เหตุผล 'ลิซ่า Blackpink' อาจไม่ต่อสัญญา YG ค่ายอื่นรุมแย่ง นับพันล้าน
13 ก.ค. 2566
เปิดเหตุผล "ลิซ่า Blackpink" และ "เจนนี่ - จีซู - โรเซ่" สมาชิกวง BLACKPINK อาจไม่ต่อสัญญา YG Entertainment หลังเคยมีกระแสข่าวค่ายอื่นรุมแย่ง เสนอกว่าพันล้าน
สะเทือนวงการไปทั่วโลก หลังจากที่มีประแสข่าวว่า "ลิซ่า Blackpink" หรือ "ลิซ่า ลลิษา มโนบาล" อาจจะไม่ต่อสัญญากับทาง YG Entertainment ซึ่งอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ก็ใกล้ถึงเวลาที่ BLACKPINK จะสิ้นสุดสัญญากับทางค่ายแล้ว
- ปลายปี 2022 ศิลปินเกาหลีจากค่ายยักษ์ใหญ่ "YG Entertainment" อาทิ BIGBANG , I-KON ต่างทยอยโบกมืออำลาบ้านเดิม เตรียมเดินไปเส้นทางใหม่ พร้อมกระแสข่าว 4 สาว "เจนนี่ - จีซู - โรเซ่ - ลิซ่า" จาก "Blackpink" อาจจะไม่ต่อสัญญา
- ช่วงต้นเดือน ม.ค. 2023 เกิดแฮชแท็ก #LisaLeaveYG ฮือฮาไปทั่วโลก หลังจากที่สื่อต่างประเทศมีรายงานข่าวว่า ค่ายต่างประเทศหลายแห่ง อาทิ ประเทศจีนต่างเสนอราคาเพื่อให้ "ลิซ่า Blackpink" ย้ายจากค่าย YG สำหรับจำนวนเงินที่เป็นกระแสข่าวนั้น สูงถึง 81 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 1 แสนล้านวอน ซึ่งถ้าตีเป็นไทยจะอยู่ที่ประมาณ 2.7 พันล้านบาท
เปิดเหตุผล BLACKPINK อาจไม่ต่อสัญญา
- YG ขึ้นชื่อเรื่องดองงานเพลง หากย้อนไปตลอดระยะเวลาที่ BLACKPINK เดบิวต์ แม้จะมีผลงานเพลงฮิตติดชาร์จมากมาย แต่นับรวมๆแล้ว เพลงทั้งหมดไม่ถึง 50 เพลง และเคยออกอัลบั้มแค่ 2 ชุดเท่านั้น คือ The Album และ Born Pink ซึ่งไม่สมเหตุสมผลกับอายุเวลาในวงการของวง
- สมาชิกในวง BLACKPINK มีความถนัด และความสนใจแตกต่างกัน และนับได้ว่าทรงอิทธิพลระดับโลก ส่งผลให้มีฐานะแฟนคลับเฉพาะตัวอยู่แล้ว รวมถึงทุกคนยังขึ้นแท่น Brand Ambassador ระดับโลก ซึ่งครองอยู่ในมือไปต่ำกว่า 1 แบรนด์
- หากค่ายจะทำสัญญาให้อยู่ต่อ คาดการณ์ว่า น่าจะต้องเสนอเงินค่าต่อสัญญากว่า 2 หมื่นล้านวอน หรือ อย่างน้อยประมาณ 500 กว่าล้านบาท
- สมมติ หาก BLACKPINK ไม่ต่อสัญญา แต่ยังคงเป็นสมาชิกในวง เฉกเช่นเดียวกับวง GOT7 ที่มี "แบมแบม" เป็นสมาชิก ทุกคนต่างไม่ต่อสัญญากับค่ายเดิม และแยกกันไปอยู่คนละค่าย แต่ยังคงกลับมาจับมือปล่อยเพลงร่วมกัน
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ เป็นเพียงข้อสันนิษฐานที่รวบรวมจากข้อมูลข่าวที่เคยเกิดขึ้นทั้งหมด ซึ่งต้องรอทางค่ายต้นสังกัด รวมถึงตัวศิลปินออกมายืนยันข้อเท็จจริงอีกครั้ง