แห่เป็นห่วง "พุฒ พุฒิชัย" ต้องใช้ไม้เท้าคอยประคองขาตัวเองตลอดเวลา
จู่ๆ ก็เห็นพระเอกหนุ่ม พุฒ พุฒิชัย เกษตรสิน ต้องออกงานโดยมีไม้เท้าคอยประคองขาตัวเองไปด้วย ทำเอาทุกคนสงสัยและเป็นห่วงว่า หนุ่มพุฒขาเจ็บเกิดอะไรขึ้น?
ขาเจ็บเกิดอะไรขึ้น ?
“เล่นกีฬาครับ จริงๆ แล้วคือผมข้อเท้าพลิกแล้วก็กระดูกร้าวมา 2 ปีแล้ว แต่ว่าไม่ได้ผ่าสักที ก็ยังใช้ชีวิตได้แหละครับแต่ว่าเวลากลับไปเล่นกีฬาไปวิ่งไปเตะบอล หรือว่าเล่นกีฬาอะไรอย่างเนี่ยมันจะเจ็บที่ข้อเท้า มันก็เลยทิ้งมายาวมากเพราะเราติดถ่ายละครด้วย ไม่มีช่วงที่เบรกจากถ่ายละครให้ผ่าสักทีนึง แล้วบวกกับล่าสุดก็กลับไปเตะบอลแล้วก็เจ็บซ้ำ หมอก็บอกว่าถ้าเจ็บมาอีกคือต้องผ่าอย่างเดียวแล้วนะครับ ก็เลยได้ฤกษ์ผ่าข้อเท้า”
ก่อนที่จะผ่าใช้ชีวิตยังไง ?
“ใช้ชีวิตได้ครับ คือผมเดินเหินอะไรได้ปกติ เพียงแต่ว่าแค่กลับไปเล่นกีฬาแล้วมันจะเจ็บ แต่ว่าเราไม่มีเวลาผ่าเราก็ไม่เป็นไรยังใช้ชีวิตได้ เตะบอลได้นิดหน่อย แต่หมอก็บอกตลอดว่า ถ้าเจ็บอีกต้องผ่าแล้วนะ ผ่าแล้วเรียบร้อยครับ”
ที่ผ่าเพราะเราอยากกลับไปเตะบอล ?
“มันก็อาจจะไม่ได้เต็มร้อยมาก ผ่าก็คือหมอบอกว่าถ้าไม่ผ่ามันก็จะเจ็บอย่างเนี่ยไปตลอด มันไม่มีวันหาย แต่ถ้าผ่ามันก็อาจจะไม่ได้กลับมาร้อย 90 80 อะไรอย่างเนี่ย แต่ว่ากลับไปเล่นกีฬาได้หมอบอกครับ”
หมอให้พักเล่นฟุตบอลก่อนไหม ?
“เบรกครับ ตอนนี้ก็ต้องเบรกและหมอก็บอกว่ากลับไปเล่นได้ แต่ว่าก็คงจะไม่ต้องบู๊มากเหมือนแต่ก่อน จังหวะบวกก็ไม่ต้องไปบวกกับเขา บอกว่าให้เน้นแบบเตะบอลเพื่อสุขภาพ”
ตอนนี้เป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตอย่างไรบ้าง ?
“ถ้าตอนนี้เลยก็คือ ทำงานก็อาจจะต้องมีไม้เท้าคอยประคองขาตัวเองไป เพราะว่าของพุฒคือไม่สามารถลงน้ำหนักได้เลย เพราะกระดูกร้าวตรงที่คุณหมอเขาตัดกระดูกออกไป ที่เป็นกระดูกอ่อน มันต้องไม่ลงน้ำหนักไม่งั้นกระดูกมันจะไม่งอกออกมา ก็เลยต้องใช้ไม้เท้าประมาณ 6 สัปดาห์ ก็มีผลต่อการทำงาน มีผมต่อการช่วยคุณจุ๋ยเลี้ยงน้อง เราอาจจะอุ้มไม่ได้แต่ว่านั่งอุ้มได้ให้นมได้”
เราไม่เบรกละครด้วย ?
