เตรียมอำลาตำแหน่ง "บิ๊นท์ สิรีธร" Miss International ที่ไทยรอมา 59 ปี | คมชัดลึก

เตรียมชมรอบชิงมงกุฎของ Miss International 2022 ในวันนี้ 13 ธันวาคม 2022 จัดที่ Tokyo Dome Hall ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการประกวดจะเริ่มขึ้นในเวลา 12.00 ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งความน่าภาคภูมิใจก็คือ เรามีสาวไทยที่ชื่อว่า “บิ๊นท์ สิรีธร” เป็นผู้ครองตำแหน่ง Miss International คนปัจจุบัน ที่ บิ๊นท์ เตรียมขึ่นเวทีเพื่ออำลาตำแหน่งบนเวทีนึ้ ในฐานะสาวไทยคนแรกในประวัติศาสตร์ที่คว้าตำแหน่ง Miss International และเป็น Miss International คนที่ 59 ของโลก

แต่ที่น่าสนใจไปกว่านั้น เพราะยังไม่เคยมีนางงามคนไหนในโลกนี้ทำได้เลย นั่นก็คือ “บิ๊นท์ สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์” ยังเป็นสาวงามคนแรกในประวัติศาสตร์โลกที่ครองตำแหน่ง Miss International คนเดียวมานานถึง 3 ปีซ้อน เนื่องจากทางญี่ปุ่นต้องเลื่อนการประกวด Miss International ในปี 2020 และ 2021 ออกไป ด้วยเหตุผลการระบาดของโรคโควิด -19 ดังนั้นเรื่องราวของ บิ๊นท์ จึงถือเป็นวาระแห่งชาติได้เลยทีเดียว เพราะการประกวดเวที Miss International 2019 ถือเป็นหนึ่งในเวทีการประกวดสาวงามระดับโลก เทียบเคียงได้กับเวที Miss Universe, Miss World และ Miss Supranational

และอีกเรื่องที่หลายคนคงไม่รู้ก็คือ กว่าที่ “บิ๊นท์ สิรีธร” จะก้าวมาสู่อันดับหนึ่งของโลก คว้าตำแหน่ง Miss International ประจำปี 2019 มาให้กับประเทศไทยเป็นครั้งแรกในรอบ 59 ปีได้นั้น บิ๊นท์ ต้องผ่านบททดสอบที่ท้าทายจิตใจของผู้หญิงคนหนึ่งอย่างมาก โดยเฉพาะคำดูถูกเรื่องรูปลักษณ์ ตอนที่เธอคว้าตำแหน่ง “นางสาวไทย” ประจำปี2019 ตำแหน่งในประเทศที่ทำให้บิ๊นท์ ได้เป็นตัวแทนประเทศไทย เดินทางไปสู่การประกวดบนเวทีดังที่กรุงโตเกียวประเทศญี่ปุ่น 

ย้อนไปในตอนนั้น บิ๊นท์ - สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ ก้าวเข้าสู่การประกวดนางสาวไทยปี 2019 ในขณะที่เธอประกอบอาชีพเป็นเภสัชกรในวัย 25 ปี บิ๊นท์ คว้าใจกรรมการในการประกวดคราวนั้นด้วยความสวยหวานในแบบไทย พร้อมคำตอบในรอบ 8 คนสุดท้ายเกี่ยวกับสาเหตุที่แท้จริงจากปัญหายาเสพติดทั่วโลกว่า เธอเห็นว่าแท้จริงแล้วปัญหายาเสพติดนั้นมาจากการอยากรู้อยากลองของวัยรุ่น เราควรที่จะแก้ปัญหาอย่างตรงจุดด้วยสื่อการสอนที่ดีในสถานศึกษา แต่หลังจากที่พิธีกรประกาศว่า บิ๊นท์ คือนางสาวไทย ดราม่าในเรื่องความเหมาะสมก็ตามมาทันที

