บันเทิง

"ไอซ์ อภิษฎา" เปิดใจครั้งแรก เคลียร์ทุกประเด็น "สามี" ยันไม่ใช่เมียน้อย

"ไอซ์ อภิษฎา" เปิดใจครั้งแรก เคลียร์ทุกประเด็น "สามี" ยันไม่ใช่เมียน้อย

18 พ.ย. 2565

ออกมาเปิดใจเคลียร์ชัดทุกประเด็นดราม่าร้อน เป็นครั้งแรกเรียบร้อยแล้ว สำหรับ นักแสดงสุดเซ็กซี่ ว่าที่คุณแม่ป้ายแดง "ไอซ์ อภิษฎา" ที่ก่อนหน้านี้ถูกสาวปริศนาออกมาแฉ เข้ามาป่วนในอินสตาแกรมส่วนตัว อ้างว่า "ไอซ์" ใช้ "สามี" ร่วมกับตนเอง พร้อมแฉเรื่องราวต่างๆ

จากกรณีที่ก่อนหน้านี้ นักแสดงสุดเซ็กซี่ ว่าที่คุณแม่ป้ายแดง "ไอซ์ อภิษฎา" หรือ "อภิษฎา เครือคงคา" ถูกสาวปริศนาออกมาแฉ เข้ามาป่วนในอินสตาแกรมส่วนตัว อ้างว่า "ไอซ์" ใช้ "สามี" ร่วมกับตนเอง พร้อมแฉเรื่องราวต่างๆ ล่าสุดเมื่อวานนี้ (17 พฤศจิกายน 2565) เจ้าตัวก็ได้ออกมาเคลียร์ชัดชี้แจงทุกประเด็นร้อนปม "สามี" สาเหตุไม่เปิดตัวอีกฝ่าย รวมถึง "สามี" รวยระดับท็อป 5 ของฝรั่งเศส พร้อมอัปเดตเรื่องการตั้งครรภ์ ด้วยตัวเองเป็นครั้งแรกเรียบร้อยแล้ว 

 

(คำถาม) :  ชีวิตเปลี่ยนไป?


"ไอซ์ อภิษฎา" :  เราทั้งดีใจและตกใจและกลัวเหมือนเรารับผิดชอบ อีกชีวิตหนึ่งมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์มากที่เขาอาศัยอยู่ในท้องเราและเราเป็นคนชอบออกกำลังกายเป็นคนชอบกินของแซ่บมันก็เลยต้องมีการเริ่มเปลี่ยนแปลงตัวเองเยอะ ก็เป็นลูกสาวค่ะ ตอนแรกมั่นใจว่าได้ลูกผู้ชาย ใจอยากคนแรกอยากได้เป็นผู้ชายคนแรก เพราะเรามีพี่ชายให้ปกป้องน้อง แต่พอซาวด์มาได้ลูกสาวบอกเลยคือลูกพ่อแน่นอน ก็แพลนไว้อยากมี 2 คน คุณสามีบอกอยากมี 3 คน เราก็บอกว่าพักก่อน

 

 

 

 

(คำถาม) : ใกล้คลอดแล้ว?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  ใกล้แล้ว คิดว่ามกราคม ส่วนวันยังไม่มีเลย คุณหมอก็พูดว่าฤกษ์หาไป สุดท้ายเด็กก็เลือกวันเอง เพราะเราต้องเช็คอาทิตย์ต่ออาทิตย์ (จะคลอดธรรมชาติ ?) เราอยากให้เขาอยู่ในท้องเรานานที่สุด ถามว่าธรรมชาติไหม ผ่าแหละ เดาเอานะตอนนี้ ตอนแรกคุณหมออยากให้อยู่ใกล้ 39 วีคที่สุด เพราะฉะนั้นเราก็อยากจะเก็บให้ถึงยาวที่สุด ตอนแรกเรามีฤกษ์นึงที่เราอยากได้ แล้วพอถามคุณหมอยังไม่ 38 วีค ก็ให้เขาโตเต็มที่ในท้องเราดีกว่า ก็เลยยังไม่หาฤกษ์ ก็คลอดที่ภูเก็ตค่ะ บ้านที่กรุงเทพฯไม่เสร็จ บ้านที่สร้างให้คุณพ่อคุณแม่ก็ดีเลย์ แล้วเรามีบ้านที่ภูเก็ตด้วย ซึ่งมีก้อย (ก้อย รัชวิน) เลยบอกขอลอกการบ้านหน่อย เขาก็แนะนำคุณหมอ แนะนำคนนวดน้ำนม ขั้นพื้นฐานอย่างน้อยมีก้อยเราก็สบายใจ ก็มีไปปรึกษาโน่นนี่เพราะเราก็ไม่รู้