“ตอนนี้ละครปิดกล้องหมดแล้ว ใช่ครับ”
วันแรกๆ ที่ต้องใช้ไม้เท้าช่วยเป็นยังไงบ้าง ?
“หน้ามืด วันแรกก็หน้ามืดเลย(หัวเราะ) มันเกร็งครับ วันแรกคือผ่ามาแล้วรุ่งขึ้นกายภาพเขาก็จะมาแบบให้เราฝึกเดินเลย แล้วก็ด้วยความที่แผลมันยังเจ็บอยู่ด้วยเลือดลงเท้า พอซ้อมเดินได้รอบนึงก็พี่ครับ ไม่ไหวแล้วครับ หน้ามืดครับพี่”
นานหรือยัง ?
“เพิ่งเมื่อ 4 วันที่แล้วนี่เองครับ”
คุณหมอให้เอาเฝือกออกเมื่อไหร่ ?
“ประมาณ 6 วีกครับ”
เอาเฝือกออกแล้วยังต้องใช้ไม้เท้าพยุงไหม ?
“ไม่ต้องแล้วครับ แต่เป็นกระบวนการกายภาพบำบัดฟื้นฟู เพื่อให้ขากลับมาแข็งแรงจะได้ไม่เจ็บซ้ำอีก”
หายแล้วจะกลับมาใช้ชีวิตเตะบอลได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ไหม ?
“หมอบอกต้องค่อยๆ ฝึกกล้าเนื้อขาให้มันแข็งแรงบาลานซ์อะไรใหม่หมดเลย ผมคิดว่าถ้ากลับไปเตะบอลก็คงจะต้องอีกสักพักใหญ่ๆ เลยครับ”
อะไรที่ทำไม่ได้แล้ว ที่คุณหมอสั่งห้ามเลย ?
“ตอนนี้คุณหมอบอกว่าห้ามลงน้ำหนักเต็มเท้า หมอขอแค่นั้น 6 วีก”
เราเป็นนักวิ่งอนาคตยังวิ่งได้อยู่ใช่ไหม ?
“วิ่งได้ครับ วิ่งได้ๆ แต่ว่าถ้าวิ่งกันนานกิโล วิ่งระยะยาวขึ้นเหมือนมันจะกดทับไปเรื่อยๆ มันก็จะเจ็บตรงที่มันร้าว ก็จะวิ่งได้ระยะสั้นๆ ครับ”
จะมีโอกาสเกิดซ้ำอีกไหม ?
“มีโอกาสเกิดซ้ำได้ครับ ถ้าเรายังใช้ชีวิตโลดโผน ออกกำลังกายหนักอะไรอย่างเนี่ย เดี๋ยวหลังจากเอาเฝือกออกต้องกายภาพครับ”
ทำให้เราลดความโลดโผนลงไปขนาดไหน ?
“ลดเลยครับ คือจริงๆ พอเจ็บปุ๊บก็รู้เลยว่า พออายุขึ้นเลขสามปุ๊บมันหายยาก เวลาอะไรที่ต้องปะทะมากๆ เราก็จะค่อยๆ ลดค่อยๆ เลี่ยงลงมาครับ”
พอมีลูกแล้วต้องลดกิจกรรมที่มันหนักหน่วงลงไหม ?
“ลดครับ ทุกวันนี้ก็พอก่อนที่จะผ่า เลี้ยงลูกก็แทบจะไม่ค่อยได้ทำอะไรแล้ว ลูกเล็กไง ก็ลดลงมาต้องให้เวลากับครอบครัวมากขึ้นด้วย แต่ไม่ทิ้งครับเรื่องการออกกำลังกาย”
มีอุปสรรคในการอุ้มลูกเลี้ยงลูกไหม ?
