รึวิว มหากาพย์ไซไฟ ‘Dune: Part 2‘ ยิ่งใหญ่อลังการ สมการรอคอย
การกลับมาอีกครั้งของมหากาพย์ไซไฟ "Dune: Part 2" ที่ภาคล่าสุดนี้มาพร้อมกับความอลังการงานสร้างที่น่าตื่นตาตื่นใจ แม้หนังจะยาวเกือบ 3 ชั่วโมง แต่ไม่มีช่วงที่น่าเบื่อและไม่อาจละสายตาไปจากหน้าจอได้เลย
Dune: Part 2 เล่าเรื่องต่อเนื่องกับการเดินทางในตำนานของ พอล อะเทรดีส ในขณะที่เขารวมตัวกับ ชานิ และ เฟรเมนขณะอยู่บนเส้นทางแห่งการแก้แค้นต่อผู้สมรู้ร่วมคิดที่ทำลายครอบครัวของเขา เมื่อต้องเผชิญกับทางเลือกระหว่างความรักในชีวิตของเขากับชะตากรรมของจักรวาลที่เขารู้จัก เขาพยายามที่จะป้องกันอนาคตอันเลวร้ายที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถคาดเดาได้
ผู้กำกับ "เดอนี วีลเนิฟว์" ยังคงสร้างสรรค์ความตื่นตะลึงกับงานสร้างและการดีไซน์โลกแห่งทรายใน Dune: Part 2 ที่เป็นหนึ่งในความยอดเยี่ยมในการออกแบบงานสร้างทุก ๆ ด้าน มีความตระการตาและเก็บรายละเอียดได้ครบ งานถ่ายภาพ การจัดแสง การจัดมุมต่าง ๆ ทำออกมาได้อย่างพิถีพิถัน
ในส่วนนักแสดงนำ "ทิโมธี ชาลาเมต์" มีเสน่ห์มาก เขาสามารถแบกหนังทุนสร้าง 200 ล้านเอาไว้บนบ่าของเขาได้อย่างสบาย ๆ สวมวิญญาณเป็นพอล เสาหลักของหนังได้อย่างน่าดึงดูด
ส่วน "เซนเดยา" ตัวละครของเธอก็มีเสน่ห์มาก มีพัฒนาการและมีมิติเพิ่มขึ้นเยอะจากเดิม
"รีเบคกา เฟอร์กูสัน" มาพร้อมกับการแสดงที่ทรงพลังและน่าเกรงขาม
ด้าน "ฟลอเรนซ์ พิว" เพิ่งถูกแนะนำในภาคนี้ แต่ก็สัมผัสได้ว่าเธอจะเป็นหนึ่งในตัวละครที่สำคัญในลำดับต่อไป
ส่วน "ออสติน บัตเลอร์" ก็ขโมยซีนสุดๆ การแสดงของเขาทำให้เรากลัวจนขนลุก
สรุปแล้ว Dune: Part 2 คือมหากาพย์หนังไซไฟอันทรงคุณค่า ที่ควรต้องไปดู จังหวะการเล่าเรื่องและทิศทางของเรื่องก็ถูกยกระดับความสนุกขึ้นไปอีกเยอะ จากภาคแรกที่ความสนุกอาจจะยังไม่สุด เพราะภาค 2 นี้เป็นการปล่อยของแบบชุดใหญ่ มีฉากแอคชันมันๆ สวยๆ มากมาย ตอบโจทย์คนดูที่อยากเสพความบันเทิงที่มีคุณภาพของหนังในทุกด้านได้อย่างสมบูรณ์แบบจริงๆ กำหนดฉายในไทย: 29 กุมภาพันธ์ 2024 (ในโรงภาพยนตร์)