แม่ 'น้องนีน่า' โต้บังคับลูกหาเงิน เข้าวงการตอนอายุ 5 เดือน สู่ดารา 500 ล้าน
"นีน่า ณัฐฐา" สาวน้อยมหัศจรรย์ วัย 9 ขวบ ที่ได้รับฉายาว่า "เบลล่า 2" แสดงละครประกบพระเอกสุดฮอตมาแล้วหลายคน ไม่ว่าจะเป็น ณเดชน์ คูกิมิยะ , มิกค์ ทองระย้า , นิชคุณ กับเส้นทางวงการบันเทิง ตั้งแต่อายุ 5 เดือน "คุณแม่แพรพร" เคลียร์ครหา บังคับลูกทำงานหาเงิน ในรายการ คุยแซ่บshow
นีน่าตอนนี้เป็นนักแสดงมหัศจรรย์รุ่นใหม่ก็ว่าได้ ล่าสุดเล่นกับณเดชน์เรื่องธี่หยด แตะ 500 ล้านแล้ว รู้สึกยังไง?
นีน่า : รู้สึกดีใจค่ะ ตอนแรกไม่ได้คิดว่าจะถึงขนาดนี้ ตอนแรกคิดว่า 39 ล้าน โห 500 ล้าน
เล่นกับพี่ณเดชน์เป็นไงบ้าง?
นีน่า : ตอนแรกหนูขี้อายค่ะ หล่อม๊ากกก พอเห็นเขาก็ อุ้ย เล่นกับซูเปอร์สตาร์ จะได้มั้ยเนี่ย ตื่นเต้นมาก แต่พอได้เล่นกับพี่เขาจริงๆ รู้สึกว่าเข้ากันได้อยู่ค่ะ
เจอวันแรก?
นีน่า : เขาแกล้งอยู่ค่ะ สมมติหนูนั่งอ่านบทอยู่เฉยๆ คนเดียว หรือกินข้าว ก็เดินมาบอกว่าขอโทษนะ แล้วตดใส่ค่ะ (หัวเราะ) บางครั้งก็เรอใส่ค่ะ
สนิทกันเลยมั้ย?
นีน่า : (หัวเราะ) ถามว่าเราปุ๋งเอาคืนมั้ย ไม่ออกค่ะ (หัวเราะ)
เขาสอนอะไรเรามั้ย?
นีน่า : มีฉากนึงที่ยากมากๆ หนูเล่นไม่ได้เลย หนูก็จะเอายังไงดี ลองไปปรึกษาพี่แบร์ดู เพราะเขาคือซูเปอร์สตาร์ พี่เขาก็ให้คำแนะนำมาดี เขาบอกว่าลองตั้งสติดีๆ ก่อนแล้วลองเข้าถึงบทจริงๆ เราก็ทำได้ค่ะ
เห็นความเก่งของลูกตั้งแต่เกิดมั้ย?
แพรพร : ไม่ค่ะ น่าจะ 3-4 เดือน
นีน่าเข้าวงการ เล่นโฆษณาตั้งแต่ 4 เดือน จุดเริ่มต้นยังไง?
แพรพร : เพื่อนชวนไปแคสโฆษณา MamyPoko ค่ะ ก็เลยลองไปดู นางก็ทำได้ เขาโยนลูกบอล นางก็คลานไปเอาได้ เขาบอกให้ไปตรงนั้นตรงนี้ นางก็ทำได้ทุกอย่างตามคำสั่ง
กว่าจะมีสาวน้อยมหัศจรรย์ได้เกิดขึ้นมาในวงการบันเทิง คุณแม่บอกว่าตอนแรกเกือบจะไม่มีน้องแล้ว?
แพรพร : พยายามเยอะมาก ตั้งแต่แต่งงาน 4-5 ปี พยายามมีลูกมาตลอด ธรรมชาติไม่ได้ก็ไปลองวิทยาศาสตร์ แต่ไม่ติด รอบที่ 20 ถึงติดค่ะ
ลงทุนกับการจ่ายค่าหมอไปเท่าไหร่?