“ตอนนี้มีครับ เพราะเราอุ้มไม่ได้หมายถึงว่ายืนอุ้มไม่ได้ แต่ว่าถ้านั่งอุ้มนั่งป้อนนมได้ครับ”
ตอนนี้ลูกชายจะ 2 เดือนแล้ว เป็นอย่างไรบ้าง ?
“จ้ำม้ำ อ้วนดีครับ แล้วผมก็เยอะมาก ตอนนี้เริ่มจะเป็นทรงรากไทร ถามว่าเห่อไหม ก็เห่อครับ เพราะว่าเป็นลูกคนแรกแล้วเราทั้งคู่ก็เป็นคู่ที่อยากมีลูกกันมาก พอมีจริงๆ ก็ดีใจครับ พอนั่งป้อนนมช่วงเดือนแรก นั่งป้อนๆไป น้ำตาก็มาส่ะอย่างงั่น คิดว่ามันเรื่องจริงใช่ไหมนี่ เขาอยู่กับเรา”
ใครอ่อนไหวร้องไห้ง่ายกว่ากัน ?
“ตั้งแต่มีลูก ผมรู้สึกว่าผมไหลเร็วกว่า จำโมเม้นต์ตอนอยู่ในห้องคลอดได้ คือได้ยินเสียงร้องปุ๊บผมน้ำตาไหลเลยแบบไม่รู้ตัว มันเป็นน้ำตาแห่งความดีใจ เรื่องการเลี้ยงเราก็ช่วยกันครับ เพราะว่าคุณจุ๋ยเขาก็หนักอยู่แล้ว ไหนจะต้องปั้มนม เลี้ยงลูก ส่วนผมก็มีหน้าที่ป้อนนม พาเรอ พานอน ช่วยอาบน้ำลูก”
มีกลัวอะไรไหม เพราะคุณพ่อบางคนเขาก็ไม่กล้าเช็ดก้นลูก ?
“ตอนแรกผมกลัวการเช็ดอึมากเลย พอได้มีลูกเป็นของตัวเองมันต้องทำ มันเหมือนข้ามสิ่งที่เราไม่อยากทำไปโดยไม่มีข้อแม้อะไรเลย เช็ดได้ อึกเลอะมือก็สบายมากครับ”
ชีวิตเปลี่ยนไปไหม จากหน้าที่แค่สามีตอนนี้มีอีกหน้าที่คือคุณพ่อ ?
“พอมาเป็นคุณพ่อ รู้สึกว่าชีวิตเราต้องรับผิดชอบมากขึ้น แล้วก็คิดเยอะขึ้น ไม่ได้คิดถึงแค่ตัวเรา มันคิดถึงลูกด้วย มันมีความโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกสเตร็ปนึง และอะไรที่เป็นสิ่งไม่จำเป็นในชีวิต เราจะตัดมันได้เร็วมาก อาทิเช่น อุปกรณ์การกาแฟที่บ้าซื้อมาก แล้วกินอยู่คนเดียวในบ้าน ที่เมื่อก่อนมีรุ่นใหม่ออกมาก็จะซื้อ รู้สึกว่าของมันต้องมี แต่เดี๋ยวนี้ต้มน้ำแล้วชงได้เลย เน้นสะดวกเน้นเร็วครับตอนนี้(หัวเราะ)”
กับจุ๋ยพอเขามีลูกแล้ว เรารู้สึกว่าเราเลือกคนไม่ผิดไหม ?
“เราเลือกไม่ผิดจริงๆ ทุกวันนี้ยังบอกเลยว่าการเป็นคุณแม่นี่เหนื่อยมาก เราเห็นจุ๋ยตั้งแต่แพ้ท้อง อุ้มท้อง ตั้งแต่ต้องฉีดยากระตุ้นไข่ เราอยู่ในช่วงของการมีลูกยากมา 3 ปี อุ้มท้องอีก 9 เดือน พอคลอดออกมาความเป็นแม่ก็ต้องปั้มนมต้องโน่นนี่นั่น เราเห็นความเสียสละของเขา เราก็รู้สึกขอบคุณเขามากๆ ที่เขายอมเสียสละตัวเองที่เขายอมมีลูกให้เราและทำให้เรารู้สึกรักแม่เรามากขึ้น เพลงค่าน้ำนมมั่นเด้งขึ้นมาเลยตอนที่เขาต้องทำอะไรเพื่อลูก”
ส่วนตัวมีเพลงกล่อมลูกไหม ?
