มดดำ แฉ 'เมฆ รามา' สามีหยาดทิพย์ ไม่ใช่คนไทย หยาดทิพย์อาจไม่รู้เรื่องนี้ | คมชัดลึก

หลังจากดีเอสไอ ได้บุกค้นบ้านของ เมฆ รามา สามี หยาดทิพย์ ราชปาล จากการเข้าไปมีส่วนร่วมในพนันออนไลน์ เมื่อวันที่ 31 มีนาคม 2566 ล่าสุด ทางด้านรายการแฉ โดยพิธีกรชื่อดัง มดดำ คชาภา ได้ออกมาเปิดเผยข้อมูลที่น่าตกใจว่า เมฆ รามา ไม่ใช่คนไทย

 

โดยรายการแฉ เผยว่า ทุกครั้งที่สัมภาษณ์ เราจะรู้ว่านายเมฆ เป็นเจ้าของอสังหาริมทรัพย์และเป็นนักธุรกิจ แต่ทางรายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ได้มาเปิดเผยว่า นายเมฆไม่ใช่คนไทย แต่เป็นคนจีนแผ่นดินใหญ่ เข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยจนร่ำรวย และได้สัญชาติไทยคล้ายนักธุรกิจกลุ่มทุนสีเทา นายเมฆรู้จักนักกฎหมาย คนใหญ่คนโต ตอนแรกอาจจะมีการสวมบัตรประชาชน

รายการแฉ เผยต่อว่า กรณีของ เมฆ รามา ซื้อเพนท์เฮาส์ของ นายอภิรักษ์ โกฎธิ ผู้ต้องหาคดี Forex-3d นั้น พบว่า มีการอำพรางหลักฐานทางการเงินจริง แต่หลักฐานทางอาญายังไม่พอ จึงยังไม่สามารถแจ้งข้อหาเรื่องการฟอกเงินได้ แต่ทางดีเอสไอจะป้องกัน 2 ชั้น โดยส่งเรื่องไปที่ ปปง. เพื่อตรวจสอบเรื่องนี้อีกที

 

ด้าน นายอัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ เผยว่า ก่อนที่ตำรวจจะออกมาปฏิบัติการยึดทรัพย์ เมฆ รามา พบว่า เมฆมีการโทร. หานายพล จ. และมีแชตข้อความที่พูดคุยกับนายเด่น ซึ่งเป็นตำรวจสืบสวนสอบสวนด้านเทคโนโลยี และบอกว่าเดี๋ยวเด่นเคลียร์ให้ นายเด่นจะเป็นคนที่เคลียร์ให้เว็บพนันหลายเว็บ ผ่านการสั่งงานของนายพล จ.

 

 

และยังมีข้อมูลอีกว่า เมฆ รามา มีหุ้นส่วนเกี่ยวกับพนันออนไลน์ในภาคเหนือ จึงมีการไปตรวจสอบ และพบว่าทรัพย์สินในบ้านของเมฆถูกขนย้ายไปแล้ว เหมือนจะรู้มาก่อน และเมื่อตำรวจไปก็พบทนายความที่บ้านแล้ว 

 

ในขณะที่การสืบสวนไปไม่ถึงหยาดทิพย์ หยาดทิพย์แค่ต้องการแฟนรวย แต่หยาดทิพย์น่าจะรู้ว่าสามีทำเว็บพนัน และหลักฐานที่ตนมอบให้ตำรวจก่อนหน้านี้ กลับถูกนำไปให้คู่กรณี ทำให้ครั้งนี้ตนรู้สึกไม่ไว้ใจการทำงานของตำรวจ

 

โดยนายเมฆเก่งเรื่องเทคโนโลยี และสร้างโปรแกรมเมอร์ชาวจีนมาวางระบบเซิร์ฟเวอร์เพื่อทำธุรกิจผิดกฎหมาย โดยเซิร์ฟเวอร์ส่วนใหญ่ไม่อยู่เมืองไทย แต่อยู่ในประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งตามข้อมูลของชูวิทย์ กมลวิศิษฏ์ ไปตรงกับข้อมูลการสืบสวนของตำรวจ ที่พบว่านายเมฆทำเว็บพนันออนไลน์ 6 เว็บไซต์ ร่วมกับหุ้นส่วนหลัก 3 คน โดยมีหลักคือนายโอ๊ต ฐปกร (เจ้าของเพจตุงตาข่าย) ดูแลในเรื่องการหาลูกค้า นายโอ๊ตเคยซื้อบ้านติดกัน 6 หลัง ราคาร้อยล้าน เมื่อได้มาแล้วก็ทุบทิ้ง และเหลือบ้านแค่หลังเดียว