ลูกชาย "อ้อย จิระวดี" หล่อมาก เคลียร์ปมในใจโดนล้อมีแม่เป็นทอม
เปิดใจ "อ้อย จิระวดี" ผู้กำกับ-นักแสดงรุ่นเก๋า ถึงเรื่องราวในอดีต หลังประกาศว่าเป็นทอม ทั้งที่ตอนนั้นกำลังเป็นนางเอกชื่อดัง พร้อมควงลูกชายสุดหล่อ "พอชตี้ค์ ณัฏฐพล" เคลียร์ปมในใจวัยเด็ก โดนเพื่อนล้อมีแม่เป็นทอม จนต่อต้านแม่ ในรายการคุยแซ่บShow
ตำนานยุคแรกๆที่ออกมายอมรับฉันคือทอม ?
แม่อ้อย : ใช่ค่ะ เราเป็นตัวของตัวเอง มีความรู้สึกว่าเราเป็นอะไรก็เป็นอย่างนั้น ให้มานั่งเก็บกดมันก็ไม่ใช่แล้วดีตรงที่ว่า ครอบครัวยอมรับ ก็ตั้งแต่วัยอลวน ปี 2518
ฟีดแบ็คกลับมาที่เราเป็นยังไงบ้าง ?
แม่อ้อย : มีคนถามเยอะ ใช่พี่เป็นแบบนี้แหละ พี่ก็เป็นทอม
แล้วมันมีผลกระทบต่อหน้าที่การงานมั้ย ?
แม่อ้อย : เอาจริงๆไม่มีนะ เพราะว่าไม่ค่อยมีใครกล้าอะไรมั้ง เพราะว่าพี่ค่อนข้างดุ
สื่อยังไม่ค่อยมีเยอะด้วยมั้ย ?
แม่อ้อย : สื่อน่ะมีเยอะ บางทีเขียนว่าพี่ปลูกขนหน้าอก พี่ก็ต้องเชิญมาคุยต่อหน้าคนเยอะๆ แล้วพี่ค่อนข้างดุ แต่ตอนนี้ใจดี
ตอนนั้นพอเราได้เปิดเผยทุกอย่าง ไม่กลัวว่าเราเป็นนางเอกนะ ?
แม่อ้อย : พี่ไม่เคยกลัวเลยนะ พี่ถือว่าพี่ทำงานออกมาให้ดีที่สุด เป็นตัวของตัวเอง อยู่ที่เขาจะยอมรับหรือไม่ยอมรับ พี่ไม่ค่อยแคร์ จะให้พี่ต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง พอออกไปข้างนอกทำเป็นกุลสตรีไทยมันไม่ใช่
ถ้าย้อนไปตอนนั้นมีสมรสเท่าเทียมจริงๆ แม่จะใช้สิทธิ์กับเรื่องนี้มั้ย ?
แม่อ้อย : มุมมองของพี่อาจจะยัง อาจจะไม่ใช้สิทธิ์เพราะตอนนั้นเราคือนางเอก คือเราเป็นทอมแบบนี้แต่ถ้าจะให้ถึงขั้นจดทะเบียนคนต้องไม่ยอมรับแน่ๆ
คิดยังไงกับสมรสเท่าเทียม ?
แม่อ้อย : พี่เห็นด้วยนะคะ เห็นด้วยจริงๆ เพราะทุกคนมีสิทธิ์เสรีภาพของตัวเองและอะไรก็ตามการที่เขามีความรัก ไม่ว่าเพศไหนก็ตาม มันคือความรักที่บริสุทธิ์ที่ออกมาจากใจ ขอให้เป็นคนดีแค่นั้นพอแล้ว
หลายๆคนอาจจะไม่เคยเห็นสุดหล่อที่สุดของแม่อ้อย หลายคนเข้าใจว่าแม่อ้อยเป็นโสด แล้วลูกชายมาได้ยังไง ?
