ต้องวางยาสลบลูกเอง 'เป้ย ปานวาด' เสียงสั่น ห่วง 'น้องปาลิน' เตรียมเข้าผ่าตัด | คมชัดลึก

เปิดใจเสียงสั่นเครือ สำหรับนางร้ายสาว "เป้ย ปานวาด" ที่ตอนนี้ลูกสาวคนเล็ก "น้องปาลิน" ป่วยต่อมอะดีนอยด์และต่อมทอนซิลโต โดยคุณแม่ เปิดใจที่งานบวงสรวง CLUB FRIDAY THE SERIES MOMENTS & MEMORIES รักนี้...ไม่มีลืม ว่าลูกสาว เตรียมเข้ารับการผ่าตัดอาทิตย์หน้า

 

อัปเดตอาการลูกสาว ?
ก็เป็นต่อมอะดีนอยด์และต่อมทอนซิลโตค่ะ ก็กำลังจะเข้ารับการผ่าตัดอาทิตย์หน้า แต่เหมือนปาลินเขาแก้วหูจะแตก ก็เลยต้องรักษาไปก่อน เลยเลื่อนไปผ่าวันที่ 10 กว่า คือมันเชื่อมต่อกันค่ะ แล้วก็ทำให้แก้วหูอักเสบมากๆ จนจะแตก แล้วมันยังผ่าไม่ได้ เลยต้องรักษาก่อน

 

เกิดจากอาการอะไร ?
คือเป้ยสังเกตว่าทำไมเขาหายใจแรง นั่งระบายสีก็หายใจแรงก็เลยเอ๊ะคุยกับพ่อ คุยกับทุกคน ทุกคนก็บอกว่าไม่มีอะไร แต่ด้วยความที่พี่โปรดเป็นมาก่อน ด้วยสัญชาตญาณความเป็นแม่ก็เลยพาไปตรวจดีกว่า ก็ไปเอ็กซเรย์ก็พบว่าต่อมนี้มันโตขนาด 90% ซึ่งน้องก็มีทางเดินหายใจเพียง 10% เท่านั้น รักษาไม่ได้ต้องผ่าอย่างเดียว ปกติจะมีการกินยาพ่นยา เป็นไปตามขั้นตอน ทำสลีปเทส แต่อันนี้ไม่ต้องทำค่ะหมอให้ผ่า

การใช้ชีวิตเป็นยังไง ?
ปกติค่ะ จนทุกคนไม่ได้สงสัยว่า...เป็นอะไร แต่เราว่ามันไม่ใช่ มันไม่ปกติ (หันหลัง พูดไม่ออก) ก็พาไปเช็กก็จริงๆด้วย เป็นอย่างที่เราคิด 

 

ขั้นต่อนต่อไปคือ ?
หมอก็ให้ผ่าเลยค่ะ คืออย่างโปรด ก็จะมีการพ่นยา การทำสลีปเทสก่อน อันนี้ก็ไม่ต้องทำเพราะโตมาก คือมันส่งผลต่อสมองด้วยค่ะ ส่งผลต่อการเจริญเติบโต แต่ว่าการผ่ามันเป็นอะไรที่โอเคนะคะ คือหลังจากที่โปรดเคยผ่าไปแล้ว ผ่านออกไปมันโอเค แต่ด้วยความที่เราเห็นพี่โปรดแล้ว มันเจ็บ และสิ่งที่กลัวที่สุดคือขั้นตอนการวางยา 

 

น้องเป็นยังไงบ้าง ?
น้องสดใส คือน้องไม่รู้ เราบอกแค่ว่าน้องจะเอาออกให้ แล้วหลังจากนี้ปาลินจะเป็นเด็กที่เข้มแข็งมาก จากที่กินได้เยอะอยู่แล้วปาลินจะกินได้เยอะยิ่งขึ้น  แล้วก็ให้พี่โปรดเล่า เพราะพี่มีประสบการณ์มาก่อน พี่โปรดบอกว่าสบายมาก นอนไม่รู้เรื่องเลย เขาก็ไม่ได้กังวล และเราก็ไม่ทำความกังวลให้กับลูก เราได้แต่คิดและกังวลในใจ 

เป็นกรรมพันธุ์หรือเปล่า เพราะลูกชายก็เป็น ?
แรกๆเป้ยก็เข้าใจว่าเป็นกรรมพันธุ์หรือเปล่า แต่สืบเนื่องน่าจะเป็นจากภูมิแพ้มากกว่า ซึ่งก่อนผ่าตัดน้องก็จะมีการตรวจเลือด ว่าแพ้อะไร 

 

ผ่าแล้วจะเหมือนเดิมไหม ?
ปกติค่ะ และแข็งแรงมาก และก็กินดีแฮปปี้ค่ะ แต่กว่าจะถึงขั้นตอนนั้นมันก็..

 

เป้ยกังวลขนาดไหน ?
เป้ยก็ งง ใจตัวเอง...ก็แปลกเหมือนกัน ถ้าเกิดมีอะไรที่เกี่ยวกับลูก หรือใครที่จะทำร้ายลูก เราจะเป็นแม่ที่แข็งแกร่งมาก แต่พอเรื่องความเจ็บความป่วยของลูก ทำไมอยู่ๆเราอ่อนแอ เราก็คิดแค่นี้ ทั้งๆที่ความเป็นจริง เราควรที่จะเข้มแข็งมากที่สุด เพื่อที่เขาจะได้แบบมีที่ยึดเหนี่ยว ก็พยายาม คือทุกคน คุณป๊อบแนวผู้ชายเขาจะไม่ค่อยกังวล แต่เรามันมีเหตุการณ์ที่ต้องวางยาสลบให้ลูกเอง เป็นคนกอดลูกไปที่เตียง เป็นคนให้ลูกดมยา ซึ่งของพี่โปรดทุกวันนี้เราก็เจ็บ ปวดหัวใจมากๆ แต่พอต้องกลับมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ โอ๊ย

 

ทำไมเราถึงต้องทำ ?
เพราะเด็กจะตกใจ เพราะทุกคนคือคนแปลกหน้าสำหรับเขา ในห้องมีแต่ไฟใหญ่ๆ และเขาต้องไปอยู่บนเตียง และเขาจะไม่ยอม เขาจะไม่เชื่อ ไม่รู้จัก เราไม่อยากให้มีการมัด เขาเชื่อใจเราที่สุด เราก็เป็นคนวาง ซึ่งตรงนี้มันเป็นขั้นตอนการวางยาสลบ เพราะเขายังเด็กมาก ค่อนข้างจะกังวล เรารู้แหละทีมแพทย์เก่ง แต่ใจคนเป็นแม่

 

แล้วหลังจากนั้นจะเป็นไงต่อ ? 
ก็แล้วแต่อาการค่ะบางคนก็ 2 วัน บางคนก็ 1 วัน แต่ของโปรดก็อาทิตย์กว่าๆ แล้วแต่เด็กเลยค่ะ ก็ภาวนาค่ะ ก็ไม่รู้เป็นอะไร อยากเป็นแทนได้ไหม ไม่อยากให้ลูกเจ็บ 

 

แล้วน้องเป็นยังไง ?
น้องปวดหูมาก ตอนนี้ก็ทานยาแก้อักเสบไป แล้วก็พ่นยาไป คุณหมอบอกว่าอาทิตย์หนึ่งน่าจะโอเค เพราะถ้าเกิดเว้นเกินจากนี้ กลัวเชื้อโรคเข้าไปอีก เพราะต่อมเขามันโตมาก เลยต้องรีบผ่า