 

(คำถาม) : หลายคนอยากเห็นหน้าสามีเราจะมีโอกาสไหม?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  ไม่รู้ ๆ เหมือนกันนะว่าเราจะอยากเปิดเมื่อไหร่ เอาจริง ๆ ด้วยความที่ตั้งแต่แรกเรารู้สึกว่าอยากมีพื้นที่ส่วนตัวให้เขา ไมได้แอ๊บอะไรนะ แต่รู้สึกว่าอยากให้ทุกคนเข้าใจว่าโดยส่วนตัวของเรา เราไม่ใช่คนลงรูปโพสต์กับแฟน ตั้งแต่อยู่วงการมา 10 กว่าปีอาจจะมีแค่คนนึงเพราะเป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมันแยกกันไม่ได้ แต่กับคนอื่นที่เราเป็นแฟนที่คบกันมาไม่ค่อยมีรูปไอซ์กับแฟนเท่าไหร่ เพราะฉะนั้นสิ่งนี้มันเป็นสิ่งนึงที่มันคือตัวตนของเราด้วย แล้วพอกับเขาก็ไม่ใช่คนที่จะชอบถ่ายรูป แต่เราก็ไปไหนมาไหนด้วยกันเป็นเรื่องปกติ ตอนนี้คือเซ็นทรัลภูเก็ตถิ่นประจำ ไม่ได้ปิด ไม่ได้รู้สึกว่าเจอใครแล้วทำเป็นความลับ แต่แค่รู้สึกว่าไม่รู้จะโพสต์อะไร แต่ถ้ามีรูปอะไรพิเศษจริง ๆ อยากลงก็จะลง แต่ไม่มีรูปที่อยากจะลง

"ไอซ์ อภิษฎา" เปิดใจครั้งแรก เคลียร์ทุกประเด็น "สามี" ยันไม่ใช่เมียน้อย

(คำถาม) : รูปพ่อแม่ลูกหลังคลอด?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  ก็ต้องดูหน้าเราว่าตอนนั้นเป็นยังไง มันอยู่ในแพ็กเกจของโรงพยาบาลอยู่แล้ว ไอซ์อาจจะไม่แฮปปี้รูปนั้นก็ได้ (หัวเราะ) ก็เลยตอบไม่ได้ หรือรูปนั้นอาจจะมีอยู่แล้วแต่เราไม่อยากโพสต์ก็ได้ ไม่อยากตอบอะไรทั้งนั้น เพราะเราก็ไม่รู้ว่าชีวิตเราจะเป็นยังไง

 


(คำถาม) : หลายคนบอกว่าเราถือเคล็ดไม่กล้าเปิดเรื่องความรัก?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  ก็อาจจะเป็นเรื่องนั้นด้วยนะที่เรารู้สึก แต่แรกเลยนะหมอดูทุกคนจะพูดเลยนะความรักถ้าไม่เปิดเผยจะดีที่สุด แต่เราไม่เป็นเมียน้อยใครนะ แต่ถ้าเปิดจะมีปัญหา เราก็รู้สึกว่าเป็นคำพูดที่ฝังหัวอยู่แล้ว แล้วทุกครั้งเปิดแล้วก็ชอบมีปัญหา พอเรามานั่งคิดพิจารณาว่าตอนเราอยู่กันสองคนเราไม่มีปัญหา แต่พอมีคนเอาไปทำโน่นนี่ ปัญหามาจากคนอื่นไม่ใช่เรา

 

