“ชื่อ ”นั้น ไม่สำคัญจริงหรือ ? | คมชัดลึก

 ผมเห็นข่าวนั้นแล้วนึกครึ้มอยู่ในใจว่า เข้าท่าดี ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันก็มีข่าวว่าทางการจะเปลี่ยนชื่อ ตัวเหี้ย เป็น วรานุส จนเป็นที่ฮือฮามาหนหนึ่งแล้ว พอมีเสียงค้านทั้งบ้านทั้งเมือง ทางการก็ถอยทัพไป งวดนี้เล่นชื่อ-นามสกุลแปลกพิสดาร ถึงขั้นลงทุนส่งนักข่าวไปสัมภาษณ์คนที่ชื่อและนามสกุลแปลกที่สุดคือชื่อ ตายนานแล้ว นามสกุล ลืมจำไม่ได้ อยู่ที่ จ.จันทบุรี ตอนนี้อายุ 71 ปี

 นายตายนานแล้ว บอกว่า ตอนที่อยู่ จ.ชุมพร เคยมีปัญหากับผู้มีอิทธิพล พอย้ายมาอยู่จันทบุรีจึงให้เจ้าหน้าที่เปลี่ยนชื่อให้ โดยขอไม่ให้ซ้ำคนอื่น เจ้าหน้าที่ก็เขียนมาให้เลือก 3 ชื่อ คือ นายตายแล้ว นามสกุล ลืมจำไม่ได้, นายผมไม่รู้ นามสกุล คุณจำไม่ได้ และนายสุรา นามสกุล เช้าแบนเย็นกลม จึงตัดสินใจเปลี่ยนจากชื่อเดิม นายฉลอม นามสกุล แดงละอุ่น มาเป็นชื่อนี้

 วันต่อมาหนังสือพิมพ์ฉบับดังกล่าวไปขอความเห็นเรื่องชื่อจาก พระมหาวุฒิชัย (ว.วชิรเมธี) ผู้อำนวยการสถาบันวิมุตตยาลัย ท่านบอกว่า “การตั้งชื่อนามสกุลให้เป็นมงคลแก่ชีวิตในทัศนะของพระพุทธศาสนา อันดับแรก ถูกต้องตามหลักภาษาไทย มีความหมายในทางที่ดี และเป็นชื่อไม่พ้องกับสถาบันพระมหากษัตริย์และต้องเข้าใจว่าการตั้งชื่อเป็นเพียงสมมติบัญญัติที่มนุษย์ตั้งขึ้นมาใช้เรียกไม่มีอิทธิพลที่จะให้ใครได้ดีเพราะชื่อดี หรือย่ำแย่เพราะชื่อไม่เพราะ ทุกวันนี้คนไทยมีคิดนิยมผิดๆ เชื่อว่าหากชื่อเพราะ ชื่อแปลกทำให้ชีวิตดีขึ้น แต่จริงแล้วไม่ใช่ ชีวิตจะดีหรือชั่วอยู่ที่กรรม ชื่อและนามสกุลไม่มีผล” ฯลฯ

 พระมหาวุฒิชัย บอกด้วยว่า การตั้งชื่อแปลกๆ เพราะคนหลงตัวเองมากขึ้น ให้ความสำคัญกับหน้าตามากกว่าคุณค่าของชีวิต จึงทำทุกอย่างที่จะทำให้ตัวเองโดดเด่น แม้กระทั้งตั้งชื่อ ก็คงจะจริงอย่างท่านว่านะครับ ผมค้นในวิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี พบว่า “พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (บุญถึง) หรือที่รู้จักกันดีทั่วไปในนามปากกาว่า “ว.วชิรเมธี” นั้นท่านโด่งดังเป็นที่รู้จักของผู้คนเพราะใช้ชื่อว่า ว.วชิรเมธี ซึ่งเท่กว่าคำเต็มๆ ว่า พระมหาวุฒิชัย วชิรเมธี (บุญถึง) ซะอีก คำว่าบุญถึงในวงเล็บนั่น ผมเข้าใจว่าเป็นนามสกุลเดิมของท่านที่ฟังดูไม่ค่อยเท่เท่าไหร่ ท่านจึงเปลี่ยนมาเป็น วชิรเมธี ซึ่งเท่กว่า...มั้ง

 อย่างไรก็ตาม ในฐานะที่ผมวนเวียนอยู่วงการ ชื่อ-นามสกุล และลายเซ็น มา 20 กว่าปี ผมก็ไม่เห็นว่าการเปลี่ยนชื่อแล้วจะเป็นอันตรายต่อสังคมแต่อย่างใดนะครับ แล้วการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลใหม่ ผมก็คิดว่าเป็นสิ่งละอันพันละน้อย ที่ปุถุชนคนทั่วไปที่ยังไม่สามารถละจากกิเลสตัณหา อยากเด่น อยากดัง ยังคงต้องการอยู่ คือ ทุกคนยังอยากที่จะให้ชีวิตของตัวเองดีขึ้น แม้เป็นเพียงความเชื่อความศรัทธาเล็กๆ น้อยๆ ที่สืบทอดมาจากโบราณกาล ไม่ใช่การอุปโลกน์ขึ้นมาโดยใครคนใดคนหนึ่งในยุคนี้สมัยนี้

 แม้แต่ในยุคนี้สมัยนี้จะมีการอ้างค้นพบวิชาเก่าที่เรียกกันว่า เลขศาสตร์ ที่มีการนำเอาตัวอักษรในชื่อและนามสกุลไปรวมกัน แล้วทำนายว่าจะเป็นอย่างนั้นอย่างนี้ ซึ่งแรกๆ ผมก็รู้สึกอึดอัดที่มีอะไรผิดไปจากที่ผมเคยเรียนรู้มา แต่ในตอนหลังผมก็ยังเฉยๆ ไม่ลบหลู่ดูแคลนว่าเป็นเรื่องไร้สาระ เพราะคิดว่าสิ่งเหล่านั้นคือ “ยาใจ” ขนานหนึ่ง หากสามารถทำให้คนเรามีความสุขขึ้นมาได้ก็ โอเค เหมือนการนับถือศาสนานั่นแหละครับ ทุกศาสนาต่างก็มีจุดประสงค์ที่จะทำให้ผู้นับถือมีความสุขด้วยกันทั้งนั้น

 เว้นแต่สาวกของศาสดาในศาสนาใดศาสนาหนึ่งทำตัวให้เสื่อม เช่น นั่งนอนในห้องแอร์ ดูวีซีดีโป๊ คึกขึ้นมาก็ขับรถไปเข้าโรงแรมจนตำรวจจับได้ หรือดื่มของมึนเมา เสพยาเสียเอง จนคนขาดความเลื่อมใสศาสนาไปเรื่อยๆ อย่างที่เห็นกันอยู่ทุกวันนี้ นั่นก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้ครับ - ฮา

"ตะวันณา"