เพราะเธอโดนชาวเน็ตในโลกออนไลน์สร้างประเด็นในเรื่องความเหมาะสมในเรื่องของรูปลักษณ์ จนกลายเป็นประเด็นดราม่าในโลกออนไลน์อย่างหนักหน่วง แต่ถึงอย่างนั้น บิ๊นท์ ก็สามารถเอาคำดูถูก มาเป็นแรงผลักดันในการเป็นตัวแทนประเทศไทยสู่การประกวดเวที Miss International 2019

ในการประกวดที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น บิ๊นท์ - สิรีธร ได้กลายเป็นหนึ่งในม้ามืดของการประกวด Miss International 2019 เพราะบิ๊นท์มีความสวยในแบบที่เป็นตัวของเธอเอง มีความสามารถ และยังมีมิตรภาพที่เธอมอบให้กับทุกคน จนทำให้เธอค่อยๆ ฉายแสงของความโดดเด่นในระหว่างการเก็บตัว แต่ถึงอย่างนั้น ในหลายๆ โพลผลการประกวด ก็กลับไม่มีชื่อบิ๊นท์ เป็นหนึ่งในผู้มีสิทธิชนะ รวมถึงกระแสในประเทศไทยก็ยังมีไม่มากเท่าที่ควร

ในวันประกวดจริง บิ๊นท์ ได้แสดงความสามารถจนกลายเป็นหนึ่งในผู้เข้ารอบ 15 คนสุดท้าย 8 คนสุดท้าย และ 5 คนสุดท้ายตามลำดับ แถม บิ๊นท์ ยังคว้ารางวัลพิเศษ Continental Queen of Asia และ บิ๊นท์ ชนะใจคนดูอีกครั้ง ด้วยการตอบคำถามของเธอเป็นภาษาอังกฤษเกี่ยวกับดราม่าเรื่องรูปลักษณ์ที่เธอโดนดูถูกมา โดยบอกว่า 

“ฉันโดนวิจารณ์อย่างหนัก เมื่อคราวได้รับตำแหน่งนางสาวไทย แต่ฉันไม่เคยยอมแพ้ และตอนนี้ฉันมายืนบนเวทีแห่งนี้แล้ว ฉันกล้าที่จะฝันที่จะเป็นนางงาม แม้จะไม่มีอะไรเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับอาชีพของฉันที่เป็นเภสัชกร ฉันเก็บเอาคำวิจารณ์ต่างๆ มาเป็นพลังในการพัฒนาปรับปรุงตัวเองเพื่อจะเป็นตัวแทนของประเทศที่ดีที่สุด และ สร้างความภูมิใจให้แก่ประเทศของฉัน 

ดังนั้น คำจำกัดความของคำว่า พลังแห่งผู้หญิงของฉัน คือ เราจะให้กำลังใจ สนับสนุน และ เป็นแรงบันดาลใจให้ผู้หญิงทั่วโลกที่จะสร้างฝันให้เป็นจริง และสร้างสิ่งที่ยอดเยี่ยมให้แก่โลกของเรา ถ้าฉันได้รับเกียรติให้เป็น Miss International 2019  ฉันจะเป็นแรงบันดาลใจให้แก่ทุกคนว่า ถ้าผู้หญิงธรรมดาอย่างฉันสามารถทำได้พวกคุณทุกคนก็ทำได้เช่นกัน”

จากคำตอบที่ทรงพลังนี้เองทำให้บิ๊นท์ได้รับตำแหน่งเป็น Miss International 2019 ซึ่งถือเป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัลดังกล่าวหลังจากมีการจัดประกวดมานานกว่า 59 ปีแล้ว ที่เธอสามารถก้าวข้ามการดูถูก และนำเอาคำดูถูกเหล่านั้น มาเป็นพลังบวก และทำให้เธอกลายมาเป็นอีกหนึ่งคนไทยที่ควรจดจำ 

เตรียมให้กำลังใจ บิ๊นท์ กันอีกครั้งในวันนี้ 13 ธันวาคม 2022 ในการอำลาตำแหน่งครั้งประวัติศาสตร์ของเธอ ในการประกวดรอบชิงมงกุฎของ Miss International 2022 จัดที่ Tokyo Dome Hall ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งการประกวดจะเริ่มขึ้นในเวลาเที่ยงตรง ตามเวลาประเทศไทย