พอชตี้ค์ : เมื่อก่อนแม่ชอบพูดว่าเป็นน้อง หมายถึงว่าเวลามีใครแซว ไม่ค่อยพูดเท่าไหร่ นอกจากว่ามีคนบอกว่าน้องจริงหรอ ก็จะบอกว่าลูก
พี่อ้อย : ที่ไม่พูดไม่ได้อายใครนะ แต่มีความรู้สึกว่าหน้ามันใกล้เคียงกันไม่ใครหน้าอ่อนกว่ากัน
คู่นี้ไม่ค่อยแสดงความรักกันจนบางทีแม่อ้อยน้อยใจทำไมไม่แสดงความรักกับแม่บ้าง ?
พี่อ้อย : ขอกอดก็ไมให้กอด ขอหอมก็ไม่ให้หอม
พอชตี้ค์ : มันอาจจะไม่ชินครับ น่าจะตั้งแต่เด็กความห่าง เพราะว่าเรามีอดีตที่เรารู้สึกว่ายังไม่มีใครยอมรับ แล้วก็เป็นปมด้อยตั้งแต่เด็กแม่เป็นทอม โดนล้อมาตั้งแต่เด็ก ซึ่งเมื่อก่อนทอมเป็นอะไรที่ไม่มีใครกล้าเปิดตัว
มีปมมากเรื่องที่คุณแม่เป็นทอม ?
แม่อ้อย : ก่อนเข้าโรงเรียนตอนเด็กๆเขาจะเป็นคนที่ภูมิใจในตัวพี่มากก็รู้ว่าพี่เป็นแบบนี้แหละแต่ก็ภูมิใจมาก แต่พอเข้าโรงเรียนแล้วเท่านั้นแหละ เหตุการณ์ที่เขามีปม
พอชตี้ค์ : จะโดนล้อ อันนี้คือช่วงสมัยประถม มัธยมต้น จะโดนล้อ แล้วมันมีเรื่องตลอด ต้องเข้าห้องปกครองตลอด เหมือนล้อแม่เรา แม่เป็นทอม มีลูกหรอ เรารู้สึกว่ามาว่าแม่เราแบบนี้ไม่ได้ เลยรู้สึกว่าเป็นปม เวลาเจอแม่เหมือนเป็นการต่อต้าน ณ ช่วงนั้น แต่จริงๆคือรัก รักแม่ แต่ว่าการแสดงออกมันตั้งแต่เด็กมันเป็นการต่อต้าน ในความรู้สึกของตัวเอง มันยังไม่มีการยอมรับเกิดขึ้น แล้วยิ่งโดนล้อทุกวันแล้วเราต้องเข้าห้องปกครองมีเรื่องการรุ่นพี่ รุ่นน้อง เพราะว่าในโรงเรียนคนจะรู้ว่าเราเป็นลูกจิระวดี เพราะเขาจะรู้ว่าแม่ของเรามีชื่อเสียง ก็เหมือนเขาจะเล็งมาที่เราเลย มันก็เลยเป็นปมด้อย
ร้องไห้บ่อยด้วยใช่มั้ย ?
พอชตี้ค์ : โดนล้อไม่ร้อง แต่ร้องตอนอยู่คนเดียว รู้สึกทำไมแม่ถึงเป็นแบบนี้ ณ ตอนนั้นทำไมไม่เหมือนแม่คนอื่น ทำไมแม่ถึงแข็ง แม่คนอื่นเวลาเจอลูก กินข้างหรือยังมากอด ของเราอาจจะเป็นด้วยความห่างด้วย ก็เลยรู้สึกว่าเป็นการต่อต้านในช่วงแรกๆ
แม่อ้อยรู้มั้ยว่าลูกเราโดนล้อ ?
แม่อ้อย : ตอนนั้นไม่รู้เลย พี่ทำงาน 7 วัน จนถึงอายุ 60 การที่จะได้คุยกันยาก นอกจากวันหยุด
พอรู้ว่าลูกเราโดนล้อช่วงไหน ?
แม่อ้อย : ก็ตอนเล่าออกรายการต่างๆ ก็รู้สึกเสียใจนะที่ทำให้ลูกโดนล้อ
พอชตี้ค์ : แต่ต้องบอกก่อนว่า ณ ตอนนี้ไม่มีอะไรแล้วนะครับ ณ ตอนนี้โอเคมากๆกับการที่แม่เป็นตัวของตัวเอง เพราะว่าเรารู้สึกว่าเราโตขึ้นเราก็จะเริ่มรู้แล้วว่า ความสุขของเขาคืออะไร เราก็เจอเพศที่สามหลายๆแบบ แล้วเรารู้สึกว่าแต่ละคนน่ารักมาก
ทำไมตอนนั้นไม่เลือกที่จะคุยกับแม่ตรงๆว่ามีปัญหาแบบนี้ ?
