บันเทิง

บวงสรวงภาพยนตร์ เขย่าวงการมวย 'ลุมพินี' พระเอกลิเก 'นีโน่ - แน็คกี้' แสดงนำ

บวงสรวงภาพยนตร์ เขย่าวงการมวย 'ลุมพินี' พระเอกลิเก 'นีโน่ - แน็คกี้' แสดงนำ

12 ต.ค. 2566

บวงสรวงภาพยนตร์ เขย่าวงการมวยไทย "ลุมพินี" นักแสดงนำ 2 พี่น้องพระเอกลิเกขวัญใจแม่ยกสุดฮอต "นีโน่ กฤษฎิ์สพล" - "แน็คกี้ ธเนศพิพัฒ"

เขย่าวงการมวยไทย "ลุมพินี" ให้เป็นที่ประจักษ์ไปทั่วโลก กับศิลปะการต่อสู้ "มวยไทย" มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของไทย พร้อมร่วมผลักดันศิลปะประจำชาติเป็น Soft Power ให้กระจายโด่งดัง มีชื่อเสียงไปทั่วโลก ภายในพิธีบวงสรวง มีทั้งแขกผู้มีเกียรติ พันธมิตรธุรกิจภาพยนตร์ และสื่อมวลชนหลายๆ สำนัก เข้าร่วมพิธีบวงสรวงเปิดตัวภาพยนตร์ ลุมพินี ผลงานการกำกับโดย อานุภาพ อนุวงษ์สังข์ ณ บริเวณลาน Skywalk ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ (MBK Center) 

"ลุมพินี"

โดยมีเหล่านักแสดงนำที่เข้าร่วมงาน ได้แก่  2 พี่น้องพระเอกลิเกขวัญใจแม่ยกสุดฮอต นีโน่ กฤษฎิ์สพล สุทธิหิรัญดำรงค์ และ แน็คกี้ ธเนศพิพัฒ สุทธิหิรัญดำรงค์ ร่วมด้วยเหล่านักแสดงชื่อดัง อาทิ ต้า อธิวัตน์ แสงเทียน พระเอกซีรีส์วายสุดฮอต กับการพลิกบทบาทครั้งสำคัญที่สุด และนางเอกดาวรุ่งกับผลงานภาพยนตร์เรื่องแรก อาลีน่า โด๊หลิ่ง 

"ลุมพินี"

พร้อมด้วย โดโด้ ยุทธพิชัย ชาญเลขา, โกวิท วัฒนกุล, เอกชัย ศรีวิชัย, ทองขาว ภัทรโชคชัย, สนธยา ชิตมณี (สน เดอะสตาร์), ธนาวุฒิ เกสโร, ธัชพล เกสโร,  ศรุต ขันวิไล (ไซม่อน กุ๊ก), ข้าวฟ่าง ญาสุมินทร์ สงวนชิต, โก้ ธีรศักดิ์ พันธุจริยา และ ติรุตม์ ญาณติร

 

งานนี้  2 พี่น้องนักแสดงนำ นีโน่ กฤษฎิ์สพล และ แน็คกี้ ธเนศพิพัฒ ขอสลัดมาดพระเอกลิเก มาโชว์ศิลปะแม่ไม้มวยไทย การไหว้ครู และโชว์การเตะต่อย ในช่วงพิธีบวงสรวง เรียกว่าเป็นหนึ่งในพิธีกรรรมอันศักดิ์สิทธิ์ของผู้ที่ฝึกฝนมวยไทย เพื่อความเป็นสิริมงคลให้กับตัวนักมวยก่อนการแข่งขันขึ้นชกมวย
 

ภาพยนตร์ไทย "ลุมพินี" เป็นเรื่องราวของ "ลุม (ลุมพีนี)" นักมวยฝีมือดีในค่ายมวยชัยยิมของเฮียเลา ลุม รูปร่างหน้าตาผิวพรรณดี จิตใจดี มีน้ำใจ เขากําลังเป็นที่จับตามองของเซียนมวยหลายคน ชีวิตของ ลุม เคยเป็นเด็กร่อนเร่ ไม่มีชื่อ อาศัยอยู่ในสวนลุมพีนี มาฝึกชกมวยทุกวัน จนเฮียเลา มาเห็นเลยเก็บมาชุบเลี้ยง และสอนมวยให้จนเก่ง และตั้งชื่อให้ว่า "ลุมพีนี" แต่ชีวิตลุมกลับต้องมาเจอมรสุมอย่างหนัก และหมดสิทธิชกมวยไปตลอดชีวิต ลุมถูกไล่ออกจากค่ายด้วยคําพูดที่เจ็บปวดของเฮียเลาว่า "วันหนึ่งมึงจะตายอย่างหมาข้างถนน" จากนั้นชีวิตลุมก็เดินทางเข้าสู่เส้นทางด้านมืด พร้อมกับคำสอนที่ว่า "ชีวิตจริงไม่เหมือนบนสังเวียน ไม่มีแพ้มีแต่ตาย" และลุมก็เริ่มเปลี่ยนชีวิตตัวเองไปเป็นคนละคนทันที

"ลุมพินี"

"ลุมพินี"