อึดมาก ย้อนทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลก 11 ครั้งสุดท้าย 40 ปีที่ผ่านมาของ Madonna
หลังตัวแม่ Madonna ประกาศทัวร์คอนเสิร์ตรอบโลกครั้งใหม่ ฉลอง 40 ปี เพลงฮิต ในวัย 64 กับทัวร์ที่ชื่อ Madonna: The Celebration Tour ซึ่งเป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 12 ของเธอ คมชัดลึกเลยขอพาไปไล่เรียงทัวร์รอบโลก 11 ครั้งก่อนหน้านี้ของ Madonna ว่ามีอะไรบ้าง
1985 The Virgin Tour
The Virgin Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตเปิดตัวของ Madonna เป็นทัวร์สนับสนุนสตูดิโออัลบั้มสองชุดแรกของเธอMadonna (1983) และ Like a Virgin (1984) แม้ว่าในตอนแรกมีการวางแผนสำหรับผู้ชมทั่วโลก แต่ทัวร์นี้จำกัดเฉพาะในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา มาดอนน่าต้องการให้ทัวร์นี้สะท้อนตัวตนของเธอเอง โดยร่วมมือกับนักออกแบบ Maripol สำหรับเครื่องแต่งกาย
1987 Who's That Girl World Tour
Who's That Girl World Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สองของมาดอนน่า ทัวร์นี้สนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่สามของเธอในปี พ.ศ. 2529 ที่ชื่อ True Blue รวมถึงเพลงประกอบภาพยนตร์ปี 1987 Who's That Girl นับเป็นการทัวร์รอบโลกครั้งแรกของมาดอนน่าและเป็นการเยือนญี่ปุ่นและยุโรปเป็นครั้งแรกของเธอ ด้วย ดนตรีและเทคนิคต่างๆมีความเหนือกว่าเวอร์จิ้นทัวร์ครั้งก่อนของเธอมาก Who's That Girl ได้รวมองค์ประกอบมัลติมีเดียเพื่อทำให้การแสดงน่าดึงดูดยิ่งขึ้น
1990 The Blond Ambition World Tour
The Blond Ambition World Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สามของมาดอนน่า สนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่สี่ของเธอLike a Prayer (1989) และอัลบั้มเพลงประกอบภาพยนตร์เรื่อง Dick Tracy, I'm Breathless ในปี 1990 ทัวร์แสดง 57 รอบ เริ่มในวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2533 ที่เมืองชิบะ ประเทศญี่ปุ่น และสิ้นสุดในวันที่ 5 สิงหาคม พ.ศ. 2533 ที่เมืองนีซประเทศฝรั่งเศส ยังถือเป็นการแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกของมาดอนน่าในสวีเดนและสเปนอีกด้วย เดิมทีมีแผนทำเป็นLike a Prayer World Tour ซึ่งตอนแรกจะได้รับการสนับสนุนจากเป๊ปซี่ แต่บริษัทได้ยกเลิกสัญญาหลังจากเกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับมิวสิควิดีโอเพลง "Like a Prayer"
1993 The Girlie Show
The Girlie Show เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่สี่ของ Madonna เพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มที่ห้าของเธอ Erotica (1992) ในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2535 ที่มาดอนน่าออกหนังสือเรื่องเพศ Erotica มาพร้อมกัน ซึ่งจบลงด้วยการเป็นอัลบั้มที่มียอดขายต่ำที่สุดของ Madonna ในเวลานั้น และมีกระแสต่อต้านจากแฟนเพลงและนักวิจารณ์ แถมมาพร้อมความล้มเหลวในคำวิจารณ์และรายได้ของหนังเรื่อง Body of Evidence ที่นำแสดงโดยมาดอนน่าด้วย ทัวร์ได้ประกาศในเดือนกรกฎาคม พ.ศ. 2536 ที่นักวิจารณ์บางคนบอกว่าทัวร์นี้จะเป็นหนทางที่จะช่วย "ฟื้นฟู" อาชีพทางดนตรีของเธอได้ หลังจากการเล่นหนังเรื่องนี้ที่ไม่ประสบความสำเร็จเลย โดยทัวร์นี้ตั้งชื่อตามภาพวาดของ Edward Hopper ที่มีชื่อว่า"Girlie Show" ได้ Christopher Ciccone น้องชายแท้ๆ ของ Madonna เป็นผู้อำนวยการทัวร์
2001 The Drowned World Tour
