ดราม่าถูกตัดโอกาสฉาย แต่ ‘ขุนพันธ์ 3’ รายได้พุ่ง 100 ล้านไม่ไกลเกินเอื้อม
ก่อนหน้านี้ทางสมาคมผู้กำกับฯ ออกมาขอปกป้องคนทำหนังไทย หลังจากหนัง ขุนพันธ์ 3 มีดราม่าถูกตัดโอกาสฉาย เพราะหนัง ทิดน้อย ไปเบียดพื้นที่การฉาย แต่แม้จะโดนตัดโอกาส ตารางรายได้ล่าสุดมีแววว่า ขุนพันธ์ 3 มีสิทธิ์ทำรายได้พุ่ง 100 ล้านแบบไม่ไกลเกินเอื้อม
-โซเชียลวิจารณ์ถึงโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ มีการลดราคาค่าตั๋วของหนังเรื่อง ทิดน้อย ทั้งยังจัดรอบและจำนวนโรงฉายที่เยอะกว่า ทั้งๆ ที่ ทิดน้อย เข้าฉายมาตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. 2566 แล้ว ทำเอาหลายคนรู้สึกว่า หนัง ทิดน้อย ไปเบียดพื้นที่การฉายของหนังเรื่องใหม่อย่าง ขุนพันธ์ 3 ที่เพิ่งออกฉายขณะนี้
-จาก ดราม่า ดังกล่าว ก็ทำเอาสมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ได้ส่งจดหมายเปิดผนึก ในเรื่องความไม่เป็นธรรมของการฉายหนังไทย โดยระบุว่า
"จดหมายเปิดผนึก เรื่อง การจัดโรงและรอบฉายภาพยนตร์ไทย ที่ไม่เป็นธรรม
สืบเนื่องจากมีประเด็นการจัดโรงและรอบฉายภาพยนตร์ไทยหลายครั้ง ล่าสุดคือเรื่อง ขุนพันธ์ 3 โดยปัญหาการจัดโรงและรอบฉายที่ไม่เป็นธรรม ตัดโอกาสของภาพยนตร์ไทย เป็นปัญหาเรื้อรังที่เกิดขึ้นเรื่อยมา เป็นที่รับรู้กันอย่างกว้างขวางในหมู่คนทำงานในวงการภาพยนตร์ไทย
เมื่อการสร้างภาพยนตร์ไม่อาจเป็นหลักประกันได้ว่า ภาพยนตร์เรื่องนั้นจะมีโรงและรอบฉายที่มาก เหมาะสมสำหรับการสร้างรายได้ให้กับภาพยนตร์ จึงเป็นสาเหตุหนึ่งที่ผู้สร้างจำนวนมาก ไม่กล้าลงทุนในภาพยนตร์คุณภาพที่มีเนื้อหาหลากหลาย จนเป็นเหตุให้ผู้ชมจำนวนมาก รู้สึกเสื่อมศรัทธากับภาพยนตร์ไทย เพราะมีเนื้อหาที่ซ้ำซาก ไร้การพัฒนาแต่ในขณะเดียวกัน ภาพยนตร์ไทยหลายเรื่องที่มีเนื้อหาแปลกใหม่ มีคุณภาพ กลับได้รับการจัดโรงและรอบที่น้อยจนหมดโอกาสในการสร้างผู้ชมและรายได้
ทาง สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ในฐานะคนทำหนัง ขอแสดงจุดยืนในการปกป้องผู้กำกับภาพยนตร์และคนทำงานที่ควรได้รับโอกาสในการเผยแพร่ผลงานอย่างเป็นธรรม ดังนี้
1. ขอให้สมาพันธ์สมาคมภาพยนตร์แห่งชาติเร่งแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเข้ามาเป็นตัวกลางในการเจรจาต่อรอง หรือจัดสรรรอบฉายของภาพยนตร์ไทยให้เกิดความเป็นธรรม และเป็นไปเพื่อนำเสนอภาพยนตร์ไทยคุณภาพออกสู่สายตาผู้ชม สร้างความหลากหลายในการชมภาพยนตร์ เพื่อให้เกิดประโยชน์แก่ผู้ชม และส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาวงการภาพยนตร์ไทยในระยะยาว
2. ขอให้สื่อมวลชนนำเสนอประเด็นปัญหานี้ ให้ผู้ชมได้รับรู้และเข้าใจถึงปัญหาในวงการภาพยนตร์ไทย อันจะนำไปสู่การสนับสนุนให้เกิดการแก้ไขปัญหาได้อย่างตรงจุด
สมาคมผู้กำกับภาพยนตร์ไทย ขอเรียกร้องให้หนังไทยทุกเรื่องมีพื้นที่ฉายอย่างสมศักดิ์ศรี และหวังเป็นอย่างยิ่งว่า จะเกิดการแก้ไขปัญหาเพื่อสร้างความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายในวิกฤตการณ์ครั้งนี้"
-ต่อมา ทางด้าน โขม ก้องเกียรติ โขมศิริ ผู้กำกับหนังเรื่อง ขุนพันธ์ 3 ก็มีความเคลื่อนไหวถึงเรื่องนี้เช่นกัน โดยได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า "รู้สึกเป็นเกียรติไหมครับ รู้สึกชนะหรือเปล่า ภูมิใจใช่ไหม เล่าให้ญาติหรือคนที่รักฟังแล้วรู้สึกดีจริงไหม เกมนี้มันห่วยและสะเหล่อมากในฐานะคนทำหนัง ผมเสียใจและอายแทนพวกคุณจริงๆ เราเดินลงจากเวทีคนละความรู้สึกแน่ๆ ขอยกวงการนี้ให้พวกคุณไปเลยครับ เดินหน้าก็ยากจะทำให้ถอยหลังทำไม อย่าอ้างเกมธุรกิจ #RIPหนังไทย".
-จากนั้นในโซเชียล ยังมีการแชร์ภาพโปสเตอร์ภาพยนตร์ ขุนพันธ์3 ที่ถูกภาพโปสเตอร์ ทิดน้อย แปะทับไว้ โดยนักแสดงอย่าง ยะสะกะ ไชยสร เป็นผู้นำภาพดังกล่าวมาเผยแพร่ พร้อมระบุว่า ‘แหม่ ทิด จะอะไรกับท่านขุนนักหนา 5555 ขนาดนี้กันเชียว’ มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นว่า ‘จงใจเกินไปครับเเบบนี้ ไม่รู้ทางโรงทำเองหรือเป็นคำสั่งจากส่วนกลาง เเบบนี้ ไม่ไหวครับ’ ซึ่ง ยะสะกะ ไชยสร ได้เข้ามาตอบกลับว่า ‘น่าเกลียด เกินไปครับ’
-ล่าสุดวันนี้ 8 มีนาคม 2566 มีการรายงานรายได้จากโรงภาพยนตร์เมเจอร์ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขาทั่วประเทศ และรายได้ประมาณการณ์จากโรงภาพยนตร์อื่นๆ ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทาง THAILAND BOX OFFICE ซึ่งเป็นข้อมูลถึงวันที่ 6 มีนาคม 2566 ว่า “ทิดน้อย” ฉายไป 41 วันกวาดรายได้ไป 72.6 ล้านบาท และหนังใหม่มาแรง อย่าง “ขุนพันธ์ 3” ฉายไป 6 วัน รายได้ยังพุ่ง 41.2 ล้านบาท คาดว่ามีสิทธิ์ทำรายได้ทะลุ 100 ล้านอีกไม่ไกลเกินเอื้อม