(คำถาม) : ดราม่าก่อนหน้านี้เจอมาหลายเรื่องมาก?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  ตอนนั้นเราคิดแค่ว่า เราอยู่ในยุคที่เราจะต้องใช้สติมากๆ ในการรับฟังข่าวหรือวิเคราะห์ ตอนนั้นในหัวมีอยู่ 2 อย่างว่า เราจะต้องออกมาแก้ข่าวไหม แต่เรารู้สึกว่าถ้าเราออกมาแก้ข่าวเป็นการไม่ให้เกียรติตัวเอง ทำไมเราต้องดิ้นรนกับอะไรที่มันไม่ใช่เรื่องเป็นเรื่องที่เราจำเป็นจะต้องออกมาพูด มันไม่จำเป็นทุกคนที่ถ้าไม่ออกมาพูดแปลว่าจริง แต่สำหรับเรา เรามองว่าถ้าออกมาพูดเป็นการไม่ให้เกียรติตัวเองอย่างหนึ่ง เราอย่าไปเดือดร้อนกับสิ่งที่มันไม่ใช่ เราต้องยืนหยัดหนักแน่นกับความจริงของเรา ถ้าเราออกมาพูดแล้วเขาเปลี่ยนแอคเคาท์เอาเรื่องอะไรมาพูดอีกก็ต้องออกมาพูดทุกครั้งเหรอ ไม่อยากจำเป็นที่จะต้องให้ค่ากับอะไรที่อย่างนี้ แล้วไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นอีกกี่รอบๆ ต้องดิ้นรนกับมัน ไอซ์เลยหนักแน่นและปล่อยผ่านแล้วมันก็ผ่านไป

 

(คำถาม) : กระทบจิตใจไหม? 

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  จะบอกว่าเราโชคดีมากที่เรามีน้องอยู่ในท้อง และเราไม่อยากส่งอารมณ์อะไรที่ไม่ดีไปถึงน้องเลย คุณสามีเขาก็ขอบคุณเรา และประทับใจเราที่เราหนักแน่นพอ และเราก็รู้สึกว่าพอมันใช้คำว่าครอบครัว เราไม่จำเป็นที่จะต้องเอาพายุเข้าบ้าน

 


(คำถาม) : แสดงว่าสามีรับรู้ตลอดว่าเราโดนอะไรมาบ้าง?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  ก็มีคนส่งให้เขาบ้าง แต่อะไรที่เป็นภาษาไทยมากเขาก็ไม่รู้เรื่อง แต่ไอซ์สร้างปัญหาเพิ่มให้กับครอบครัว และไอซ์ก็ไม่ส่งอารมณ์ที่มันไม่ดีไปถึงลูก คือไอซ์ว่ามันอยู่ในจังหวะที่เป็นบททดสอบใหญ่เหมือนกัน เพราะสมมติเราสติแตก มันก็สามารถเป็นบ้าเป็นบอได้เหมือนกันนะ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องใหญ่ บางคนอาจจะมองว่าเป็นเรื่องเล็ก แต่สำหรับเรามองว่ามันก็เป็นเรื่องที่ใจร้ายเหมือนกันนะ ในการที่รู้ว่าผู้หญิงที่กำลังท้องและมาทำอะไรแบบนี้ แต่เราก็เข้าใจเจตนาว่าคนทำคงไม่ได้หวังดีเท่าไหร่ และเราก็จะไม่อนุญาตให้เขาเอาอารมณ์ที่ไม่ดีมาใส่เราได้ ช่วงนั้นก็โชคดีมากที่อยู่ต่างประเทศ เราก็ใช้ชีวิตของเราไป

"ไอซ์ อภิษฎา" เปิดใจครั้งแรก เคลียร์ทุกประเด็น "สามี" ยันไม่ใช่เมียน้อย

(คำถาม) : ก็ไม่มีใครบอกให้เรารับรู้เรื่องนี้ด้วยใช่ไหม?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  จริง โชคดีมาก เพราะไทม์โซนมันต่างกันมาก แต่ก็มีคนส่งมาให้เรารู้แหละว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่ตอนนั้นเราโชคดีที่เราปล่อย อะไรที่มันไม่ใช่ก็อย่าเอาเข้ามา อย่าทำร้ายตัวเอง อย่าทำร้ายครอบครัว อย่าทำร้ายลูกสาว

 