The Drowned World Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 5 ของ Madonna เพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 7 และ 8 ของเธอRay of Light (1998) และ Music (2000) ตามลำดับ ทัวร์เริ่มเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน พ.ศ. 2544 ในบาร์เซโลนา ประเทศสเปน และสิ้นสุดในลอสแองเจลิส แคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 15 กันยายน เป็นทัวร์ครั้งแรกในรอบแปดปีของเธอ หลังจากThe Girlie Show ในปี พ.ศ. 2536 ทัวร์ครั้งนี้เริ่มขึ้นเมื่อมาดอนน่าถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง The Next Best Thing เสร็จสิ้น และยังให้กำเนิดลูกชายชื่อ Rocco และแต่งงานกับผู้กำกับหนัง Guy Ritchie
2004 Re-Invention World Tour
Re-Invention World Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่หกของ Madonna เพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่เก้าของเธอAmerican Life (2003) ทัวร์เริ่มเมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ในเมืองอิงเกิลวูด และสิ้นสุดในวันที่ 14 กันยายนที่เมืองลิสบอน นอกจากนี้ยังถือเป็นการแสดงคอนเสิร์ตครั้งแรกของมาดอนน่าในโปรตุเกสและไอร์แลนด์อีกด้วย ข่าวลือเกี่ยวกับทัวร์คอนเสิร์ตเริ่มแพร่สะพัดไปทั่วในเดือนตุลาคม พ.ศ. 2546 แต่ไม่มีการยืนยันจนถึงเดือนมีนาคม พ.ศ. 2547 ชื่อทัวร์ Re-Invention ที่มาดอนน่าเลือกชื่อนี้ก็เพราะต้องการ "ประดิษฐ์" เนื้อหาเพลงเก่าของเธอขึ้นมาทำให้เป็นแบบใหม่ มี 24 เพลงเป็นเซ็ตลิสต์สุดท้าย Re-Invention แบ่งออกเป็นการแสดงตามธีมต่างๆ: Marie Antoinette, Military, Circus, Acoustic และ Scottish-Tribal; เสื้อผ้าสร้างสรรค์โดยดีไซเนอร์ Arianne Phillips, Stella McCartney, Christian Lacroix และ Karl Lagerfeld
2006 The Confessions Tour
The Confessions Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 7 ของ Madonna เปิดตัวเพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 10 ของเธอConfessions on a Dance Floor (2548) ทัวร์นี้เริ่มขึ้นที่เมืองอิงเกิลวูด เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม พ.ศ. 2549 และสิ้นสุดที่โตเกียว ในวันที่ 21 กันยายน โดยไปเยือนอเมริกาเหนือและยูโรปเช่นเดียวกับทัวร์ที่ผ่านมาของนักร้องสาว ถูกแบ่งออกเป็นการแสดงตามธีมต่างๆ: Equestrian, Bedouin, Never Mind the Bollocks และ Disco อย่างไรก็ตามการแสดงของมาดอนน่าในเพลง "Live to Tell" ที่เธอเอาตัวไปแขวนอยู่บนไม้กางเขนบนกระจกขนาดยักษ์สวมมงกุฎหนาม ก็มีปฏิกิริยาเชิงลบอย่างรุนแรงจากกลุ่มศาสนา การแสดงที่ Stadio Olimpico ในกรุงโรม ถูกผู้นำศาสนาประณามว่ามาดอนน่าเป็นปฏิปักษ์ต่อคริสตจักรนิกายโรมันคาธอลิก แต่มาดอนน่าอธิบายว่า เป็นความตั้งใจของเธอในการแสดงเพื่อดึงดูดความสนใจของเด็กนับล้านที่กำลังจะตายในแอฟริกา
2008-2009 The Sticky & Sweet Tour
The Sticky & Sweet Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่แปดของ Madonna เพื่อโปรโมตสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 11 ของเธอHard Candy (2008) เป็นการร่วมทุนครั้งใหญ่ครั้งแรกของมาดอนน่ากับ Live Nation ที่สนับสนุนอัลบั้ม Hard Candy ทัวร์ได้ประกาศในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2551 โดยมีการแสดงคอนเสิร์ตในยุโรปและอเมริกาเหนือ นอกจากนี้ยังถือเป็นการทัวร์เม็กซิโกและอเมริกาใต้ครั้งแรกของมาดอนน่าในรอบสิบห้าปี เริ่มที่คาร์ดิฟฟ์เมื่อวันที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2551 และสิ้นสุดที่เซาเปาโลเมื่อวันที่ 21 ธันวาคม หลังจากนั้นมาดอนน่ายังตัดสินใจกลับมาทัวร์ซ้ำอีกครั้งในฤดูร้อนปี2552 โดยมีคอนเสิร์ตอีก 27 คอนเสิร์ต ส่วนใหญ่จัดขึ้นในแถบทวีปยุโรป ในประเทศที่เธอไม่เคยไปเล่นมาก่อน โดยส่วนที่เพิ่มเติมในปี 2552 เริ่มต้นแสดงที่ O2 Arena ในลอนดอนเมื่อวันที่ 4 กรกฎาคมและสิ้นสุดในวันที่ 2 กันยายนในเทลอาวีฟ ตอนแรกยังวางแผนจะไปแสดงออสเตรเลีย แต่ทัวร์ก็ไม่ได้ไปเยือนออสเตรเลียเนื่องจากปัญหาทางการเงินการแสดงครั้งนี้ได้รับการอธิบายว่าเป็น "การเดินทางที่สนุกสนานไปกับเพลงร็อค" และเช่นเดียวกับทัวร์ครั้งก่อนๆของมาดอนน่า มีการแบ่งออกเป็นการแสดงตามธีมต่างๆ ได้แก่ Pimp, Old School, Gypsy และ Rave
