มีคำตอบ "ตาบอด" กะพริบตาได้หรือไม่ จากปมร้อน ลูกนัท-สิระ ท้าวางเงินล้าน
ไขข้อสงสัย "คนตาบอด" จะ "กะพริบตา" ได้หรือไม่ จากประเด็นที่นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ ไฮโซลูกนัท ตาขวาบอด พร้อมได้เดินทางบุกสภาโชว์ใบรับรองแพทย์ เพื่อทวงเงิน 1 ล้านบาทจาก นายสิระ เจนจาคะ
ไขข้อสงสัย "คนตาบอด" จะ "กะพริบตา" ได้หรือไม่ จากประเด็นที่นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย หรือ 'ไฮโซลูกนัท' ตาขวาบอด พร้อมได้เดินทางบุกสภาโชว์ใบรับรองแพทย์ เพื่อทวงเงิน 1 ล้านบาทจาก นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ที่เจ้าตัวไม่เชื่อว่า ลูกนัท ตาบอดจริงพร้อมได้มีการท้าพิสูจน์และตั้งคำถามว่า ทำไมถึงกะพริบตาได้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ยังไม่จ่าย" สิระเผยไฮโซลูกนัทออกรายการคมชัดลึก เริ่มมองเห็น (ชมคลิป)
- “ลูกนัท”รับคำท้า สิระ ไม่เชื่อตาบอด ใบรับรองแพทย์พร้อมแล้ว เจอกันหน้าสภา
- กลุ่มไทยไม่ทน จี้ "นายสิระ" ตรวจสอบ คฝ.คุมเหตุม็อบ เป็นไปตามหลักสากลหรือไม่
โดยนายสิระ เจนจาคะ แถลงถึงการท้าพิสูจน์ 'ไฮโซลูกนัท' นายธนัตถ์ ธนากิจอำนวย ประเด็นเรื่อง "ตาบอด" ระบุว่า ถ้าบอดสนิทให้หาหมอมายืนยันพร้อมใบรับรองแพทย์จะให้เงิน 1 ล้านบาท แต่เท่าที่ตนทราบมาจากแหล่งข่าว มีข่าวดีว่าตาของนายธนัตถ์ สามารถมองเห็นได้ 15%
ขณะที่เมื่อวานนี้ที่ นายธนัตถ์ ไปออกรายการโทรทัศน์ตนจับผิดได้หลายอย่าง ไปแหกตาตัวเองแหกได้คนเดียวแต่แหกคนอื่นไม่ได้ เพราะเห็นว่าจังหวะที่นิ้วเข้าใกล้ดวงตาที่อ้างว่าบอด ถ้าบอดจริงทำไมตากะพริบ และหมอก็ไม่มา พิธีกรก็ใจร้ายไปไหม ให้คนตาบอดมาแหกตาตัวเองเพื่ออะไร เพราะเรื่องนี้ต้องให้หมอแหก จะแหกคนทั้งประเทศหรืออย่างไร
ในขณะที่ ไฮโซลูกนัท ก็ได้บุกสภาฯ เพื่อทวงเงินนายสิระ พร้อมโชว์ใบรับรองแพทย์ ยืนยันจาก รพ.พญาไท 1 ระบุชัดตาขวาบอด (Blindness right eye) ตรวจเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2554 เวลา 8.00 น. ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม นายสิระ ยังไม่ได้ให้เงิน 1 ล้านบาทแต่อย่างใด และมีการตั้งข้อสังเกตใบรับรองแพทย์ของนายธนัตถ์ หรือ ลูกนัทด้วยว่า ผลวินิจฉัยตาขวาบอดอาจไม่ใช่ภาษาแพทย์ ซึ่งตนได้ปรึกษา แพทย์หญิงคุณหญิง พรทิพย์ โรจนสุนันท์ และเตรียมไปร้องแพทยสภาเพื่อให้ตรวจสอบว่าแพทย์หญิงคนดังกล่าว มีความรู้ความสามารถเป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจริงหรือไม่และสามารถลงความเห็นแบบนี้ได้หรือไม่ด้วย
เกี่ยวกับเรื่องนี้เพจดัง Drama-addict ก็ได้พูดถึงประเด็นคนตาบอดสามารถกะพริบตาได้หรือไม่ ซึ่งคำตอบคือ ได้ เพราะการกะพริบตาเป็นการทำงานของเส้นประสาทสมองคู่ที่ 5 และ 7
ส่วนเรื่องการมองเห็น มีส่วนที่เกี่ยวข้องหลายส่วนตั้งแต่ ตา กระจกตา จอประสาทตา เส้นประสาทตา เส้นประสาทสมองคู่ที่ 2 ซึ่งการตาบอดเกิดได้หลายสาเหตุ เช่น ถ้าได้รับบาดเจ็บที่ตารุนแรง จนจอประสาทตาลอก ก็ทำให้ตาบอดสูญเสียการมองเห็นได้ แต่เส้นประสาทสมองคู่ที่ 7 ยังทำงานได้ตามปกติก็สามารถกะพริบตาได้
ขณะที่เพจ หมอตาอยากเล่า ก็ได้ให้ข้อมูลระบุไว้ว่า โดยปกติการกะพริบตานั้นจะมีอยู่ 2 แบบด้วยกัน คือ
1.การกะพริบตาตามธรรมชาติ (Spontaneous blinks) คนเราจะกะพริบตาเองโดยธรรมชาติไม่มีสิ่งใดมากระตุ้น สามารถกะพริบได้เองตั้งแต่อายุ 3 เดือน เป็นต้นไป ซึ่งการกะพริบแบบนี้ไม่ขึ้นกับการตอบสนองต่อแสงของจอประสาทตา ดังนั้น คนตาบอดจึงกะพริบตาได้
2. การกะพริบตาเพื่อการตอบสนองต่อสิ่งเร้า (Reflex blinks) เช่น แสงจ้า ฝุ่น เสียงดังๆ หรือสิ่งใดก็ตามที่มาแตะสัมผัสก่อการระคายเคืองต่อผิวสัมผัสของดวงตา ในคนปกติจะกระพริบตา 4-18 ครั้งต่อนาที แต่อัตรานี้จะลดลงขึ้นกับว่าทำกิจกรรมอะไรอยู่ เช่น มองหน้าจอมือถือนานๆไม่ค่อยกะพริบตาจะเกิดตาแห้งเคือง และมองไม่ชัด
CR เพจ Drama-addict , หมอตาอยากเล่า