ค่าตัว "ลิซ่า" ยอมทุ่มจ่าย ขยายตลาดทั่วโลก ล่าสุด "Louis Vuitton" จีบติด
"Tight dress, LV sent it" ค่าตัวพุ่ง "ลิซ่า BLACKPINK" ล่าสุด "Louis Vuitton" จีบติด นั่งตำแหน่ง House Ambassador หลังเคยสร้างมูลค่าสื่อสูง ทุกแบรนด์ยอมทุ่มจ่ายมากกว่า 100 ล้าน เพื่อขยายตลาดทั่วโลก
ทั่วโลกพากันจับตา นับตั้งแต่ "ลิซ่า BLACKPINK" หรือ "ลิซ่า ลลิษา มโนบาล" ช่วงหลังๆมานี้ไม่ได้ใช้กระเป๋า เสื้อผ้าจากแบรนด์ประจำ แต่มีแบรนด์คู่กายรุ่นเก๋าเคียงข้างอยู่ตลอดอย่าง "Louis Vuitton (หลุยส์ วิตตอง)" ไหนจะในเพลง ROCSTAR ที่รอบนี้ไม่มีเนื้อร้องคำว่า "and I'm still in CELINE" แต่กลายเป็น "Tight dress, LV sent it" ในเนื้อเพลง "ROCKSTAR"
หลังจากปล่อยให้นั่งสันนิษฐานกันมาสักระยะหนึ่ง เฉลยแล้ว "ลิซ่า ลลิษา" ได้รับเลือกให้เป็น "House Ambassador" คนใหม่ล่าสุด ของแบรนด์หรู "Louis Vuitton" ซึ่งก่อนหน้านี้ หนุ่มสาวไทยอย่าง "ญาญ่า อุรัสยา เสปอร์บันด์" และ "แบมแบม กันต์พิมุกต์ ภูวกุล" ก็มาร่วมจอยกับแบรนด์นี้เช่นกัน
สร้างมูลค่าทางสื่อให้ LV แค่งานแรก สูงหลักร้อยล้าน
คำถามต่อมา หลังจากร่วมงานกับแบรนด์ใหม่ คงไม่พ้น ค่าตัว "ลิซ่า ลลิษา" ในการนั่งแบรนด์นี้ เพราะหากย้อนไปช่วง มี.ค. ที่ผ่านมา ครั้งที่ ลิซ่า ได้ปรากฏตัวในฐานะแขกคนสำคัญของเเบรนด์ เพื่อเข้าร่วมโชว์ฉลองครบรอบการทำงาน 10 ปีของ "Nicolas Ghesquière" ดีไซเนอร์ชื่อดังในแฟชั่นโชว์คอลเลกชั่น ฤดูใบไม้ร่วง/ฤดูหนาว 2024 ณ เมืองปารีส ประเทศฝรั่งเศส
จากการเข้าร่วมโชว์ในครั้งนี้ ลิซ่า ได้สร้างมูลค่าทางสื่อสูงถึง 230 ล้านบาทไทย จนขึ้นเเท่นเป็นเเบรนด์ที่มีมูลค่าสื่อสูงที่สุดในช่วงเเฟชั่นวีคที่ผ่านมา และงานแรกที่จะปรากฏตัวในฐานะ House Ambassador คือ เเฟชั่นโชว์คอลเลกชั่นฤดูใบไม้ผลิ/ฤดูร้อน 2025 ที่จะเกิดขึ้นช่วง 1 ต.ค. 2024 เวลา 23:30 น. (ตามเวลาประเทศไทย)
ค่าตัว ลิซ่า สมัยนั่ง GBA ของ CELINE
ช่วงที่ ลิซ่า อยู่กับ CELINE แบรนด์แฟชั่นลักชูรี่สัญชาติฝรั่งเศสในเครือ LVMH เช่นกัน มีรายงานว่า ทางแบรนด์ได้จ่ายเงินให้ลิซ่ามากกว่า 80.5 ล้านดอลลาร์ หรือราว 2,900 ล้านบาท ในฐานะโกลบอลแอมบาสเดอร์ที่กวาดเงินให้เเบรนด์อย่างมหาศาล และมีการประเมินว่า การโพสต์ CELINE บนอินสตาแกรมของลิซ่าได้สร้างมูลค่าทางสื่อราว 1.37 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ ราว 46 ล้านบาท
แบรนด์อื่นทุ่มจ่ายหลักร้อยล้านเพื่อนขยายตลาดระดับโลก
นอกจากแบรนด์แฟชั่น ลิซ่า เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ดูแลช่องปาก "Dentiste (เดนทิสเต้)" เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทได้เซ็นสัญญากับ ลิซ่า ต่ออีกปี โดยมีค่าตัวประมาณ 4 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ ประมาณกว่า 100-140 ล้านบาท เป็นสัญญาแบบปีต่อปี
ภาพรวมของบริษัทมีการส่งออกไปใน 17 ประเทศทั่วโลก โดยมีฐานการผลิตหลักอยู่ในประเทศไทย เกาหลีใต้ และล่าสุดเยอรมนี ขณะที่แผนของเดนทิสเต้ ในปี 2567 เตรียมขยายตลาดไปในประเทศสหรัฐอเมริกา และในยุโรปอย่างจริงจังมากขึ้น