พูดที่แรก 'เจนนี่ BLACKPINK' ระบายกับ Dua Lipa สับสน แรปเปอร์ทำหวิดหมดไฟ
พูดครั้งแรก "เจนนี่ BLACKPINK" หรือ "Jennie Kim" เล่าหมดเปลือกในรายการพอดคาสต์ "At Your Service" ของศิลปินระดับโลก "Dua Lipa" (ดัว ลิปา) ตำแหน่งแรปเปอร์ของวงทำหวิดหมดไฟ
ตกเป็นประเด็นร้อนแรงเสมอ สำหรับการเคลื่อนไหวของสาวๆวง BLACKPINK รวมถึงศิลปินสุดฮอต "เจนนี่ BLACKPINK" หรือ "Jennie Kim" ที่เพิ่งจะก้าวสู่บทบาทนักแสดงครั้งแรก พร้อมอุปสรรคมากมาย อาทิ ครั้งที่แสดงเวิลด์ทัวร์ ณ เมืองเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ในระหว่างการแสดง เจนนี่ได้ลงจากเวที และไม่ได้กลับมาในช่วงที่เหลือของคอนเสิร์ต
ต่อมา ทางค่ายเพลง YG Entertainment ได้กล่าวขอโืษ พร้อมกับแจ้งว่า "เจนนี่ไม่สามารถขึ้นเวทีได้เนื่องจากสภาพร่างกายที่ทรุดโทรมของเธอ" อีกทั้งก่อนหน้านี้ เจนนี่ยังกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร้องไห้ขณะร้องเพลง Tally บนเวทีคอนเสิร์ต ล่าสุด "เจนนี่ BLACKPINK" ได้ออกมาเปิดใจ ถึงการเป็นแรปเปอร์ของวง จนทำให้เธอเกือบจะหมดไฟ ผ่านรายการพอดคาสต์ "At Your Service" ของศิลปินระดับโลก "Dua Lipa" (ดัว ลิปา)
เริ่มแรก เจนนี่ได้กล่าวถึงจุดเริ่มต้นในการก้าวสู่การเป็นแรปเปอร์ของวง "ฉันรู้ว่าหนึ่งในเหตุผลที่คุณมาเป็นแรปเปอร์ก็เพราะคุณพูดภาษาอังกฤษได้ดี เลยได้รับมอบหมายท่อนแรป"
Dua Lipa : เกิดอะไรขึ้นกับคุณเมื่อคุณแรปท่อนที่สองใน DDU-DU DDU-DU?
เจนนี่ BLACKPINK : "ฉันไม่เคยพูดแบบนี้ที่ไหนเลย แต่ฉันอยากจะพูด หลังจากเดบิวต์ เราชอบเพลง 6 เพลงที่ฉันจะแรปแบบจริงจัง และระหว่างทางฉันค่อนข้างสับสนเพราะฉันรู้ว่ามีด้านที่ใหญ่ในตัวฉันที่ชอบร้องเพลง แต่จริงๆ แล้วฉันไม่เคยมีโอกาสสำรวจสิ่งนั้น ในฐานะเด็กฝึกเพราะฉันถูกบอกว่าฉันควรจะเป็นแรปเปอร์ มีช่วงหนึ่งที่ฉันเกลียดการแรป ฉันรู้สึกแบบว่า "นี่ไม่ใช่แบบที่ฉันชอบ นี่ไม่ใช่การเดินทางที่ฉันคิดไว้ในหัว ฉันไม่คิดว่าตัวเองเป็นแรปเปอร์" ดังนั้นฉันจึงมีความเหนื่อยหน่ายและรู้สึกหมดไฟอย่างแน่นอน"
พร้อมกันนี้ ยังได้เล่าเส้นทางการเป็นศิลปิน K-Pop "ตอนเริ่มเป็นศิลปิน K-Pop ทำกิจกรรมในเกาหลีใต้ มีข้อจำกัดหลายอย่างที่ฉันยังไม่ได้รับอนุญาตให้แสดงออกไปได้ เพราะว่ามีคำจำกัดความไอดอลเคป็อปอยู่ แต่พอเวลาผ่านไปนานวันขึ้น ฉันสามารถที่จะแสดงตัวตนออกมา และแฟนๆ จะได้เห็นการทลายขอบเขตออกไปเรื่อยๆ ตอนนั้นทำให้ฉันตระหนักได้ว่า ยิ่งอยากจะทำลายกำแพงให้ผู้คนที่อยู่ในวัฒนธรรมร่วมเข้าใจว่า คุณเองก็สามารถที่จะแสดงตัวตนออกมาเท่าไหร่ก็ได้ตามที่ใจต้องการค่ะ"
"คนที่รักษาความสำคัญของตัวตนและความเป็นตัวเองไว้ได้ภายใต้ระบบการฝึกเข้มข้น กลายเป็นคนที่ได้อยู่ในวงตอนนี้ค่ะ มีหลายคนหลงทาง เพราะติดอยู่กับที่ว่าจะทำยังไงให้คนที่ร่วมงานด้วยพึงพอใจ แต่ก็มีความไม่แน่ใจเกิดขึ้นว่า แล้วใครกันแน่ที่เราต้องทำเพื่อสิ่งเหล่านั้น รวมทั้งเราจะนิยามตัวเองยังไงในอนาคตล่ะ เพราะมันใช้เวลาหลายปีอยู่นะคะ ไม่ใช่แค่สองชั่วโมง ดังนั้นคุณต้องดำดิ่งไปกับไลฟ์สไตล์ที่เขาเลือกเอาไว้ แต่สำหรับฉัน สำหรับสาวๆ ไม่รู้สิคะ มันมีเรื่องให้ถกเถียงได้นะถ้าพูดออกไป"