แพรพร : น่าจะล้านกว่าๆ ตอนนั้นอยากได้ลูกมาก ตอนนั้นคิดว่าครั้งนั้นเป็นครั้งสุดท้ายแล้ว ไม่ไหวแล้ว แต่ก็ไปมูก่อน ก่อน 20 ก็ไปมูทุกที่ สุดท้ายก็ได้น้องมา
อยากได้ลูกสาวหรือลูกชาย?
แพรพร : ผู้หญิงหรือผู้ชายก็ได้ เรารับหมด
ทำไมครั้งที่ 20 ถึงแตกต่างกว่า 19 ครั้งที่ผ่านมา?
แพรพร : เราไปวัดแห่งนึงที่อุดรฯ ค่ะ ไปขอ แล้วพระอาจารย์ท่านบอกว่าครั้งนี้ได้แน่นอน น่าจะเป็นผู้หญิง มาพร้อมรูปและทรัพย์ ตอนนั้นก็ไม่ได้หวังค่ะ ก็กลับมาที่กรุงเทพฯ ถึงเวลาไปใส่ตัวอ่อน แต่เราก็ไม่รู้ว่าตัวอ่อนผู้หญิงหรือผู้ชาย ใส่ตัวอ่อนเราก็ต้องพักผ่อน พอเราต้องไปตรวจว่ารู้เพศแล้วนะ หมอบอกว่าเป็นผู้หญิงนะคะ เราก็คิดว่าท่านสุดยอด (หัวเราะ) เป๊ะเลยค่ะ เราก็น้ำตาไหล ร้องไห้กันทั้งคู่
กลับไปหาพระอาจารย์มั้ย?
แพรพร : ไปตลอดจนถึงทุกวันนี้ค่ะ
คุณพ่อเป็นคนอังกฤษ เขาเชื่อทางนี้มั้ย?
แพรพร : เขาก็เชื่อทางนี้นะคะ ก่อนมาทำครั้งสุดท้าย คุณพ่อไปนั่งสวดบท 108 กับเราที่วัด ตั้งแต่ทุ่มจนถึง 4 ทุ่ม สวดทุกวันพระ เขาเชื่อเรื่องนี้ด้วย
คุณพ่อคุณแม่เล่าให้นีน่าฟังมั้ย กว่าจะได้เรามันยากมากเลย?
นีน่า : น่าจะเคยเล่าให้ฟัง แต่ลืมไปหมดแล้วค่ะ แม่เล่าให้ฟังว่าไปขอที่นั่นนะ พอหนูไปวัดนั้นทีไร พระอาจารย์ก็จะเรียกหนูว่าลูกสาวค่ะ
โฆษณาแรกตอน 4 เดือน ตอนนั้นลูกยังเบบี๋อยู่เลย ใครแนะนำให้เอาลูกไปแคส?
แพรพร : เพื่อนสนิทแม่ที่คอนโดค่ะ เขาน่าจะเห็นว่าน้องอวบและน่ารักมั้งคะ (หัวเราะ) ตอนนั้นไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไง เพราะครั้งแรกค่ะ ซึ่งครั้งแรกก็ได้เลย
ถ้าที่ไหนเปิดแคสติ้ง แล้วมีน้องนีน่าไป คนอื่นกลับบ้านหมด จริงมั้ย?
แพรพร : จริงค่ะ ไม่รู้ทำไมเหมือนกัน พอไปถึงเขาก็จะพูดว่า นีน่ามาเหรอ กลับกันดีกว่า ถ้านีน่ามา เราไม่ได้แล้ว
สิ่งแรกที่จำได้ตอนกี่ขวบ?
นีน่า : 3 ขวบค่ะ ถ่ายละครเรื่องแรก ตอนนั้นก็ดีใจ เพราะหนูชอบแสดงอยู่แล้ว แล้วรู้ว่าตัวเองดังขึ้นนิดนึง ก็ดีใจค่ะ
ตอนนั้นเยอะสุดโฆษณากี่ตัว?
แพรพร : น่าจะ 12-13 ตัวได้ค่ะ ถ้ารวมมาถึงตอนนี้ว่ากี่ตัว จำไม่ได้ค่ะ (หัวเราะ)
นีน่ามีความสุขกับการถ่ายละคร โฆษณา แต่เริ่มงอแงตอนไหน?
