สวยเท่ากัน แต่สปีชใครดีสุด? ในรอบพรึลิม Miss Universe Thailand 2023 | คมชัดลึก

การประกวด “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023” (Miss Universe Thailand 2023) รอบสำคัญ คือการแข่งขัน “รอบคัดเลือก” หรือ “รอบพรีลิมมินารี” (Preliminary Competition) ณ MCC Hall ชั้น 4 เดอะมอลล์ งามวงศ์วาน

 

 

 

ก่อนจะรู้ผลว่าใน 53 สาวงาม ใครจะคว้ามงกุฎมูลค่ากว่า 50 ล้านบาทไปครอง พร้อมภารกิจเป็นตัวแทนประเทศไทยไปประกวดบนเวทีระดับโลก “มิสยูนิเวิร์ส” (Miss Universe) ปลายปีนี้

 

 

ซึ่งรอบตัดสิน จะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 20 สิงหาคม 2566 ที่จะถึงนี้ แต่สำหรับการประกวด “รอบคัดเลือก” หรือ “รอบพรีลิมมินารี” ในวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา ก็ปรากฏว่า สามสาวสวยตัวเต็ง ก็ยังคงถูกกล่าวขวัญถึงบนเวที มากที่สุดเช่นเคย 

 

 

ทำให้กูรูทั้งไทยและต่างประเทศต่างมั่นใจและฟันธงแน่นอนแล้วว่า หนึ่งในสามสาวตัวเต็งดังกล่าว จะเป็นผู้คว้ามงกุฎ “มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2023” (Miss Universe Thailand 2023) ไปครองแน่นอน และนี่คือคำพูดของพวกเธอที่ได้ประกวดรอบสปีชในค่ำคืนนี้ 

 

 

1. ‘ปวีนา สิงห์ทักวาล’ ภูเก็ต

 

 

ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ที่วีนามาประกวด  Miss Universe Thailand 

6 ปี จากบทเรียน 2 ครั้งที่ผ่านมา…วีนาพร้อมค่ะ

พร้อมด้วยศรัทธาในการเป็น Miss Universe

เราทุกคนต้องต่อสู้เพื่อความฝัน เพื่อสิ่งที่เราอยากจะเป็น

 

หากใครที่กำลังท้อแท้ ให้มองวีนา 

หากใครที่กำลังล้มเหลวกับสิ่งที่ทำอยู่ ให้มองมาที่วีนา

จงมีความหวังและพยายามให้ถึงที่สุดและจำไว้เสมอค่ะ 

 

The biggest winners are the ones who get up and give it one more try. 

Listen to my voice NEVER GIVE UP!

You are your own HERO, thank you.

 

2. ‘แอนโทเนีย โพซิ้ว’ นครราชสีมา

 

 

ฉันยืนอยู่ที่นี่ในทุก ๆ วัน แม้ทุก ๆ ข้อกล่าวหา ทุกข้อสันนิษฐาน และทุกคำตัดสินที่ทุกคนเคยตัดสินเกี่ยวกับฉัน แต่ฉันยังยืนอยู่ที่นี่อย่างภาคภูมิด้วยความกล้าหาญในฐานะผู้นำและในฐานะแรงบันดาลใจ และด้วยสิ่งนี้ ฉันอยากให้คุณเอาฉันเป็นตัวอย่างว่าเสียงของคุณมีความสำคัญ เปลี่ยนจุดอ่อนของคุณให้เป็นจุดแข็งและเป็นแสงสว่างแห่งความรุ่งโรจน์

 

คุณอาจไม่สามารถเปลี่ยนแปลงโลกได้ในวันพรุ่งนี้ แต่ด้วยทุกย่างก้าวเล็กๆ น้อยๆ คุณสามารถบรรลุทุกสิ่งที่คุณปรารถนาได้ ดังนั้นให้ก้าวเล็ก ๆ นั้นเป็นคุณ

 

3.’เจสซี่ กิระนา จัสมิน ชูว์เทอร์’ แม่ฮ่องสอน

 

 

ผู้หญิงและทรานส์ทุกคนต่างถูกกีดกันทั้งในภาคการศึกษา สิทธิการรักษาสุขภาพหรือแม้แต่ภาคเศรษฐกิจ ซึ่งนานไปมันจะลดทอนอำนาจของผู้หญิง จากประสบการณ์ที่ดิฉันได้ร่วมงานกับสหประชาชาติ ทำให้ดิฉันรู้ว่าเราจะสู้กับปัญหานี้ได้ก็ต่อเมื่อเราสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่เราได้พูดคุยสื่อสารกัน แต่สิ่งที่สำคัญไปกว่านั้นคือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในระดับรัฐบาล ให้ออกกฎหมายปกป้องผู้หญิงทุกคน เพื่อที่ผู้หญิงทุกๆคนจะเป็นกระบอกเสียงได้โดยไม่ต้องหวาดกลัว ขอบคุณค่ะ