'Paper Planes' วางตัวเป็นพี่ชาย สุขมากขึ้น พร้อมเปิดใจอาการแพนิค
2 หนุ่มวง 'Paper Planes (เปเปอร์ เพลนส์)' เปิดใจถึงการใช้ชีวิตกับเด็กๆ รู้สึกยิ่งใหญ่มาก - รับไม่ได้เพอร์เฟค ทางด้าน 'ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ' เล่าอาการแพนิคที่เจอ จน 'เซน นครินทร์ ขุนภักดี' ต้องเคยรีบหายาให้กิน
'Paper Planes (เปเปอร์ เพลนส์)' พา 'ทรงอย่างแบด' ฮิตติดชาร์ต ครองใจวัยรุ่นฟันน้ำนม จนกลายเป็นวลีติดปาก ทั้งเด็ก และผู้ใหญ่ และกลายเป็นเพลงชาติของวัยรุ่นฟันน้ำนมไปแล้วนั้น ล่าสุด บริษัท แลคตาซอย จำกัด คว้าตัวศิลปินร็อคมาแรง 'ฮาย ธันวา เกตุสุวรรณ' และ 'เซน นครินทร์ ขุนภักดี' ขึ้นตำแหน่งพรีเซ็นเตอร์ ผลิตภัณฑ์ แลคตาซอย 125 มล. พร้อมทั้งเตรียมเซอร์ไพรส์จัดทำเพลงหนังโฆษณาชุดใหม่ เตรียมออกอากาศปลายเดือนนี้
แต่ก่อนจะไปถึงเวลานั้น 'ฮาย' และ 'เซน' ศิลปินวง Paper Planes ได้เปิดความในใจถึงควาทเปลี่ยนแปลงในชีวิตว่า "ชีวิตเปลี่ยน เริ่มชินกับเด็กๆทุกที่ที่ไปรู้สึกเหมือนบ้าน ไปเจอผู้ใหญ่ไม่รู้สึกว่าเป็นคนแปลกหน้า แต่รู้สึกเหมือเป็นญาติของเรา เจอน้องๆ เหมือนเป็นน้อง เป็นหลาน เป็นลูก รู้สึกเรามีครอบครัวที่ใหญ่ขึ้น รู้สึกว่าอบอุ่นขึ้น มีความสุขมากขึ้น ตอนนี้งานกลางวันเข้ามาแทรกและกลางคืนยังคงเล่นอยู่ ตอนนี้ลดงานเบื้องหลัง เอาเวลาไปนอน งานตอนนี้จะเป็นห้างสรรพสินค้าและอีเว้นท์ในที่โล่งที่เด็กสามารถเข้าได้"
(การที่เด็กเห็นเราเป็นหัวหน้าแก๊งฟันน้ำนม?) ฮาย : รู้สึกตลก รู้สึกว่ายิ่งใหญ่มากๆ แต่ตอนนี้วางตัวเองไว้เป็นพี่ชายให้เด็กๆ เรารู้สึกว่าอาจจะให้สิ่งๆ กับเด็กได้มาก แต่เราก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งไม่ได้เพอร์เฟ็กท์ 100% เลยคืดว่าการวางตัวเป็นพี่ชายเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะคนคนนึงที่จะมีน้อง เค้าจะแสดงให้น้องๆ เห็นแบบไหน ก็คงต้องสอนให้น้องเป็นคนดี การใช้ชีวิตมีปรับเปลี่ยนนิดหน่อย แรกๆ คิดว่าจะกดดันไหทที่ต้องเป็นต้นแบบเด็กๆ แต่เอาจริงๆ แล้วไม่ค่อยกดดันเพราะไม่ได่ยากเกินไป ปรับเปลี่ยนแค่นิดหน่อย เพราะเรารู้สึกว่าสิ่งที่น้องๆ ชอบคือความเป็นตัวเรา เราไม่ได้พยายามทำให้เค้าชอบ ถ้าเขาชอบในตัวเรา เราก็ควรจะคงความเป็นตัวเราไว้
