รู้จัก 'พิธีกรรม ความเชื่ออีสาน สัญลักษณ์' สะท้อนผ่าน 'สัปเหร่อ' จาก ต้องเต
24 ต.ค. 2566
วัฒนธรรม พิธีกรรมท้องถิ่น ความเชื่ออีสาน ที่สะท้อนผ่านหนังไทย "สัปเหร่อ" และ สัญลักษณ์บางส่วนที่สอดแทรกจนออกมาได้รสกลมกล่อม จาก "ต้องเต ธิติ" ผู้กำกับภาพยนตร์
ภาพยนตร์ไทยที่มาแรงล้มเกือบทุกสถิติ ณ ตอนนี้ คงนี้ไม่พ้น เรื่อง "สัปเหร่อ" ซึ่งหลายคนต่างกล่าวเป็นเสียงเดียวกันว่า มากกว่าหนังผี หรือ หนังสยองขวัญ แต่เป็นภาพยนตร์ที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรม ความเชื่อทางอีสาน ที่บางคนอาจจะไม่เคยได้เห็น หรือ ถูกลืมเลือน โดยเป็นผลงานการกำกับของ "ต้องเต ธิติ" และเจ้าตัว เคยออกมาบอกเล่า "SYMBOLIC หรือ สัญลักษณ์" บางส่วนของหนังเรื่องสัปเหร่อ "อยู่ที่มุมมอง อยู่ที่ความคิด อยู่ที่ความเข้าใจ"
พิธีกรรมท้องถิ่น ความเชื่ออีสาน สะท้อนผ่านเรื่องสัปเหร่อ
- ส่อนขวัญ : พิธีทางความเชื่อของภาคอีสานที่มักจะเกิดขึ้นเมื่อมีคนเจ็บไข้ได้ป่วยทางใจจะด้วยการประสบอุบัติเหตุก็ดี หรืออาการเจ็บป่วยก็ตาม โดยพิธีนี้มีความเชื่อว่า เมื่อบุคคลใดเกิดเรื่องราวดังกล่าวขึ้นจะทำให้ขวัญหนีดีฝ่อ หายป่วยแล้วก็จะมีอาการซึมเศร้า ไม่สดชื่น ไม่แจ่มใสเหมือนคนปกติ จึงทำให้ผู้เฒ่าผู้แก่มักจะทำพิธีนี้ขึ้นเพื่อเป็นการนำขวัญและกำลังใจของคนๆ นั้นกลับมาชาวอีสานบางคนกล่าวว่า หากไม่ทำ พิธีส่อนขวัญคนป่วยกลับคืนมา อาการของผู้ป่วย
- การหว่านกาละพฤกษ์ : โยนกาละพฤกษ์ หรือ การหว่านกัลปพฤกษ์ในงานศพ เป็นการแสดงให้เห็นภาพว่า ในขณะที่มีผู้คนกำลังแย่งยื้อเงินทองกันอย่างวุ่นวายอยู่นั้น ศพที่ตั้งอยู่กลับไม่รู้สึกอยากได้เงินทองเหล่านั้นเลย ยังนอนสงบนิ่ง ผิดกับตอนมีชีวิตอยู่ ต้องออกแรงดิ้นรนเพื่อให้ได้มาซึ่งทรัพย์สินเงินทอง อีกอย่างหนึ่ง การหว่านกัลปพฤกษ์นั้นคือการโปรยทาน เป็นสร้างกุศลบารมีครั้งสุดท้ายให้กับผู้ที่ล่วงลับไปแล้ว
- โปรยข้าวตอก : สื่อถึงคติธรรมว่า คนตายนั้น รูปกับนามแตกจากกันเหมือนข้าวตอกแตกที่แตกออกจากกัน ซึ่งพิธีโปรยข้าวสารข้าวตอก จัดขึ้นในงานศพของคนไทยในสมัยโบราณ การฟาดข้าวสาร หรือ ข้าวตอก เปรียบเสมือนการขับไล่สิ่งอัปมงคล โดยโปรยลงที่พื้นในระหว่างการเคลื่อนย้ายศพไปวัด
- พิธีกรรมตัดสายแนน หรือ ตัดผัวตัดเมีย : ต้องเต ได้นำมาเล่าในมิติของความเชื่อ พิธีกรรมนี้จะทำให้คนที่ตายไม่มาเอาคนที่อยู่ตายไปด้วย เหมือนตัดขาดความสัมพันธ์ ตัดขาดความคิดถึงตัดขาดความห่วงใย ตัดขาดความรู้สึก แต่ถ้าตอนทำคนที่ทำหันกลับไปดู จะทำให้ตัดทุกอย่างไม่ได้ แต่บาดแผลจากความรัก ไม่อาจหายไปจากความทรงจำ
- ผูกแขนสู่ขวัญ : ฉากที่ยายผูกเเขนให้เซียง ทางภาคอีสาน มีความเชื่อการผูกฝ้าย เป็นการรับขวัญให้เข้ามาในชีวิต ให้ชีวิตเจอแต่สิ่งดีๆ ไม่ว่าจะเป็นความเชื่อหรือเป็นความจริงสุดท้ายถ้าทำแล้วเราสบายใจที่จะทำเราก็ทำ อย่างน้อยการที่เราทำมันก็เกิดจากความรัก ความห่วงใย ความอบอุ่นของหัวใจเนาเอง