แพรพร : ประมาณ 2 ขวบ เริ่มงอแง กลัวกล้อง กลัวไฟ ไม่กล้าเข้าใกล้ แม่ก็ให้เขาหยุด จนถามเขาว่าจะถ่ายรูปมั้ย จนเขาบอกว่าถ่าย ถึงกลับมาถ่าย ตอนนั้นใครถือกล้องเขาจะไม่เล่นเลย เขาจะเดินหนี ร้องไห้ ไม่เอา กรี๊ดๆ ค่ะ
ทำไมอยู่ๆ กลับมา?
แพรพร : ไม่รู้เหมือนกัน (หัวเราะ)
ตอนโฆษณาเป็นสิบๆ ตัว เงินมหาศาล พอน้องบอกว่าไม่เอาแล้ว?
แพรพร : แม่ไม่ใส่ใจเรื่องเงินค่ะ ทุกวันนี้ถามเขา ถ้าเขาเต็มใจที่จะเล่น เต็มใจที่จะรับงานก็โอเค แต่ถ้าวันไหนเขาบอกว่าไม่ เราก็พร้อมที่จะหยุด ณ ตอนนี้และอนาคตด้วยค่ะ
นีน่าอยากหยุดมั้ย?
นีน่า : ไม่อยากค่ะ
ตอนเขาชวนไปแคสธี่หยด คุณแม่บอกลูกยังไง?
แพรพร : ไปลองดู แค่ลองดู เพราะทุกคนเป็นคนไทยหมดเลย หมวยหมดเลยที่ได้ นางเป็นฝรั่งอยู่คนเดียว
หนังเรื่องแรกเลยมั้ย?
นีน่า : เรื่องที่สองค่ะ เรื่องธี่หยดพอหนูไปแคสหนูก็ทำตัวไม่ให้ดูฝรั่ง (หัวเราะ) หนูก็แคสปกติของหนูไป ตอนแรกหนูคิดว่าไม่ได้หรอก ฝรั่งขนาดนี้ ตอนที่รู้ว่าได้ หนูอ้าปากเลยค่ะ
แพรพร : ตอนนั้นอยู่อังกฤษ เราไม่คิดว่าเราจะได้ เพราะคนอื่นดูไทย แต่เขาดูเป็นฝรั่ง ผมก็สีนี้
ธี่หยดเป็นหนังผี แล้วกลัวผีมั้ย?
นีน่า : กลัวมากค่ะ
ประทับใจที่สุดคือพี่ณเดชน์?
นีน่า : หล่อ น่ารักค่ะ
อยากบอกอะไรพี่แบร์?
นีน่า : คิดถึงพี่แบร์นะคะ
พี่แบร์ติดดินยังไง?
นีน่า : ถ้ากินข้าวในกองจะไม่แยกค่ะ จะกินด้วย เป็นแบบบ้านๆ ค่ะ เป็นธรรมชาติค่ะ
เจอพี่นิชคุณเรื่องอะไร?
นีน่า : ภาพหวาดค่ะ พี่นิชคุณเล่นเป็นคุณอาของหนู
ไปแคสได้ไง?
แพรพร : น้องเพิ่ง 3 ขวบครึ่ง เป็นหนังผีที่เวลาแคส เขาให้เอาเชือกมาผูกคอ แม่จะดึงเขาออกแล้ว ไม่เอา ไม่เล่น เราไม่อยากให้เล่น เราดูว่าบทมันหนักไป ไม่น่าจะเล่นได้ ไม่น่าจะสื่อออกมาได้ ก็บอกว่าไม่เอาดีกว่า เขาก็บอกว่าลองหน่อยแม่ ก็เลยลองเข้าไป นางก็เล่นได้ แม่น้ำตาไหลเลย
แคสยังไง?
นีน่า : จำได้แค่ตอนถ่าย ที่ผูกเชือกค่ะ ตอนนั้นหนูอยู่ในตู้ หนูกลัวความมืดมาก มีตุ๊กตาของเราอยู่ในนั้น ต้องมีไฟฉายติดตัวค่ะ
เล่นกับพี่นิชคุณ เขาเป็นซุปตาร์ระดับโลก รู้สึกยังไง?
นีน่า : หนูไม่อายเลยพี่นิชคุณเลยค่ะ แต่หนูอายผู้จัดการพี่นิชคุณค่ะ หน้าเขาหล่อมากเลย
ผู้จัดการนิชคุณกับพี่แบร์?