พอชตี้ค์ : อย่างที่บอกว่ามันเป็นความต่อต้านแต่แรก คือตั้งแต่เด็กจะไม่ได้อยู่กับแม่ ก็จะอยู่กับคุณยาย อยู่กับย่า ความห่างก็จะมีอยู่แล้ว มันก็จะไม่กล้าที่จะพูดความรู้สึก แล้วยิ่งโดนพูดเยอะๆทุกวันๆ วันยิ่งเป็นกาต่อต้านเป็นการดันกัน
แต่เข้าใจใช่มั้ยที่แม่เขาทำงานเหนื่อย 7 วัน จนอายุ 60 จริงๆเขาทำเพื่อพี่ ?
พอชตี้ค์ : เข้าใจครับ พอเราโตขึ้นแล้วเราคิดได้ เราก็เริ่มรู้แล้วว่าสิ่งที่เขาเป็นมันไม่ได้สำคัญเลย ความรักที่เขาให้เรามา การดูแล การเลี้ยงดู การทำงาน มันทำให้เรารู้สึกว่าตรงนั้นไม่ใช่ประเด็น ไม่ใช่ความสำคัญกับเราแล้ว
อยากพูดกับคนที่มีปัญหาตรงนี้ยังไงมั้ย ?
พอชตี้ค์ : ใครที่ดูอยู่อยากให้ยอมรับตัวตนของคนที่เป็นพ่อ เป็นแม่ คนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพี่ เป็นน้อง ขอให้ยอมรับในตัวตนของเขามากกว่า สุดท้ายแล้วมันอยู่ที่ตัวบุคคลมากกว่า มันไม่ได้อยู่ที่เพศ บางคนเป็นแบบนี้ก็รักกันได้ มันไม่ผิด พอเราโตขึ้นก็อยากจะส่งต่อ รักคนในครอบครัว เข้าใจเขาดีกว่า
ตอนนี้ที่ลูกเริ่มต่อต้านพี่อ้อยสัมผัสได้มั้ยว่าลูกเริ่มไม่สนิทกับเรา ?
พี่อ้อย : ก็มีบ้าง จากที่เขาเคยบอกว่าเขาภูมิใจในตัวแม่ พอไปเข้าโรงเรียนมันเริ่มเปลี่ยนไป การที่จะมาคุยเล่นน้อยลง แต่คุยกันปกติ
เขากล้าที่จะพูดความรู้สึกออกมาทั้งหมด ในมุมคนเป็นแม่ เรารู้สึกยังไงบ้าง ?
แม่อ้อย : เราเสียใจที่ทำให้เขาต้องมีความรู้สึกแบบนี้ แต่พี่เคยสอนเขาตั้งแต่เกิดเลย คนเราถ้าเรารักใครซักคนถ้าเขามีความสุขยังไง เราต้องให้เขา กับการที่เรารักเขาแต่เขาต้องอยู่ในกำมือของเราจะทำอะไรก็ไม่ได้ เขาจะเก็บกดเขาจะไม่มีความสุข แต่ถ้าเรารักเขาคือการให้
พี่อ้อยได้อธิบายมั้ยว่าแม่เป็นแบบนี้ เราต้องเล่าให้เขาเข้ายังไง ?
แม่อ้อย : เอาจริงๆพี่เนี่ยเป็นทอมตั้งแต่เด็ก แต่พี่เป็นคนที่อยากแต่งงาน อยากมีครอบครัว อยากมีลูก เพราะว่าพี่อยู่บ้านเสรรีรัตน์ครอบครัวที่เลี้ยงพี่มา ครอบครัวเขาทุกคนไม่มีใครที่นอกใจกันแล้วครอบครัวเขามีความสุขมากๆ พี่เลยมีความรู้สึกว่าพี่มีความอบอุ่นมากๆ พี่อยากมีลูกมากๆ พี่ก็เลยแต่งงาน
ยอมที่จะเปลี่ยนตัวเองให้เป็นผู้หญิงทั้งๆที่ตอนนั้นมีแฟนเป็นผู้หญิง ?