(ส่วนที่มีคอมเม้นต์ในโลกโซเชียลเรื่องคุณแม่ให้แต่งเพลงที่มีเนื้อหาของสูตรคูณเข้าไป?) ฮาย : อยากให้รอก่อนบอกเลยว่า คิดไว้แล้วแต่ขอปรึกษาพี่ๆ ที่ค่ายว่าจะปล่อยออกมารูปแบบไหน เพราะมีแพลนอัลบั้มอยู่น่าจะแพลนไปตรงนั้นก่อน แต่ถ้ามีอีเว้นท์สำคัญก็อาจจะเป็นไปได้ จะเป็นเพลงพิเศษที่ทำให้น้องๆ และผู้ปกครอง เพราะตอนนี้เรามากกว่าคนทำเพลง เราเหมือนเป็นครอบครัวเดียวกันไปแล้ว
(ฝากถึงเด็กๆ ที่มาดูเราแล้วไม่อยากไปโรงเรียน?) เซน : มาดูในสิ่งที่ชอบได้แต่ก็ต้องมีความรับผิดชอบ ต้องไปโรงเรียนตามตารางที่ต้องไป หรือเรื่องอื่นก็ตามอยากให้มีความรับผิดชอบ
(ตอนนี้เป็นเจ้าพ่อพรีเซ็นเตอร์สินค้าเด็ก?) ฮาย : มีหลายสินค้า มีสินค้าที่ไม่เด็กอย่างเดียวก็มี มีเข้ามาเยอะแต่เราก็เลือกเราทำงานกันหนักมากเพราะอยากให้เป็นประโยชน์กับเด็กจริงๆ ไม่อยากให้เป็นการตลาดกับเด็กมากเกินไป การที่จะทำให้พ่อแม่ยอมรับเราได้ เด็กๆ คือสะพานเชื่อมไป
(เรื่องอาการแพนิค?) ฮาย : อาการดีขึ้นมาก หลังจากวันเด็กที่ผ่านมา สดใสมาก สุขภาพจิตดีมาก น่าจะเป็นเพราะเด็กๆ ที่ทำให้เราอบอุ่นมากขึ้น เรายิ้มมากขึ้น พยายามมองสิ่งอื่นนอกจากเรื่องของตัวเอง เป็นสัญญาณที่ดีที่จะเริ่มหยุดยาช่วงต้นเดือนหน้า หลังจากกินมาครบ 6 เดือน
(เรื่องกลัวที่แคบ?) เริ่มไปรักษาอาการ เวลาขึ้นเครื่องบินจะมีอาการเกร็งจิกมือเลย ต้องจับขาคนข้างๆ เหงื่อออก มือสั่น ชีพจรขึ้นสูง เป็นคนย้ำคิดย้ำทำ เริ่มเช็ค เริ่มแพนิกส์และคิดว่าเราจะผ่านตรงนี้ไปไม่ได้แม้กระทั่งไฟล์สั้นๆ แค่ 45 นาทีก็ตาม จนแอร์ฯ ต้องเข้ามายืนคุยด้วยเพื่อให้เราผ่อนคลายมากที่สุด อีกอย่างคือลิฟท์ เมื่อก่อนเข้าก็ปกติไม่เป็นไร แต่ตอนนี้เข้าลิฟท์แล้วรู้สึกอึดอัดเหมือนจะตายให้ได้ แต่ตอนนี้น่าจะดีขึ้นแล้วไฟล์ล่าสุดที่ขึ้นเครื่องชิลล์มากแทบจะเต้นบนเครื่อง
เซน : มีครั้งหนึ่งผมใส่หูฟังแล้วไม่รู้เลยว่าเพื่อนเป็นอะไร ทั้งที่ตอนนั้นสถานการณ์แย่มากแล้ว ต้องรีบให้กินยาฉุกเฉิน