บันเทิง

เปิดสาเหตุการเสียชีวิต "ครูมืด" บรมครูโขนไทย จากไปในวัย 72 ปี

เปิดสาเหตุการเสียชีวิต "ครูมืด" บรมครูโขนไทย จากไปในวัย 72 ปี

06 พ.ย. 2565

หลังจากที่เมื่อวานนี้ (5 พฤศจิกายน 2565) มีข่าวเศร้าสร้างความช็อกต่อคนในวงการบันเทิงไทย หลัง "ครูมืด" หรือ "ประสาท ทองอร่าม" ครูโขน ปรมาจารย์ ด้านวัฒนธรรมไทย แห่งนาฏยสังคีตไทย ได้เสียชีวิตลงอย่างสงบในวัย 72 ปี ล่าสุด "คนใกล้ชิด" ได้มีการเปิดสาเหตุของการเสียชีวิตแล้ว

นับเป็นข่าวเศร้าที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น สำหรับการ เสียชีวิต ลงของ "ครูมืด" หรือ "ประสาท ทองอร่าม" ครูโขน ปรมาจารย์ ด้านวัฒนธรรมไทย แห่งนาฏยสังคีตไทย ที่ได้จากไปอย่างสงบ แบบไม่มีวันกลับ เมื่อวานนี้ (5 พฤศจิกายน 2565) โดยล่าสุดด้านคนใกล้ชิด ของ "ครูมืด" ได้ออกมาเปิดเผยถึงสาเหตุการเสียชีวิต ว่า "ครูมืด ป่วยเป็นมะเร็งมาตั้งแต่ปี 2564 และ ได้ทำการรักษาจนอาการดีขึ้น แต่อาการมากำเริบอีกครั้งเมื่อวันที่ (12 ตุลาคม 2565) ที่ผ่านมา และ ได้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ อาการเริ่มทรุดลงเรื่อยๆ และ เสียชีวิตในที่สุดจากไปอย่างสงบ สิริอายุ 72 ปี" ทางด้านญาติ เตรียมพิธีบำเพ็ญกุศลที่วัดบางรักใหญ่ จ.นนทบุรี โดยจะมีพิธีรดน้ำศพในวันจันทร์ที่ (7 พฤศจิกายน 2565) นี้ เวลา 14.00 น. เป็นต้นไป

 

 

 


 

สำหรับ "ครูมืด" หรือ "ประสาท ทองอร่าม" เป็นปรมาจารย์ด้านวัฒนธรรม ศิลปินด้านศิลปะวัฒนธรรมไทย ซึ่งมีประสบการณ์เป็นครูโขนมากว่า 50 ปี มีผลงานฝากไว้แก่วงการบันเทิงและศิลปะไทยอันทรงคุณค่ามากมาย นอกจากนี้ ยังได้รับรางวัลเชิดชูเกียรติด้านดนตรี และ ศิลปิน ประจำปี 2563 สาขา บุคคลต้นแบบผู้ทรงคุณวุฒิ ทางด้านดนตรีและศิลปะการแสดง โดย หออัครศิลปิน Hall Of Jazz  "ครูมืด" เริ่มเข้ารับราชการที่สำนักการสังคีต กรมศิลปากร ในตำแหน่งศิลปินสำรองทำให้มีโอกาสร่วมงานกับอาจารย์ผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปะการแสดงโขนหลายท่าน อาทิ "อาจารย์เสรี หวังในธรรม" ,  "อาจารย์ยอแสง ภักดีเทวา" และ "อาจารย์เจริญ เวชเกษม" ปัจจุบัน "ครูมืด" ได้รับเกียรติจากกรมศิลปากร ให้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านศิลปวัฒนธรรมไทย มีหน้าที่ถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกับศิลปวัฒนธรรมไทยทุกแขนง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงโขน

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Tha Nakvilairote

นอกจากนี้ เมื่อปี 2564 "ครูมืด" ยังเคยเล่าเรื่องราวชีวิตของตัวเอง ผ่านทางรายการ "คุยแซ่บ Show" ว่า "จากเด็กสลัมสู่ปรมาจารย์ด้านวัฒนธรรม ชีวิตเคยลำบากถึงขนาดต้องขอข้าววัดกิน" รวมถึงยังเล่าถึง "วีรกรรมความซ่าหลังรั้วโรงเรียนที่เกือบโดนไล่ออก"  ซึ่ง "ครูมืด" ก็เล่าให้ฟังว่า "ชีวิตเติบโตมาจากสลัมเลยครับ อยู่สลัมเลย คือบ้านที่เป็นอยู่หลังคาติดกันหมดเลย ที่บ้านที่ผมอยู่เป็นบ้านที่เช่าเขาอยู่ อาศัยอยู่ข้างวัด แต่บังเอิญถิ่นที่ผมอยู่ถึงแม้จะห่างไกลความเจริญ แต่คนที่อยู่เป็นบุคคลทรงความรู้ และ ศิลปินแห่งชาติเยอะมาก ตอนเด็กผมร่องรอยเยอะมาก เกเรครับ ตีกัน ศึกใหญ่มากเลย ตีกันทั้งโรงเรียน ซึ่งเหตุมันเกิดจากเริ่มงานไหว้ครู เด็กนาฏศิลป์ทำความสะอาด ช่างศิลป์มาก็เตะขวดน้ำกระจาย ก็ตีกันวันนั้น พอรุ่งขึ้นนัดกันไปเลย ก็พรวดพราดตีกัน เรื่องถึง สน.ต้องมาจับ มีอาวุธ ตอนนั้นผมเป็นนักเรียนข้าราชการด้วยก็มีคำสั่งให้ออกจากโรงเรียน ออกจากราชการ แต่ผู้ใหญ่ก็ขอไว้ ลงโทษให้ต่ำจากไล่ออก ก็โดนลดขั้นเงินเดือน แล้วให้สอบตกปีนึง

 

มีโอกาสได้เข้าไปเรียนดนตรีนาฏศิลป์ยังไง คือเราชอบอยู่แล้ว เป็นคนที่ชอบแสดงออก ชอบเป็นผู้นำตั้งแต่เด็ก เพราะว่าเราอยู่สลัมคนก็อยู่เยอะ ก็มาเล่น เล่านิทานให้ฟังบ้าง เล่นกีฬาพื้นเมืองบ้าง เล่นซ่อนหา เราก็ชอบ แล้วเผอิญคุณปู่ผมท่านเป็นนักดนตรีไทย ท่านเป็นลูกศิษย์ของ คุณครูไพร หลวงประดิษฐ์ ไพเราะ ก็เอาผมติดตัวไปด้วย แล้วที่วัดก็เป็นศูนย์รวมของศิลป์หลายแขนง ไม่ว่าจะเป็นโขน ลิเก ละคร ปี่พาทย์ ก็รวมตัวกันอยู่ที่นั่น ก็มีข้าวกิน บ้านเราจน เราก็อาศัยข้าววัดกิน เราก็ได้ดูโขน ดูลิเก ดูดนตรี ดูอะไรต่างๆ แล้วมันชอบ แล้วพอกลับมาก็เอาเรื่องเหล่านั้นมาเล่นกับเด็กๆ พอจบ เรียนชั้นประถม 5 ปี ชั้นมูล คือก่อน ป.1 ก็เป็นผู้นำมาตลอด นำร่องเพลงชาติ เป็นนักกิจกรรม

 

ชีวิตผมผ่านอะไรมาเยอะมาก ผมมีภรรยาก็อยู่ด้วยกันจะมีน้อง หมอบอกว่ามีน้อง เราก็ดีใจมากเลย เพราะเราไม่มีทายาท แต่อยู่ได้สักเดือน สองเดือนได้ข่าวว่าเสียน้องไป มันสะเทือนใจมาก อันนี้มันเป็นวิบากกรรมของผมแน่ๆ ผมระลึกถึงเสมอว่าเป็นกรรม เคยทำกรรม เคยทำเวรอะไรไว้ จึงทำให้ไม่มีลูก ก็เสียใจมาก พอเสียน้องไปแล้ว มันก็โยงไปทำให้เสียภรรยาไปด้วย หลังจากนั้นก็เป็นโสดมาตลอดปฏิญาณตนไว้ว่าขออยู่คนเดียว เพราะความที่เราเพลิดเพลินไปมันเยอะแล้ว หลังจากที่เสียแฟนไป มันเยอะแล้ว ก็พอแล้ว คิดว่าหลังจากเกษียณอายุแล้ว ก็จะตั้งใจอยู่กับพี่น้อง ครอบครัว แล้วก็ทำอะไรให้กับสังคม ทำอะไรให้กับโรงเรียนนาฏศิลป์ ทำอะไรให้กับกรมศิลปากรมากยิ่งขึ้นครับ"

 

ทางทีมข่าว "คมชัดลึกบันเทิง" ต้องขอแสดงความเสียใจกับการจากไปของ "ครูมืด" ด้วยนะคะ 

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Tha Nakvilairote

ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Tha Nakvilairote

ขอบคุณรายการ คุยแซ่บ Show / ขอบคุณภาพจากเฟซบุ๊ก Tha Nakvilairote

 

 

ติดตามข่าวสาร คมชัดลึก อื่นๆ ได้ที่
Facebook - https://www.facebook.com/komchadluek
LineToday - https://today.line.me/th/v2/publisher/100057
Instagram - https://www.instagram.com/komchadluek_online/