'เบสท์ ณัฐสิทธิ์' เครียด ผ่อนเรือนหอ 2 ปี ไม่ได้อยู่ ยื่นฟ้อง เสียหาย 2 ล้าน
ผ่อนเรือนหอ 2 ปี ไม่ได้อยู่ เบสท์ ณัฐสิทธิ์ เครียด ตัดสินใจยื่นฟ้อง บริษัทรับตกแต่งบ้านทิ้งงานและปัดความรับผิดชอบ
เบสท์ ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์ พร้อมทนาย เกรียงชัย วิศิษฏ์สรอรรถ (ทนายตั้ม) เดินทางมายื่นฟ้องที่ศาลแพ่งพระโขนง โดยทนายตั้มกล่าวว่า "วันนี้ พาเบสท์ มายื่นฟ้อง คดีผิดสัญญาจ้างทำของ และเรียกค่าเสียหาย เกิดจากบริษัทรับต่อเติมและตกแต่งภายในย่านสวนหลวงแห่งหนึ่งที่รับงานตกแต่งบ้าน (เรือนหอ) ของเบสท์ซึ่งแพลนจะใช้เป็นที่ทำงานและที่พักอาศัยด้วย
แต่กลับทำงานล่าช้าตลอดจนสร้างความเสียหายกระทบถึงตัวบ้านร้าวชำรุด มูลค่าความเสียหายรวมเกือบ 2 ล้านที่ยื่นฟ้องเรียกค่าความเสียหาย(จากมูลค่าจริงเกือบ 3 ล้านบาท) อีกทั้งก่อสร้างไม่เสร็จทิ้งงาน ได้เคยมีการนัดเจรจา แต่ไม่เคยได้รับการรับผิดชอบเป็นลักษณะยื้อซื้อเวลาไร้ความจริงใจในการแก้ไขปัญหา ส่งผลถึงสุขภาพจิตใจและยังมีปัญหาที่ถูกยกเลิกงานและแก้ไขงาน ที่เกี่ยวกับบ้าน ที่ทำการตกลงกับลูกค้าไว้แล้ว ด้วยครับ"
ด้าน เบสท์ ที่มีสีหน้าค่อนข้างเครียด กล่าวเสริมว่า "ผมตั้งใจซื้อบ้านไว้เป็นเรือนหอและที่ทำงานแล้วก็อยากที่จะทำข้างในบ้านใหม่ สุดท้ายก็เกิดความเสียหายจากผู้รับเหมา ซึ่งเขาไม่ได้รับผิดชอบในส่วนที่เกิดความเสียหายระหว่างทาง ตั้งแต่เมื่อประมาณ 2 ปีที่แล้ว จนมาถึงวันนี้เป็นเรื่องเกิดขึ้นหลังจากที่เขาทำไปแล้วหลายเดือนและทิ้งงาน มีการไกล่เกลี่ยกันแล้วสุดท้ายก็ตกลงกันไม่ได้
ผมโอนเงินไปให้เขา 2 งวด จากเดิม 3 งวด มันก็มียอดเงินประมาณหนึ่งแล้ว วันที่เขาให้ผมไปรับงาน ผมก็เข้าไปดูงาน มันพังหมดเลย อยากให้เขามาซ่อมให้ แต่เขาปัดเรื่องการมาซ่อม เขาบอกว่าผมต้องรับงานไปได้แล้ว ผมก็แย้งว่าจะรับงานได้อย่างไร ในเมื่อสภาพบ้านเป็นอย่างนั้น ครัวร้าวทั้งหมด กระเบื้องก็ต่อไม่ดี
ซึ่งกระเบื้องผมก็ได้สปอนเซอร์มาจากแบรนด์หนึ่ง และเขาก็จ้างงานผมเป็นพิธีกรด้วย แต่สุดท้ายก็มีปัญหา เรามีการคุยถึงวิธีการแก้ปัญหากับเขาเรื่องนี้หลายรอบ แต่ไม่เกิดอะไรขึ้น เขาไม่รับผิดชอบเลย จริงๆ มันมีปัญหาหลายส่วน ทั้งเรื่องของค่าบ้านที่ผมผ่อนชำระไป 2 ปีไม่ได้อยู่ และแบรนด์ที่เขาสนับสนุนวัสดุต่างๆเขาต้องมีการถ่ายทำเป็นคลิปรายการเพื่อออนแอร์มันก็ทำไม่ได้
รอยที่ร้าวมันร้าวโหดมาก เสาบ้านมันร้าวผ่ากลาง ในครัวก็ร้าว พื้นก็ร้าว แต่เขาบอกว่าอยู่ได้ ผมเลยบอกให้เขาเอาวิศวะมาตรวจเช็คเพื่อยืนยันว่าสามารถเข้าอยู่ได้ เขาบอกว่าไม่มี อ้าว แล้วใครจะรับผิดชอบชีวิตเรา แต่จุดที่ทำให้ผมเลือกปรึกษาทนาย เพราะเขาบอกว่าไปเรียกทนายมาคุยเลย ผมก็ไม่คุยแล้ว ให้ทนายพี่ตั้มคุยดีกว่า ผมเซ็งตั้งแต่มันเกิดเรื่องแล้ว เราผ่อนบ้านมา 2 ปีแล้วไม่ได้อยู่ ถูกยกเลิกงานที่ต้องมาถ่ายที่บ้าน ผมจ่ายเงินเป็นล้านแล้วแต่ผมไม่ได้อยู่บ้าน
ผมว่าเขาต้องรับผิดชอบกับการที่ผมต้องสูญเสียอะไรหลายๆ อย่าง ผมเครียดมาก จ่ายเงินไปเท่าไหร่ก็ไม่เห็นอะไรเลย มันส่งผลกับจิตใจเรามากนะ รวมถึงครอบครัวผมและคู่หมั้นด้วย ลามไปถึงงานต่างๆด้วย เหมือนเราตั้งเป้าไว้ แต่เราไม่สามารถไปถึงได้มันเหมือนเป็นปมไปเลยกับสิ่งที่เขาทำ เราต้องเอาเขามารับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำให้ได้ครับ"