(คำถาม) : ก็คือปล่อย เขาอยากทำอะไรก็ทำ?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  ใช่ รู้สึกว่าเรารู้ว่าอะไรเป็นอะไร และเราก็ถามตัวเองแล้วว่าเราไม่ใช่คนที่ใครก็ได้ วันนี้ที่เราอายุมาถึงขนาดนี้ และเรามีประสบการณ์ชีวิตกับความรัก และรู้ว่าเราเลือกอะไร ในวันที่เราจะมีน้อง พูดเลยว่านี่คือความตั้งใจมาก ๆ เราไม่ใช่เด็ก ๆ ที่จะมาใช้คำว่าพลาดหรืออะไร มันเป็นสิ่งที่เราตั้งใจ แต่อาจจะไม่ใช่ตามสเต็ปทุกคนที่จะต้องจัดงานแต่งงานนะ แต่เรื่องนั้นสำหรับเรา คือเราเองที่ไม่อยาก คือเรารู้สึกว่ามันไม่ได้หมายความว่าอะไรเลยในงานแต่งงาน และเราก็เคยเฉียด ๆ ตรงนั้นมาแล้ว และเราเห็นแล้วว่ามันไม่ได้แปลว่าอะไร มันไม่ได้มีความหมายอะไรที่จะทำให้ชีวิตรักอันนี้มันยืนหยัด มั่นคงเพราะมีภาพงานแต่งงาน ๆ นึง แต่เราว่าสิ่งสำคัญคือต่อจากนี้เราจะใช้ความเป็นครอบครัวของเรายังไงให้มันมีความสุขอยู่ยาวที่สุด

 

(คำถาม) : เขาเองอยากมีงานแต่งไหม?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  เอาจริง ๆ เขาอยากมี แต่จากที่เขาอยากจัดที่ต่างประเทศอยู่แล้ว และเราก็บอกว่าตั๋วคราวที่แล้วยังมีอยู่เลย ไม่กล้าเชิญใครไปต่างประเทศ (หัวเราะ) เขาก็พูดว่างั้นจัดงานเล็ก ๆ 30 คน เราก็เลือกไม่ถูก กลุ่มเดียวก็ไม่ได้แล้ว และเราก็เกรงใจเพื่อนว่าจะต้องบินไปต่างประเทศ ช่วงนั้นก็ยังโควิดอยู่ก็คิดว่าถ้าเรามานั่งรออะไรที่มันตามสเต็ป เราคิดว่าตอนนี้ด้วยอายุเราสิ่งสำคัญสุดคือการมีน้อง มันรู้สึกว่าถึงเวลาที่ใช่แล้ว และอยากมีขั้นต่ำ 2 คน อายุก็จะมากขึ้นแล้ว และเราก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะติดหรือไม่ติด เราก็รู้สึกว่ามันก็เป็นสิ่งที่เสี่ยง เราก็รู้แหละ แต่มันถึงเวลาแล้วที่เราพร้อมที่จะเสี่ยง เพราะเรามีครอบครัว

 

(คำถาม) :  ให้คะแนนตัวเองเท่าไหร่ ความเป็นคุณแม่มือใหม่ในฐานะที่เราฝ่าดราม่ามาได้?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  ไม่กล้าให้เต็มร้อยเลย (หัวเราะ) คือ ณ ตอนนั้นให้ตัวเองว่าเราต้องไปบอกแฟนด้วยซ้ำว่า ไม่เป็นไร เดี๋ยวพวกนี้แป๊บเดียวเดี๋ยวมันก็จะผ่านไป ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรความสุขฉัน เรารู้อะไรเป็นอะไรก่อนที่ฉันจะเลือกเธอฉันรู้ ทุกอย่างแล้วเขาก็รู้จักเรา ทุกคนมีอดีตแฃ้วเราก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันเป็นเรื่องที่เราเลือกฝรั่งเพราะอะไรรู้ไหม เพราะเรารู้สึกว่าเขาไม่ยุ่งวุ่นวายกับเรื่องอดีตของเรา เราก็จะไม่ยุ่ง เราอยู่ปัจจุบันและเรารู้สึกว่าจากที่เราปฏิบัติเราดูกันที่ปัจจุบันดีกว่า (ให้กี่เปอร์เซ็นต์ ?) ให้ตัวเองร้อยเปอร์เซ็นต์ (หัวเราะ)

 