นีน่า : ต้องพี่แบร์ เพราะพี่แบร์ดูอยู่ (หัวเราะ)
พี่มิกค์ ทองระย้าก็เป็นอีกคนที่เราได้เล่นด้วย?
นีน่า : พี่มิกค์น่ารักมากเลยค่ะ เวลาว่างก็ชวนกันเล่นติ๊กต๊อกค่ะ
นีน่าไปเล่นละครกับหนิง ปณิตาได้ยังไง?
แพรพร : น่าจะพี่นีโน่ค่ะ เห็นนีน่าในโฆษณาเดทตอล ก็เลยให้ทีมงานตามนีน่าไปแคส ตอนนั้นยังไม่เคยเจอคุณหนิงค่ะ เจอคุณหนิงก็น่ารักมาก เป็นกันเอง
นีน่า : น่ารักมาก ใจดีมากๆ เลยค่ะ
แพรพร : เป็นละครเรื่องแรกของนีน่าค่ะ
นีน่า : เวลาอ่านบท แม่บอกให้ทำความเข้าใจให้มากที่สุด แต่ถ้าละครที่ยากที่สุดของหนู น่าจะเป็นละครตอน 3 ขวบ เพราะตอนนั้นเล่นเป็นแฝดค่ะ เป็นผู้หญิงคนนึงกับผู้ชายคนนึง ถ้าเป็นผู้ชายก็แอ็กติ้งง่ายมากๆ ค่ะ เพราะหนูเป็นคนห้าวค่ะ
ไปเรียนแอ็กติ้งมั้ย?
นีน่า : ไม่เคยเรียนค่ะ
น้องเล่นได้ยังไง แม่สอนอะไร?
แพรพร : ไม่ได้สอนอะไรเลย ทำเองทุกอย่าง ช่วยต่อบทบ้างแต่ไม่มากเท่าไหร่ แต่บอกเขาว่าต้องทำอารมณ์ยังไง ต้องคิดยังไง แล้วเขาก็ไปต่อเอง
ความสามารถในการแอ็กติ้ง ได้จากใคร?
แพรพร : น่าจะฝั่งพ่อมากกว่า เหมือนจะแอ็กติ้งดีที่สุด (หัวเราะ) พ่อขี้เล่นค่ะ
นีน่า : แดดดี๊เคยเล่นหนังค่ะ เคยเล่นสมัยก่อน ตอนอยู่ลอนดอน
แพรพร : เหรอ แม่ไม่เห็นรู้เลย
นีน่า : พ่อเล่าให้หนูฟัง (หัวเราะ)
มีคนบอกว่าน้องเล่นละครกับพี่เบลล่า ก็ได้ฉายาเบลล่า 2 เป็นลูกครึ่งเหมือนกันด้วย รู้สึกยังไง?
นีน่า : รู้สึกดีใจที่ทุกคนบอกว่าเป็นเบลล่า 2 เพราะหนูเป็นแฟนคลับพี่เบลล่ามาตั้งแต่เด็ก ดูบุพเพสันนิวาสทุกตอน ก่อนหน้านั้นไม่เคยร่วมงานกับพี่เบลล่า นี่เป็นครั้งแรก ตอนเจอครั้งแรกก็อายมากๆ นั่งนิ่งๆ จนพี่เขาเดินมาหา เดินมาคุยด้วย เราคุยด้วยไปเรื่อยๆ จนสนิทกัน
เหมือนคายตะขาบกันมา มีความน่ารัก เป็นกันเอง พอได้รู้ว่าต้องเล่นเป็นพี่เบลล่าตอนเด็ก รู้สึกยังไง?
นีน่า : ดีใจค่ะ ตอนนั้นหนูก็รู้สึกว่าต้องมาเล่นกับซูเปอร์สตาร์ที่ดังมากๆ หนูจะเล่นยังไงดี ให้ดูเหมือนเขาตอนเด็กจริงๆ เราก็ไปมองพี่เขาเวลาเล่น ดูในจอ เวลาเขายิ้มมุมปากยังไง เขาเบะปากยังไง
อยากบอกอะไรพี่เบลล่า?
