ประวัติ "จูจีฮุน" เจ้าชายเย็นชา อดีตเอี่ยวคดียา ฝ่ามรสุม คืนบัลลังก์
เปิดชีวิต "จูจีฮุน (Ju Ji Hoon)" เจ้าชายเย็นชา พระเอกดังกลับมาทวงบัลลังก์ซีรีส์ หลังฝ่าข่าวฉาว เอี่ยวคดียา สะเทือนวงการบันเทิงระดับเอเชีย
ติ่งเกาหลีทั้งหลายต่างต้องคุ้นตา และตกหลุมรัก "เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา" ซีรีส์ชื่อดังที่ยังคงครองใจใครหลายคน รวมถึงปราบปลื้มกับพระเอกหนุ่มรูปงาม "จูจีฮุน (Ju Ji Hoon)" ผู้รับบท "องค์ชายลีชิน" แม้ว่าจะเคยห่างหายจากวงการไปช่วงหนึ่งด้วยคดีสุดอื้อฉาส ถึงขั้นถูกตัดสินให้จำคุก ก่อนจะพิสจูน์ตัวเอง และกลับมาสร้างผลงานในแฟนๆได้รับชมกันอีกครั้ง
ประวัติ จูจีฮุน (Ju Ji Hoon)
เกิดวันที่ 16 พฤษภาคม ค.ศ. 1982 (42 ปี) เมืองโซล ประเทศเกาหลีใต้ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยคย็องกี และเร่ิมเข้าวงการในปี 2023 ด้วยหน้าตาอันโดดเด่น และความสูงกว่า 188 เซนติเมตร
จุดเริ่มต้นเส้นทางบันเทิง
- ปี 2003 ได้ก้าวสู่วงการในบทบาทของนายแบบ อาทิ ถ่ายแบบให้แบรนด์กางเกงยีนส์ลีวายส์ และผลิตภัณฑ์กีฬารีบอค
- กระทั่งในปี 2006 ได้แสดงซีรีส์เรื่องแรกในบทบาทของพระเอก รับบท "องค์ชายรัชทายาทลีชิน" ในซีรีส์ "Princess Hours เจ้าหญิงวุ่นวายกับเจ้าชายเย็นชา" ซึ่งนับว่า ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ทำลายสถิติเรตติ้งละครโทรทัศน์ของเกาหลีใต้ด้วยค่าผู้ชมสูงถึง 28.3% และได้รับความนิยมไปทั่วทั้งทวีปเอเชีย จนคว้ารางวัลนักแสดงดาวรุ่งชายยอดเยี่ยม จากงานประกาศผลรางวัลของสถานีโทรทัศน์เอ็มบีซี
ขึ้นแท่นพระเอกดังระดับเอเชีย
- ตอกย้ำความสำเร็จ ด้วยการแสดงซีรีส์เรื่อง "The Devil คำพิพากษาซาตาน" แสดงร่วมกับ "ออมแทอุง และ ชิน มินอา" และคว้ารางวัลนักแสดงดาวรุ่งชายยอดเยี่ยมแห่งเอเชีย จากงานประกาศผลรางวัลละครโทรทัศน์แห่งเอเชียครั้งที่ 1
- พร้อมกับมีผลงานอย่างต่อเนื่อง โดยก้าวสู่การแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกในเรื่อง "Antique หล่อ หรู ร้าย รัก" เมื่อปี 2008 และได้รับเชิญให้เข้าฉายในเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ครั้งที่ 59
- ปี 2019 โคจรกลับมาเจอกับนางเอก "ชิน มินอา" อีกครั้ง ในภาพยนตร์โรแมนติก "The Naked Kitchen ปรุงหัวใจ สูตรเจ้าชายเย็นชา"
ฝ่าอุปสรรค เอี่ยวข่าวฉาว
- ย้อนไปเมื่อวันที่ 27 เมษายน 2009 เกิดข่าวใหญ่สะเทือนอุตสาหกรรมสื่อบันเทิงระดับเอเชีย หลังจากมีรายงานว่า จูจีฮุน ได้ถูกจับกุมในข้อหาร่วมกันเสพยาเสพติด พร้อมกับกลุ่มเพื่อนอีก 15 คน
- ในวันที่ 23 มิถุนายน 2009 เขาได้สารภาพต่อศาลว่า ใช้สารเสพติด เคตามีน จริง และศาลได้ตัดสินจำคุกเป็นเวลา 6 เดือน รอลงอาญา 1 ปี พร้อมกับบำเพ็ญประโยชน์ต่อสังคมอีก 120 ชั่วโมง และต้องจ่ายค่าปรับอีก 360,000 วอน
- เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2010 จูจีฮุนได้เข้าร่วมรับราชการทหาร และปลดประจำการทหารในปี 2011 ซึ่งนับว่า จูจีฮุนได้ห่างหายจากวงการไปกว่า 3 ปีด้วยกัน
คืนวงการ
- หลังจากเผชิญพิษข่าวฉาวในครั้งนี้ จูจีอุนก็ได้พิสูจน์ตัวเอง จนเมื่อปี 2012 จูจีฮุนได้กลับมาอยู่บนหน้าจอการแสดงอีกครั้งในภาพยนตร์ "I Am the King" และแสดงซีรีส์แนวพีเรียด "Five Fingers เบญจดรรชนี ดนตรีแห่งรัก" ตามด้วยภาพยนตร์ "Marriage Blue" และซีรีส์ "Medical Top Team"
โกอินเตอร์ต่างแดน
- ปี 2014 มีผลงานต่างประเทศเป็นเรื่องแรก "Love Suspicion" ภาพยนตร์โรแมนติกระทึกขวัญสัญชาติจีน และในปีเดียวกันได้แสดงภาพยนตร์เกาหลีเรื่อง "Confession"
- ปี 2015 แสดงภาพยนตร์พีเรียดย้อนยุค "The Treacherous" และซีรีส์ "Mask หน้ากากหัวใจ" ซึ่งทำให้ จูจีฮุน กลับมาคว้ารางวัลอีกครั้ง ได้แก่ นักแสดงชายยอดเยี่ยมจ จากงาน SBS Drama Awards 2015
- ปี 2016 มีผลงานอย่าง "Asura: The City of Madness" ซึ่งเป็นภาพยนตร์ทริลเลอร์ที่ถูกเลือกให้ไปฉายเปิดเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติโทรอนโต ครั้งที่ 41 และยังได้รับรางวัลนักแสดงภาพยนตร์ยอดนิยม จากงานประกาศผลรางวัลภาพยนตร์แห่งชาติของเกาหลีใต้
- ปี 2017 ได้ร่วมแสดงภาพยนตร์สัญชาติเกาหลีใต้ฟอร์มยักษ์อย่าง "ฝ่า 7 นรกไปกับพระเจ้า" ซึ่งกวาดรายได้สูงถึง 108.2 ล้านเหรียญสหรัฐ และเป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงเป็นอันดับ 3 ในเกาหลีใต้ และในปี 2018 มีผลงานภาพยนตร์อย่างต่อเนื่อง อาทิ The Spy Gone North และ Dark Figure of Crime
- ปี 2019 ได้ร่วมแสดงในซีรีส์ "Kingdom ผีดิบคลั่ง บัลลังก์เดือด" ผลงานจาก Netflix ที่กวาดความนิยมสูงสุดเช่นกัน ก่อนจะหวนคืนจอโทรทัศน์ครั้งแรกในรอบ 4 ปี ในเรื่อง "Item" พร้อมกับมีผลงานกับแพลตฟอร์มยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่างต่อเนื่อง ได้แก่ "Hyena เกมกฎหมาย" และ "Kingdom ซีซั่น 2"
- ปี 2021 มีผลงานการแสดงเรื่อง Jirisan แสดงคู่กับ จอนจีฮยอน
ปี 2024 กลับมาทวงบัลลังก์พระเอกแนวหน้า
หลังจากนั้นได้ห่างกายจากการแสดงไปราวๆ 2 ปีกว่า และกลับมาปล่อยผลงานแบบรัวๆให้แฟนๆได้ชมกันในปี 2024 ด้วยการร่วมแสดงนำในซีรีส์ทางแพลตฟอร์ม Disney+ Hotstar ประเดิมด้วยเรื่อง "Blood Free" ประกบคู่กับ "ฮันฮโยจู"
ตามมาด้วยซีรีส์แฟนตาซีที่รีเมคมาจากเว็บตูนชื่อดังของ "คังฟู" ผู้สร้าง "Moving" อย่างเรื่อง "Light Shop" และในช่วงเวลาเดียวกันก็หวนกลับมาแสดงซีรีส์แนวรอมคอมอย่าง "Love Youe Enemy" ที่มีฉากหนึ่งได้ร้องเพลงประกอบซีรีส์ เจ้าชายเย็นชา จนกลายเป็นไวรัลดัง