(คำถาม) : เรื่องที่แฟนเราโดนขุดว่าเป็นมหาเศรษฐีอันดับ 5 ของฝรั่งเศส?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  โอ๊ย อันดับ 5 ประเทศ ไม่ขนาดนั้นหรอกค่ะ แต่เขามาจากครอบครัวมีเงินไหม เขาก็มาจากครอบครัวมีเงิน แล้วธุรกิจจากครอบครัวก็คือธุรกิจจะ 100 ปีแล้ว บางทีที่มาที่ไปที่เขาเขียนพยามโจมตีว่าทำธุรกิจไม่ดีหรือมาจากอะไร คือเรื่องนี้มันเป็นเรื่องใหญ่สำหรับเขานะ เขาบอกว่าเขาอยากปกป้องตัวเองแต่ไอซ์ก็บอกว่าไม่เป็นไรหรอก เดี๋ยวเรื่องพวกนี้ก็ผ่านไป คนที่เขาไม่เชื่อเขาก็ไม่เชื่อ เพราะถ้าเขาไปหานามสกุลดูก็จะรู้ว่ามันมีบริษัทอะไรที่เป็นเกี่ยวกับธุรกิจครอบครัวมา 100 ปีอยู่แล้ว

 

(คำถาม) : ถูกจับตามองตลอดเวลาเลย?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  ไอซ์ไม่โทษเขา ไอซ์รู้สึกว่ามันเป็นดวงของไอซ์อีกแล้วที่เราต้องมาเจออะไรแบบนี้ ครั้งที่แล้วก็สงสารทุกคนที่เข้ามายุ่งกับเราเหมือนกันแล้วเขาต้องเจออะไรแบบนี้ เราก็รู้สึกว่าเราเข้มแข็งพอแต่คนอื่นที่เขาไม่ได้อยู่จุดเรา เขาไม่มีประสบการณ์แบบเรามา 10 ปี ๆ มันก็ลำบากสำหรับเขาเหมือนนะ

 


(คำถาม) :  แหวนที่นิ้ววงใหญ่มาก แหวนอะไร?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  แหวนหมั้น (ยิ้ม) เอาจริง ๆ นะตั้งแต่วันนั้นที่บอกเขา เขาถามว่าถ้าแต่งงานเธออยากได้แบบไหน จัดงานที่ไหน อะไรยังไง เราก็บอกเอาเงินที่จะทำตั้งหมดมาที่แหวน เอาจริง ๆ เรารู้สึกว่างานแต่งงานเป็นวันเดียวแล้วมันก็จบ แต่อันนี้มันอยู่กับเราตลอดแล้ว วันนั้นพูดเล่น ๆ อุ๊ย เธอฉันไม่ได้สนใจอะไรเลย แล้วเขาก็ถามสนใจอะไร ก็พูดเล่น ๆ หลังจากนั้นสิ่งที่เขาหามาก็รู้สึกว่าเขาตั้งใจแล้วเขาพยายามหาดีที่สุดเท่าที่เขาหาได้ ส่วนกี่กะรัตไม่บอกแล้วกันอะไรยังไง (ยิ้ม) แต่เขาหาสิ่งที่ไอซ์รู้สึกเห็นความตั้งใจแล้วนอกเหนือจากสิ่งที่มันจะต้องเป็นไซส์หรืออะไรที่ทุกคนสนใจ แต่เราสนใจว่าเขาพยายามหาสิ่งที่ดีที่สุดให้เรา ก็ใส่ติดตัวตลอด

 

(คำถาม) : เราก็ถูกใจในความใส่ใจของเขาที่พยายามทำให้ทุกอย่าง?

 

"ไอซ์ อภิษฎา" :  คือไอซ์รู้สึกว่าเรื่องแบบนี้มันเป็นเรื่องที่เราเห็นว่าสำหรับเรามันดีกว่านี้ไม่ได้แล้ว มันดีที่สุดเท่าที่เขาหาให้ได้แล้ว แล้วก็ก็พอใจแล้ว (สามีที่ดี ?) คือจริง ๆ เรื่องนี้ที่ไอซ์เลือกเขานะคะ ไอซ์คิดว่าเราเห็นข้อดีของเขาซึ่งเรื่องแบบนี้เหมือนมีคนมองไอซ์ก็ไม่ได้มองเหมือนกันทุกคนอย่างเรามองเขา เรามองเห็นข้อดีของเขาแล้วไอซ์รู้จากประสบการณ์ในชีวิตว่าไอซ์อยากได้คนนั้นเป็นสามี แล้วไอซ์เห็นคุณสมบัตินั้น แล้วไอซ์ก็เลือกเขา (ยิ้ม)

"ไอซ์ อภิษฎา" เปิดใจครั้งแรก เคลียร์ทุกประเด็น "สามี" ยันไม่ใช่เมียน้อย