2012 MDNA Tour
MDNA Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่เก้าของ Madonna ซึ่งเปิดตัวเพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 12 ของเธอMDNA (2012) ประกอบด้วยการแสดง 88 เมือง ทัวร์เริ่มในวันที่ 31 พฤษภาคม 2012 ที่สนามกีฬา Ramat Gan ของเทลอาวีฟ และปิดท้ายที่กอร์โดบา ประเทศอาร์เจนตินา เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2012 ข่าวลือที่มาดอนน่าจะเริ่มทัวร์คอนเสิร์ตครั้งนี้เริ่มขึ้นครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2011 แต่ไม่มีการยืนยันใดๆ จนกระทั่งอีกสี่เดือนต่อมา ถึงมีการยืนยันหลังจาก Madonna ไปแสดงช่วงพักครึ่งของการแข่งขัน Super Bowl และเป็นครั้งแรกที่เธอไปแสดงยังสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ยูเครน สกอตแลนด์ และโคลอมเบีย มีการวางแผนแสดงออสเตรเลียเช่นกันในเดือนมกราคม 2556 แต่ถูกยกเลิกไป
2015-2016 Rebel Heart Tour
Rebel Heart Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 10 ของ Madonna ซึ่งจัดแสดงเพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 13 ของเธอRebel Heart (2015) ประกอบด้วยการแสดง 82 เมือง ทัวร์ไปเยือนอเมริกาเหนือ เอเชีย ยุโรป และโอเชียเนีย เริ่มขึ้นในวันที่ 9 กันยายน 2015 ในมอนทรีออล ประเทศแคนาดา ที่ Bell Center และสิ้นสุดในวันที่ 20 มีนาคม 2016 ในซิดนีย์ประเทศออสเตรเลีย ที่ Allphones Arena ทัวร์นี้ได้รับการประกาศอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2015 ผ่านทางเว็บไซต์ของ Madonna และนำโดย Global Touring Division ของ Live Nation Entertainment ซึ่งดูแลโดย Arthur Fogel ซึ่งนี่เป็นการทำงานร่วมกันครั้งที่ห้าระหว่าง Madonna และ Live Nation นอกจากนี้ ทัวร์นี้ยังถือเป็นการเยือนไต้หวัน ไทย ฮ่องกง มาเก๊า ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และนิวซีแลนด์ เป็นครั้งแรกในชีวิตของนักร้องสาว และเป็นการเยือนออสเตรเลียครั้งแรกของเธอนับตั้งแต่ Girlie Show (1993) ด้วย
2019-2020 Madame X Tour
Madame X Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 11 ของ Madonna เพื่อสนับสนุนสตูดิโออัลบั้มชุดที่ 14 ของเธอ Madame X (2019) เริ่มในวันที่ 17 กันยายน 2019 ที่ BAM Howard Gilman Opera House ในนครนิวยอร์ก และสิ้นสุดในวันที่ 8 มีนาคม 2020 ที่ Grand Rex ของปารีส ทัวร์จัดขึ้นในโรงละครทั้งหมด นับเป็นครั้งแรกของนักร้องสาวที่เล่นในสถานที่เล็กๆ นับตั้งแต่ The Virgin Tour (1985) ก่อนหน้านี้มาดอนน่าเคยแสดงความสนใจที่จะทำโชว์ขนาดเล็กระหว่างการให้สัมภาษณ์ในปี 2560 ทัวร์นี้แสดงในสหรัฐอเมริกา อังกฤษ ฝรั่งเศส และโปรตุเกสเท่านั้น โดยห้ามนำโทรศัพท์มือถือและนาฬิกาอัจฉริยะเข้าไปในคอนเสิร์ต ซึ่งแฟนๆ ก็ยินดีทำตาม
2023 The Celebration Tour
Madonna: The Celebration Tour เป็นทัวร์คอนเสิร์ตครั้งที่ 12 ครั้งล่าสุดของ Madonna ที่บอกว่าจะเป็นโปรดักชันที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเท่าที่นักร้องสาวเคยทำมา โดยจะเล่นเพลงจากทุกยุคทุกสมัย 40 ปีในอาชีพการงานของเธอ มีกำหนดจะเริ่มในวันที่ 15 กรกฎาคม พ.ศ. 2566 นี้ ที่โรเจอร์ส อารีน่าในแวนคูเวอร์ ประเทศแคนาดา และจะสิ้นสุดในเดือนธันวาคมของปีนี้ ที่ Ziggo Dome ในอัมสเตอร์ดัม จะไปเยือนเมืองต่างๆ ในอเมริกาเหนือและยุโรป เป็นการเน้นย้ำถึงอาชีพการทำงานเพลงกว่า 40 ปีของเธอ