“ไม่มีครับ แต่ว่าตอนนี้คุณพ่อคุณแม่จุ๋ยเขามา เขาก็จะมีเพลงกล่อมเด็กมาร้องให้ฟัง ส่วนตัวผมไม่มีครับเพราะว่าร้องไม่เป็นด้วย จะมีแบบชวนคุย ตบตูด เคยร้องแล้วลูกร้องดังขึ้นกว่าเดิม ลูกร้องแข่งกับเรา เราคงเป้นนักร้องเสียงเพี้ยนครับ”
เราต้องช่วยเทคแคร์จุ๋ยอย่างไรบ้าง แม่บางท่านจะมีภาวะเครียดหลังคลอด?
“โชคดีเขาไม่เป็น มาม่าบลู เขาปกติ ก่อนที่จะคลอดเขาก็จะกังวลเหมือนกัน เขากลัวว่าจะมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดไหม ปรากฎว่าไม่มี ก็แฮปปี้ไป คุณจุ๋ยจะมีช่วงแรกๆ เพราะว่าเราต้องตื่นกันทุก 2-3 ชม. แล้วคุณจุ๋ยต้องปั้มนมทุก 3 ชม. เขาจะทำแบบนี้ทุกวัน เรารู้สึกว่าเขาเหนื่อยกว่าเรามากๆ เลย ก็ดูแลกันไป”
เรียกว่าเรื่องการเลี้ยงลูกของเราสบายมาก?
“ไม่โฟร์นะช่วงแรกๆ เพราะว่าเราเป็นคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ กลับมาจาก รพ.สัปดาห์แรก อยู่กันแต่บนห้อง ไม่ได้ลงไปไหนกันเลย เพราะว่ามันยุ่งมาก ยังไม่ลงตัว (ไม่มีพี่เลี้ยงด้วย?) ตอนแรกคุยกันว่าจะเลี้ยงเอง เป็นพ่อแม่ฟูลไทรม แต่ผ่านไป 1 เดือนเราก็มาคุยกันว่าแบบนี้ไม่ไหวแล้ว เพราะว่าพอเราออกมาทำงาน แล้วคุณจุ๋ยคนเดียวเขาก็ไม่ไหวเพราะเขาต้องมีปั้มนมด้วย เลยมีพี่เลี้ยงมาช่วยครับ”
ตอนนี้ลูกหน้าเหมือนใคร ?
“เหมือนคุณจุ๋ย จมูกโด่ง ผมดก ตอนนี้แก้มเป็นซาลาเปามาก (จะมีคนที่สองต่อเลยไหม?) ต้องดูคุณจุ๋ยว่าสภาพร่างกายเขาเป็นยังไงบ้าง ไข่ที่เก็บยังมีเหลืออยู่ครับ คือตอนนี้ผมอยากมีลูกแค่คนเดียว แค่คนแรกก็เหนื่อยแล้ว ตอนแรกอยากมีสัก 3-4 คน ตอนนี้รู้สึก 2 คนดีกว่าพอแล้ว แต่ถ้ามีอีกคน ก็จะมีติดๆกันเลย เพราะด้วยความที่เราก็อายุเยอะ ไม่อยากที่จะแบบว่าเราแกลูกเป็นวัยรุ่น เราก็ไม่อยากแก่มาก แล้วลูกวัยรุ่น”
เราต้องไปแก้บนเยอะไหม หลังจากได้ลูกคนนี้มา ?
“เราไม่ได้บนเลย เราแค่ไหว้ขอบคุณเท่านั้นครับ ทุกครั้งที่ไปไหว้จะขอมากกว่าครับ”