'แอนนา' รับทราบข้อหาฉ้อโกง กล่องสุ่มทิพย์ ผู้เสียหาย 119 ราย เสียหาย 111 ล้าน
แอนนา ทีวีพูล รับทราบข้อกล่าวหา จากกรณีกล่องสุ่มทิพย์ที่มีผู้เสียหายรวม 119 ราย ความเสียหายกว่า 111 ล้านบาท ก่อนถูกนำตัวพร้อมสำนวนกว่า 6,000 แผ่น ส่งพนักงานอัยการสำนักงานอัยการคดีอาญา ดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชน
แอนนา กล่าวว่า จากปัญหาที่เกิดขึ้นเนื่องจากมีลูกค้ากว่า 60,000 คน และได้ขายสินค้าหลายประเภท ทั้งอาหารเสริม ครีมทาผิว คลอลาเจน ทอง ฯลฯ เนื่องจากไม่ได้ทำบัญชีและวางระบบหลังบ้านให้ชัดเจน เมื่อลูกค้าขอเงินคืนจำนวนมากจึงเกิดปัญหาสะดุดในช่วงหนึ่ง วันนี้จึงมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อจะไปชี้แจงกับอัยการว่าทำไมลูกค้าถึงไม่ได้รับสินค้า
ซึ่งเหตุผลมีอยู่ในสำนวนคดี ที่ผ่านมาตัวเองสิ้นหวังและคิดว่าจะต้องติดคุก แต่มีบางคดีที่ผู้เสียหาย 10 กว่าคนได้ดำเนินการฟ้องศาลเองและศาลยกฟ้องไป 2 คดี เพราะศาลมองว่าเป็นเรื่องของทางแพ่ง จึงรู้สึกว่ามีทางสู้และมีทางรอด เพราะเจตนาต้องการคืนเงินให้ทุกคน ไม่อยากเอาเงินของใครก็ตาม แต่ตนไม่สามารถคืนเงินได้ในทันที ปีที่ผ่านมาไม่อยากเจอใคร ชีวิตแย่ จนช่วงมกราคมที่ผ่านมามีแนวทางว่าเราสามารถหาเงินคืนให้ผู้เสียหายได้และอาจจะจบคดีได้ด้วยดี ถ้าหาเงินคืนผู้เสียหายได้หมด
แอนนา ระบุว่า เรามีโอกาสกลับตัวกลับใจในสังคม จึงกลับมาทำงานมากขึ้น แม้จะมีผู้เสียหายหลายคนทักไปที่นายจ้างว่าทำไมถึงให้โอกาสคนแบบนี้ ตนเองไม่มีเจตนาที่จะเป็นคนไม่ดีและคดโกง ปัจจุบันพยายามดิ้นรนหางานทำทุกทางเพื่อจะได้มีเงินมาคืนผู้เสียหาย ถ้าตนมีเจตนาที่ไม่ดีหรือมีเจตนาจะฉ้อโกงจะไม่มีการแจกรางวัล จัดโปรโมชั่น และพาลูกค้าไปเที่ยว
ในขณะนั้นตนได้ใช้เงินลงทุน 700 ล้านบาท ไปซื้อทองคำ 500 ล้านบาท และลงทุนกับสินค้าอื่นอีก 200 ล้านบาท แต่เนื่องจากบริหารผิดพลาด ประกอบกับช่วงเวลานั้นราคาทองคำได้ขึ้นราคาจากบาทละ 27,000 บาท เป็น 34,000 บาท จึงทำให้ขาดสภาพคล่อง จนเกิดปัญหาในการทำธุรกิจขึ้น
แอนนาได้ชี้แจงว่าการแจกทองเป็นการจัดโปรโมชั่น และธุรกิจจะไม่สะดุดล้มหากมีการจัดทำบัญชีเป็นอย่างดี โดยแต่ละเดือนมีการสั่งสินค้าต่างๆ รวมกันแล้ว 30,000-50,000 ออเดอร์ จึงทำให้ส่งสินค้าไม่ทัน มีการกำหนดระยะเวลาในการส่งสินค้า 2-3 เดือน เพราะมีคนทำงาน 5 คน ยืนยันไม่ได้มีเจตนาจะโกงลูกค้า เพราะถ้าคิดจะโกงตั้งแต่แรก ก็คงหอบเงินหลบหนีไปตั้งแต่ที่เกิดเรื่องแล้ว ซึ่งตนเองมีความพยายามที่จะคืนเงินลูกค้า แต่ไม่สามารถคืนให้ได้คนบทุกคน การดำเนินคดีในข้อหาฉ้อโกงประชาชนจึงรุนแรงเกินไป เรื่องที่เกิดขึ้นส่งผลต่อสภาพจิตใจเป็นอย่างมาก เกิดความเครียดจนไม่อยากมีชีวิตอยู่ เพราะถูกทวงหนี้ และขู่ฆ่า
ด้านพลตำรวจตรีชัชปัณฑกาณฑ์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 (ผบก.สอท.1) กล่าวว่า พนักงานสอบสวนมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะเอาผิด แอนนา ได้ แต่ด้วยคดีนี้มีผู้เสียหายจำนวนมาก จึงต้องใช้เวลาสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานนานพอสมควร ซึ่งจากนี้จะเป็นขั้นตอนของทางพนักงานอัยการที่จะพิจารณาสั่งฟ้องต่อไป
สำหรับเรื่องราวดังกล่าวเริ่มขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2566 ผู้เสียหายไปแจ้งความกับตำรวจ บก.สอท.1 ว่าถูก แอนนา หลอกขายกล่องสุ่มทองคำทิพย์ จากนั้นพนักงานสอบสวนจึงรวบรวมพยานหลักฐาน และออกหมายเรียกให้ มารับทราบข้อกล่าวหา ฉ้อโกงประชาชน และนำข้อมูลอันเป็นถ้าเท็จ หลอกลวง สู่ระบบคอมพิวเตอร์ ตามมาตรา 14(1)