่ในความร้อนรุ่มกระวนกระวาย การเพ่งมองหาธรรมอันเป็นที่พึ่งแห่งการดับทุกข์ ที่อาจปรากฎหรือซ่อนเร้นอยู่รอบๆตัว ดูจะเป็นทางออกที่ดีที่สุดสำหรับผมในเวลานี้ครับ
ชื่อเรื่อง : Kung Fu Panda 2
ผู้เขียนบท : โจนาธาน เอเบล, เกลนน์ เบอร์เกอร์
ผู้กำกับ : เจนนิเฟอร์ หยู เนลสัน
ผู้ให้เสียงพากษ์ : แจ็ค แบล็ค, แองเจลินา โจลี่, ลูซี หลิว, ดัสติน ฮอฟแมน, มิเชลล์ โหยว, แกรี โอลด์แมน,
เฉินหลง
เรทติ้ง : ท. ภาพยนตร์ที่เหมาะสมกับผู้ชมทุกวัย
วันที่เข้าฉาย : 26 พฤษภาคม 54
"ณัฐพงษ์ โอฆะพนม"