- ธุง : เครื่องประกอบพิธีกรรมสำคัญของชาวอีสานมาอย่างยาวนาน เชื่อกันว่า สามารถป้องกันสิ่งนิสัยไม่ดีร้าย หรือ สิ่งไม่ดีที่มองไม่เห็น หรือ ภูตผีวิญญาณที่จะมารบกวนงานบุญ หากเห็นธุงแล้วจะถอยออกไป พร้อมกันนั้นยังเป็นการบอกกล่าวบวงสรวงเทพยดาในพื้นที่ว่า มีการทำบุญ และมีพิธีการสำคัญให้มาช่วยปกป้องคุ้มครอง ทั้งนี้ยังสะท้อนความเชื่อหลายอย่างด้วยกัน อาทิ แทนการเชื่อมโยงวิญญาณหลังความตาย รวมถึงเป็นกุศโลบาย หมายถึง สายใยนำสู่พระธรรม เป็นบุญเป็นกุศลให้คนที่ประดิษฐ์ธุงแมงมุมถวายเป็นพุทธบูชา ได้ยึดเกาะสายใยนี้สู่ภพแห่งพระศรีอริยเมตไตรยหรือสู่นิพพาน
- โบว์ดำกลัดคนท้อง : ตามความเชื่อของชาวอีสาน คือ ป้องกัน ภูตผีปีศาจ มาเอาลูกในท้องของเเม่เด็ก
- เสื้อเเดงเเขวนหน้าบ้าน : ในความเชื่อของชาวอีสาน การเเขวนเสื้อแดงที่หน้าบ้านเป็นการป้องกันผีเเม่ม่ายที่จะมาเอาชีวิตของคนในบ้าน เเละอีกความเชื่อเป็นการป้องกันสิ่งอัปมงคลเเละผีต่างๆไม่ให้มารังควานผู้คนที่อยู่ในบ้าน
สัญลักษณ์แฝงในเรื่อง สัปเหร่อ
- ข้าวจี่ไหม้ : ยายที่แก่ชราตาแทบมองไม่เห็น แก่จนไม่รู้ความสุกพอดีกินของข้าวจี่ รู้แค่ว่าห่วงลูกหลาน ไม่สนใจว่าลูกหรือหลานตัวเองจะทำผิดหรือทำไม่ดีมาขนาดไหน รู้แต่ว่าอยากดูแลเขา มอบความรัก มอบความห่วงใย มอบความอบอุ่น / บางครั้งเราอาจแค่อยากกินข้าวธรรมดากับคนในครอบครัวธรรมดา ที่แสนจะพิเศษแค่นั้นเองครับ /นี่อาจเป็นความรักอันบริสุทธิ์ที่แท้จริงของคนที่อยู่ข้างๆ ความรักต้องรักษาด้วยความรัก
- ผู้ชายที่ทาเล็บ : ในสมัยก่อนจะสื่อถึงการเเบ่งเเยกชนชั้นทางสังคม เเต่พอมาอยู่บนตัวเจิด ความหมายเเฝงที่ว่า เจิดที่จบกฎหมายกับการทำศพ เราจะไม่เเบ่งเเยกว่าใครเป็นใคร ทุกศพเราปฏิบัติด้วยความเท่าเทียมกัน
- เมรุหลากสีสัน : เราตั้งคำถามว่าสื่อถึงการช่วยคลายความโศกเศร้าของคนที่สูญเสีย แต่เมื่อถึงวาระสุดท้ายที่จะทำการเผาศพผู้วายชนม์ เกิดขึ้นจริงๆสีสันต่างๆของเมรุยังจะช่วยปลอบอารมณ์ของเราได้ไหม
- วงไฮโลในงานศพ : กิจกรรมในงานศพ แสดงถึงเส้นเเบ่งระหว่างอารมณ์สนุกกับความเศร้า ของเจิดกับวงไฮโล เพื่อบอกเป็นนัยยะว่าถ้าความตายไม่ได้เกิดกับคนที่เรารัก เราก็จะยังมีความสุขต่อไปได้โดยที่บางทีเราอาจลืมนึกถึงเขาตอนที่ยังมีชีวิตอยู่…
- นกบินออกจากบ้าน : โบยบินออกที่จากที่อยู่อาศัย โบยบินออกจากความเป็นห่วง โบยบินออกจากการสูญเสียสิ่งอันเป็นที่รัก อันนี้ตีความได้เยอะมากเลยครับ
- ลูกโป่งขาวลอย : สื่อถึงการหลุดลอย การปลดปล่อย จากความสุขและทุกข์ของคนที่ยังอยู่และคนที่จากไป
- น้ำตก (โลกความฝัน) : ถ้าสังเกตดีๆจะเห็นน้ำตกไหลสวนทางกัน สื่อถึงธรรมชาติที่มีการเปลี่ยนเเปลงและเเตกต่างกันอยู่เสมอ คนเราไม่อาจขัดขวางหรือฝืนธรรมชาติได้ มันคือธรรมชาติของจริงที่เราต้องเจอ เรียนรู้ แล้วอยู่กับมัน