คร.รับ “สัญญาวัคซีนไม่ปกติ” เพราะจำเป็น แต่เป็นไปตามก.ม.เห็นชอบจากครม.
อธิบดีกรมควบคุมโรค ชี้แจงการเซ็นสัญญาวัคซีนที่ไม่ปกติ เพราะความจำเป็นต้องเร่งใช้วัคซีน และทุกขั้นตอนผ่านการปรึกษาอัยการสูงสุด และเห็นชอบจากครม. ยันทำตามกฎหมาย
กรมควบคุมโรค ชี้แจงการเจรจาจัดหาวัคซีนโควิด-19 ทุกตัวดำเนินการตั้งแต่ยังวิจัยไม่สำเร็จ การลงนามในสัญญาจึงไม่ใช่สัญญาตามแบบปกติ แต่ทั้งหมดทำตามกฎหมาย มีการปรึกษาสำนักงานอัยการสูงสุด และผ่านความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีเพื่อขอใช้งบในการซื้อทุกครั้ง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- พิษ “โควิด-19“ ซัด 845 รง. ติดเชื้อกว่า 6หมื่นคน หนุนใช้ bubble and seal ฝ่าวิกฤต
- “ซิโนแวค” - แอสตร้า มีประโยชน์ช่วงเดลตาระบาด แซนด์บ็อกซ์ยังเจ๋งคุมโควิดได้
- เศร้าใจ "ด้อยค่าซิโนแวค" กระทบความรู้สึกจีน ยันไม่มีเงินทอน ทุกวัคซีน
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การทำสัญญากับบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า เราทำมาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2563 ตั้งแต่การทำวิจัยยังไม่เสร็จ ในขณะที่วัคซีนทุกชนิดยังทำการวิจัยไม่เสร็จแม้แต่ชนิดเดียว และเป็นที่แน่นอนว่าการวิจัยไม่เสร็จก็ยังไม่มีการขึ้นทะเบียน แต่เนื่องจากเห็นว่ามีแนวโน้มที่จะสำเร็จ จึงได้มีการเร่งทำสัญญาในการจองซื้อล่วงหน้าตั้งแต่ในขณะนั้น
ดังนั้นการทำสัญญาจึงไม่ใช่สัญญาปกติ เนื่องจากการแพร่ระบาดทั่วโลกในลักษณะเช่นนี้ถือว่าเป็นการระบาดครั้งยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของโลก ดังนั้นการทำสัญญาในปกติการลงนามในสัญญาในลักษณะนี้คงไม่ทำการลงนามแน่นอน โดยเฉพาะระเบียบโดยเฉพาะกฎหมายของไทย เพราะของที่ผลิตจะเสร็จหรือเปล่าก็ไม่รู้ จะได้ของเมื่อไหร่ เท่าไหร่ประสิทธิภาพเป็นอย่างไรไม่สามารถล่วงรู้ได้ล่วงหน้า และอย่างที่ทราบว่าการลงนามในสัญญาของบริษัทวัคซีน โควิด-19 จะมีข้อกำหนดเกือบทุกครั้งว่าจะต้องไม่ทำการเปิดเผยข้อมูลสัญญาจนกว่าทางบริษัทจะได้รับความการยินยอม แต่ก็จำเป็นที่จะต้องลงนามในสัญญาเพราะไม่ฉะนั้นในวันนี้จะไม่มีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อมาฉีดให้กับประชาชนได้มากกว่า 15 ล้านโดส
ทั้งนี้ปัจจุบันบริษัทเเอสตร้าเซนเนก้าโดยCEO ของบริษัทได้ทำหนังสือแสดงความมุ่งมั่นมาอย่างนายกรัฐมนตรีที่จะส่งมอบวัคซีนตามที่ได้ทำสัญญาจองไว้ 61ล้าน โดส ภายในปีนี้ ซึ่งเป็นไปตามที่เราคาดหวัง
ขอเน้นย้ำอีกครั้งว่าในปัจจุบันถึงแม้วัคซีนจะมีมากแต่ตลาดก็ยังเป็นของผู้ขายกับผู้ผลิตอยู่เนื่องมาจากความต้องการการฉีดวัคซีนของทั่วโลกมีมากกว่ากำลังการผลิตอยู่มาก
ในส่วนของสัญญาไฟเซอร์เช่นเดียวกันมีการทำสัญญาจองไว้ตั้งแต่ช่วงกลางปีซึ่งในการเจรจาทุกครั้งก็จำเป็นที่จะต้องไม่เปิดเผยข้อมูลในการเซ็นสัญญา ซึ่งสัญญาก็เป็นสัญญาไม่ปกติ แต่ก็มีความจำเป็นที่จะต้องลงนามในสัญญา ขณะนี้เราได้รับการแจ้งจากไฟเซอร์ว่า จะมีการส่งมอบวัคซีนตามสัญญาคือไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แต่เนื่องจากกำลังการผลิตที่มีมากขึ้น ทางไฟเซอร์จึงได้แจ้งว่าจะส่งมอบวัคซีนก่อนสัญญา โดยจะส่งมอบให้ภายในปลายเดือนนี้และจะส่งมอบให้ประเทศไทยจำนวน 30 ล้านโดสภายในไตรมาสที่ 4