เปิดเบื้องหลังสุดเจ็บปวด "เซลีน ดิออน" สู้โรคร้ายเพื่อร้องเพลงโอลิมปิก
เปิดเบื้องหลังสุดเจ็บปวดของศิลปินระดับโลก "เซลีน ดิออน" ที่เธอต้องต่อสู้กับโรคร้ายสุดทรมาน แต่การสู้ครั้งนี้ทำให้เธอได้กลับมาร้องเพลงอีกครั้งในพิธีเปิดโอลิมปิก 2024
เบื้องหน้าสวยงามแต่เบื้องหลังเต็มไปด้วยความเจ็บปวดสำหรับ เซลีน ดิออน นักร้องระดับตำนานชาวแคนาดา เชื้อสายฝรั่งเศสวัย 56 ปี เจ้าของเพลง My Heart Will Go On ที่กลับมาขึ้นโชว์อีกครั้งหลังจากต้องพักงานในสายอาชีพเพราะป่วยหนัก
เซลีน ดิออน ร้องเพลงปิดท้ายพิธีเปิดการแข่งขันโอลิมปิกท่ามกลางสายฝนบนหอไอเฟล ในเพลง Hymne à l’amour (Hymn To Love) หนึ่งในเพลงเอกของ เอดิต ปียัฟ (Edith Piaf) ตำนานศิลปินหญิงผู้ล่วงลับชาวฝรั่งเศสซึ่งการปรากฎตัวของ ดิออน บนหอไอเฟลครั้งนี้ถือเป็นการกลับมาขึ้นเวทีครั้งแรกในรอบ 4 ปี และเป็นนี่เป็นการขึ้นร้องเพลงในพิธีเปิดโอลิมปิก ครั้งที่ 2 ของเธอโดยครั้งก่อนหน้านี้คือแอตแลนต้า เกมส์ ในปี 1996 หรือเมื่อ 28 ปีที่แล้ว
เซลีน ดิออน ป่วยเป็น โรคคนแข็ง หรือเอสพีเอส (SPS-Stiff Person Syndrome : โรคทางระบบประสาทส่วนกลางในกลุ่มที่เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายทำงานผิดปกติ) ซึ่งเป็นโรคที่พบได้ยาก เพราะเจอเพียง 1 ใน 1 ล้านคนเท่านั้น ทำให้เธอต้องหยุดทัวร์คอนเสิร์ตตั้งแต่ปี 2022 และต้องต่อสู้กับอาการป่วยมานานหลายปี การแสดงครั้งสุดท้ายของเธอคือในคอนเสิร์ต British Summer Time Hyde Park ที่ลอนดอนในเดือนกรกฎาคม 2019
แต่กว่าจะกลับมายืนตรงนี้ได้ เซลีน ดิออน ต้องต่อสู้กับอะไรมากมาย โดยเธอได้เคยให้สัมภาษณ์กับทาง Vogue ฉบับภาษาฝรั่งเศส เมื่อต้นปีที่ผ่านมา ถึงการรักษาและฟื้นฟูร่างกายเพื่อจะกลับมาโชว์ได้อีกครั้ง เธอเข้ารับบำบัดทางกายภาพและฝึกการเปล่งเสียงทุกวันเพื่อทำให้กลับมาร้องเพลงได้ เป้าหมายของฉันคือได้เห็นหอไอเฟลอีกครั้ง!
และในสารคดี Amazon Prime ของเธอเรื่อง I Am: Céline Dion ซึ่งเปิดเผยชีวิตประจำวันของซูเปอร์สตาร์ที่ต้องใช้ชีวิตอยู่กับอาการป่วยที่ทำให้ร่างกายทรุดโทรม เธอได้แสดงให้เห็นถึงความทุกข์ทรมานจากอาการชักวิกฤตที่ทรมานนานถึง 10 นาที โดยวีดีโอดัลกล่าว ออกอากาศเมื่อเดือนมิถุนายนในปีนี้
เซลีน ดิออน กล่าวว่า 'แม้ว่าเราจะยังคงเรียนรู้เกี่ยวกับภาวะที่หายากนี้ แต่ตอนนี้เรารู้แล้วว่านี่คือสาเหตุที่ทำให้ฉันเกิดอาการกล้ามเนื้อกระตุก ขณะนี้ยังไม่มีวิธีรักษาโรค SPS แต่ก็มีขั้นตอนบางอย่างที่สามารถทำได้เพื่อชะลออาการ ซึ่งเธอกำลังศึกษาเรื่องนี้อยู่ โดย อาการกระตุกเหล่านี้ส่งผลต่อชีวิตประจำวันของฉันทุกด้าน บางครั้งทำให้ฉันเดินลำบากและไม่สามารถใช้เสียงร้องเพลงได้เหมือนอย่างเคย เธอไม่สามารถควบคุมกล้ามเนื้อของตัวเองได้มากเท่าเมื่อก่อน แต่เธอก็กำลังทำงานร่วมกับแพทย์และนักกายภาพบำบัดเพื่อให้อาการดีขึ้น และในที่สุดเธอก็ทำได้….กับการกลับมาจับไมค์อีกครั้ง