นีน่า : คิดถึง อยากร่วมงานกับพี่เบลล่าอีกเยอะมากเลยค่ะ อยากเจอกันอีก ร่วมงานกันอีกในอนาคต ไม่ว่าจะละครหรือหนัง
พ่อภูมิใจกับลูกขนาดไหน เป็นเด็กน้อยมหัศจรรย์คนใหม่ของเมืองไทย?
แพรพร : เขาภูมิใจมาก ไม่หยุดพูดเลยค่ะ ยิ่งย่ากับปู่อยู่ที่โน่น พูดถึงตลอด แต่เขาอยากให้ลูกเขาเล่นละครตลกบ้าง
การแสดงก็ได้ ร้องเพลงก็ได้ ภาษาก็ได้ แต่มีดราม่า น้องแค่ 9 ขวบ ทำงานหาเงินให้ครอบครัวได้แล้ว ก็มีกระแสตีคุณแม่ว่าบังคับน้องทำงานหรือเปล่า?
แพรพร : ไม่ได้บังคับค่ะ
นีน่า : ไม่ได้บังคับค่ะ หนูอยากทำเอง
แพรพร : คนชอบเราก็มี คนเกลียดเราก็เยอะ เขาก็คงคิดว่าเราบังคับลูกมั้ย เรื่องนี้ก็ให้ลูกเล่น เรื่องนี้ก็ให้ลูกรับ ทุกอย่าง โฆษณาก็จะรับอีกแล้ว แต่เราถามลูกก่อนว่าอยากเล่นมั้ย อยากรับมั้ย ถ้าเขาบอกว่าไม่เราก็ไม่รับอยู่แล้วค่ะ แต่คนอื่นไม่เข้าใจกับเรา
คุยยังไงตอนรับงาน?
แพรพร : ให้เขาดูบทก่อน เล่นวันไหนบ้าง รับมั้ย นางก็บอกว่ารับ แล้วเราถามเขาว่าระหว่างเรียนกับทำงาน ถ้าหนูเหนื่อยจะเลือกอันไหน เขาบอกว่าขอหยุดเรียนก่อนได้มั้ย
นีน่า : รู้สึกภูมิใจที่หาเงินได้ เพราะได้ช่วยทุกคนในครอบครัว ภูมิใจในตัวเองที่ได้ขนาดนี้แล้ว เอามาช่วยครอบครัวดีกว่าค่ะ
นีน่าตัดสินใจเองว่าจะรับหรือไม่รับ คุณแม่ไม่ได้บังคับ?
นีน่า : ไม่ได้บังคับเลยค่ะ
ล่าสุดนีน่าเพิ่งรำบวงสรวงองค์พญาศรีสัตตนาคราช ที่นครพนม ทำไมถึงได้ไป?
แพรพร : แม่บนไว้ค่ะ พอดีรู้ข่าวว่าได้หนัง ถ่ายหนังใกล้จะเสร็จแล้วแหละ แต่พอดีมีโอกาสได้ไปไหว้พระธาตุพนม ก็เลยแวะไปบน น้องเขาไปด้วยแต่น้องหลับ แม่เลยลงไปคนเดียว ไปแล้วรู้สึกว่าไปนั่งปุ๊บน้ำตามาจากไหนไม่รู้ ร้องไม่หยุด มีคนแก่ๆ คนนึงเดินมาถามว่าจะพาใครมาไหว้ปู่หรือเปล่า ต้องเอาเขาลงมานะ ถ้าไม่เอาลงมา ก็จะไม่หยุด เราเลยต้องวิ่งไปอุ้มลูกมา พอไหว้เสร็จแม่หยุดร้องไห้ ตอนนั้นตกใจว่าทำไมเขาถึงรู้ เขาบอกว่าท่านมาสีเขียวมาเลยนะ ก็เลยเป็นที่มาที่ไปใส่ชุดสีเขียว
ตอนนั้นบนว่าอะไร?
แพรพร : ให้หนัง 300 ล้านค่ะ พอทะลุ 300 ล้าน น้องก็เลยต้องไปแก้บนค่ะ ตอนนั้นแม่ก็คิดว่าท่านมานะคะ เหมือนท่านมาหาเรา เป็นท้องฟ้าเหมือนองค์ท่านสีทองค่ะ