แม่อ้อย : มีแฟนเป็นผู้หญิงอยู่ด้วย พี่ก็บอกแฟนว่าพี่อยากแต่งงานแล้วนะ ตอนนี้มีหนุ่มๆมาขอเยอะมากเลย ตอนนั้นเป็นนางเอกด้วย ก็เลยตัดสินใจแต่งงาน พอแต่งแล้วก็เป็นกุลสตรีไทยค่ะ ทาเล็บ ไว้ผมยาว เวลาพูดจาก็หนีบค่ะ มีการค้อน(หัวเราะ) เรียบร้อยด้วยค่ะ
เรามีเบบี๋แล้ว วันนึงเราต้องอธิบายให้เขาฟังว่า แม่ไม่ทาเล็บแล้วนะ แม่ไม่ผมยาวแล้วนะ ?
แม่อ้อย : พอวันนึงก็บอกลูกตามตรงว่าเราอยู่กันไม่ได้ มันไม่ใช่เราไง ก็คงต้องแยกกันแต่แม่กับพ่อเขาก็เป็นเพื่อนกัน ไปมาหาสู่บางทีก็มานอนที่บ้าน
อธิบายเขายังไงคุณแม่เป็นทอม เด็กไม่เข้าใจ ตอนนั้นพี่อ้อยอธิบายเขายังไง ?
แม่อ้อย : พี่อธิบายอย่างที่บอกไปคือความรัก เรารักเขาเขามีความสุขแบบไหน เราต้องโอเคยอมรับตรงนั้น เพื่อให้เขามีความสุข แต่ว่าถ้าเรารักเขา เรามากดดันเขามาบีบคั้นเขาไม่ให้เขาเป็นตามที่เขาต้องการ เขามีความสุขมั้ย ความรักคือการให้ ง่ายๆ
พอพี่พอชโตขึ้นเห็นอะไรในตัวผู้หญิงคนนี้ ต่อให้จะอยู่ในสภาพเพศไหนก็ตาม แต่หัวใจความเป็นแม่เขามีเต็ม ?
พอชตี้ค์ : คือแม่เขาเป็นคนที่ตั้งใจทำทุกอย่างเพื่อลูกอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องทำงาน เรื่องครอบครัว เขาเต็มที่กับตรงนี้อยู่แล้ว รู้สึกภูมิใจ ตอนนี้เราอาจจะยังคิดไม่ได้หรอก พอเราโตขึ้นมา รู้สึกภูมิใจในตัวแม่ มีแต่คนรักเขา
แม่อ้อยเริ่มมีแฟน ตอนนั้นพี่พอชเห็นมั้ย มีคำถามมั้ย อธิบายยังไง ?
พอชตี้ค์ : เห็นครับ เห็นมาตลอด
แม่อ้อย : ไม่ได้อธิบายอะไรเลย เขาชินตั้งแต่เด็กแล้ว
เปลี่ยนบ่อยมั้ยคะ ?
พอชตี้ค์ : บ่อยมาก(หัวเราะ)
พี่อ้อย : ขอโทษนะ ที่เปลี่ยนบ่อยเพราะโดนทิ้ง เพราะพี่ไม่ดีพอ
คนที่เข้ามาในชีวิตเราต้องเข้ากับลูกเราได้ด้วยมั้ย ?
พี่อ้อย : ค่ะ อันนั้นสำคัญที่สุด
ตอนนั้นเราเห็นแฟนของแม่มา เรามีคำถามมั้ย ?
พอชตี้ค์ : อย่างที่บอกเรารู้มาตั้งแต่เด็กว่าแม่เป็นแบบนี้ แล้วผู้หญิงที่มาอยู่กับแม่เป็นแบบไหน บางทีเราก็ต่อต้าน เจอเขาบางทีเราก็ไปที่อื่นออกไปข้างนอก อันนี้หมายถึงบางคนนะ แต่บางคนที่เข้ากับเราได้ เข้ามาพูดคุย เราก็โอเคคิดว่าเป็นเพื่อนแม่คนนึง ก็มีหลายคนที่ประทับใจ