ร้องว้าว 'มาริโอ้ - คิมเบอร์ลี่' ทึ่ง 'หมอหลวง' ในยุค ร.3 ใช้ปลิงรักษาโรค
เชื่อว่าแฟนละคร "หมอหลวง" ช่อง 3 ดูไปว้าวไปกับวิธีการรักษาของแพทย์แผนไทยในยุค ร.3 ไม่ว่าจะเป็นการบ่งต้อด้วยหนามหวาย หรือการใช้ปลิงรักษาโรค รวมไปถึงการใช้ยาสมุนไพรต่าง ๆ หรือแม้กระทั่งอาหารที่มีคุณประโยชน์อีกมากมาย
โดยทุกๆ รายละเอียด ผ่านการควบคุมดูแลจากผู้จัดผู้กำกับ "ชุ ชุดาภา" และผู้จัด "ก้อง ปิยะ" และยังได้รับเกียรติจากอาจารย์แพทย์แผนไทย คมสัน ทินกร ณ อยุธยา มาเป็นที่ปรึกษาคนสำคัญอีกด้วย จึงทำให้ทุกซีนที่ถ่ายทอดออกมาได้ถูกต้องสมบูรณ์แบบตามตำราแพทย์แผนไทยเป๊ะๆ ทว่าไม่ได้มีเพียงแฟนละครที่ทึ่งกับซีนเหล่านี้ ยังมีพระนาง "มาริโอ้ เมาเร่อ" และ "คิมเบอร์ลี่ แอน โวลเทมัส" ต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าการรักษาแพทย์แผนไทยเป็นสิ่งที่อเมซิ่งสุดๆ บอกได้คำเดียวว่าเจ๋งมาก
"คิมเบอร์ลี่" เล่าว่า "เราได้ความรู้เรื่องการรักษาแพทย์แผนไทยจากหมอหลวงเยอะเลย ว้าวกับทุกฉากที่มีการรักษาของยุคนั้นมากๆ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะทำได้ขนาดนี้ อย่างการผ่าต้อ คือในยุคนั้นทำได้แล้วเหรอ รวมไปถึงความรู้เกี่ยวกับยาสมุนไพร ซึ่งคิมไม่เคยรู้เลยว่ามันมีสรรพคุณในการรักษาที่ใช้ได้จริง ๆ ต้องขอบคุณหมอแพทย์แผนไทยมาก ๆ เลยนะคะ ที่ตามมาประกบด้วยทุกฉากสอนเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับการแพทย์แผนไทยได้ละเอียดมาก คิมว่าความรู้ในละครเรื่องนี้มันสามารถนำมาใช้ได้จริงกับยุคสมัยนี้ด้วยนะคะ ก็อยากให้ติดตามหมอหลวงกันไปเรื่อย ๆ เพราะยังมีอีกหลายฉากที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาแพทย์แผนไทยค่ะ"
"มาริโอ้" บอกว่า "ก็เพราะต้องท่องจำสมุนไพรหลากหลายชนิด พร้อมทั้งเข้าเวิร์คช็อปเรื่องการรักษาแพทย์แผนไทย และที่สำคัญต้องโชว์สกิลความเป็นหมอมากกว่าใคร เรียกว่าเป็นตัวตึงนักเรียนหมอหลวงที่สุดในรุ่นเลยครับจารย์ หลังจากได้เล่นละครเรื่องนี้ ได้เผยความรู้สึกเกี่ยวกับการรักษาแพทย์แผนไทยว่า การแพทย์แผนไทยมันสุดยอดมากเลยครับ จริง ๆ ผมเรียนรู้ตั้งแต่เล่นละครทองเอกหมอยาท่าโฉลงมาแล้ว
แต่เรื่องนั้นจะเป็นหมอบ้าน เรื่องนี้เป็นหมอในวังมีความเป๊ะกว่า ผมรู้สึกประทับใจและทึ่งในวิชาการแพทย์แผนไทย มันเจ๋งตรงที่เราได้เรียนรู้สมุนไพร เรียนรู้การชิมรสสมุนไพร แต่สิ่งที่ยากที่สุดของแพทย์แผนไทยคือการตั้งยา ในเรื่องนี้ผมก็มีการตั้งยาเหมือนกัน ผมขอส่งกำลังใจให้นักเรียนแพทย์แผนไทยและนักเรียนแพทย์แผนปัจจุบัน เพราะตัวละครทองอ้นที่ผมเล่นเป็นเหมือนไทม์แมชชีนให้กับนักเรียนหมอได้รู้ว่านักเรียนหมอตอนยุคร.3 เขาเจออะไร เขาแก้ไขสถานการณ์ยังไงเพราะอุปกรณ์ไม่เหมือนทุกวันนี้ ผมเล่นเองยังรู้สึกภูมิใจในความเป็นหมอเลย และผมว่าการแพทย์แผนไทยควรสืบสานต่อไปเพราะเป็นมรดกของบรรพบุรุษเรา อยากให้น้อง ๆ นักเรียนแพทย์แผนไทยได้ภูมิใจ มันหายากมากเลยที่วัยรุ่นจะมาสนใจศาสตร์โบราณแบบนี้ ผมก็หวังว่าละครหมอหลวงจะทำให้ทุกคนได้ความรู้ควบคู่กับความสุขใจกันนะจ๊ะ"
