เด่นโซเชียล

"กระแสตีกลับ" ชาวเน็ตแบน "แบรนด์" โหนกระแส Live "พระมหาไพรวัลย์"

"กระแสตีกลับ" ชาวเน็ตแบน "แบรนด์" โหนกระแส Live "พระมหาไพรวัลย์"

05 ก.ย. 2564

ชาวเน็ต แห่คอมเมนท์ แบน "แบรนด์"ดัง ขายของในไลฟท์สด พส. "พระมหาไพรวัลย์" "พระมหาสมปอง" ชี้ไม่เหมาะสม-เลยเถิด

ยังคงเป็นกระแสให้พูดถึงในหลายแง่มุมสำหรับการไลฟ์สดของ พระมหาไพรวัลย์ และ พระมหาสมปอง เมื่อคืนวันศุกร์ที่ 3 กันยายน ที่ผ่านมา เพราะในระหว่างมีคนเข้ามารับมากถึง 2 แสนกว่าคน ในนั้นยังรวมไปถึงแบรนด์ดัง ๆ ใหญ่ ๆ สำนักข่าวก็ต่างพร้อมใจกันเข้ามาฟังไลฟ์สดของ พส. ทั้ง 2 ท่านอย่างคึกคัก แต่ที่น่าสังเกตคือ เพจเฟซบุ๊กของเหล่าแบรนด์ดังต่างพากันฝากร้าน ฝากเพจ กันจนมองไม่เห็นของคอมเม้นประชาชนทั่วไป จนพระมหาไพรวัลย์ต้องเอ่ยปากแซวระหว่างไลฟ์สด 

จากกรณีดังกล่าวเกิดเป็นกระแสตีกลับไปยังแบรนด์สินค้าที่เข้ามาฝากร้าน ในทำนองเพจหลักของแบรนด์ต่าง ๆ มักจะนิ่งเฉยกับเรื่องประชาธิปไตย หรือเรื่องที่ควรจะออกมา Call out แต่ไม่ทำ กลับมาหวังโหนกระแส จากการไลฟ์สดของพระมหาไพรวัลย์ และ พระมหาสมปอง

โดยเพจ: Poetry of Bitch ได้สรุป 5 เหตุผลจากชาวเน็ต กระแสตีกลับแบรนด์ในไลฟ์ พส. ไว้อย่างน่าสนใจ ดังนี้ 

การแบทเทิลธรรมะชิงตั่งทองของ 2 พส.ชื่อดัง "พระมหาสมปอง VS พระมหาไพรวัลย์" เมื่อวานนี้กลายเป็นปรากฏการณ์ในโลกออนไลน์ของไทย มียอดผู้ชมไลฟ์กว่า 2 แสน แล้วยังเป็นการรวมตัวกันโดยไม่ได้นัดหมายของเพจดังแบรนด์ดังต่าง ๆ ทั่วฟ้าเมืองไทย

แม้จะมีหลายคนชื่นชอบและมองว่าเป็นสีสัน แต่ในอีกมุมก็มีกระแสตีกลับเแบรนด์ต่าง ๆ ในเชิงลบเช่นกัน ซึ่งแอดสรุปเหตุผลที่คนกลุ่มนี้แสดงความไม่พอใจมาได้ 5 ข้อตามนี้

 

 

  • เหตุผลแรก ด้วยระบบของเฟซบุ๊ก เมื่อเพจใหญ่มาคอมเมนต์ มันจะแสดงคอมเมนต์ของเพจก่อน ทำให้คอมเมนต์ของคนธรรมดาตกลงไปอยู่ข้างล่าง ซึ่งคนส่วนใหญ่อยากอ่านคอมเมนต์คนธรรมดา คอมเมนต์ฮา ๆ ของบรรดาจะเทย** มากกว่าคอมเมนต์ของเพจใหญ่
  • เหตุผลที่ 2 คนรู้สึกเหมือนเป็นคอมเมนต์ฝากร้าน ไทอินเนียนขายของ หายอดเอนเกจเมนต์หรือฟรีมีเดียให้ตัวเองมากกว่า และพอมีจำนวนมาก ๆ เข้าก็ทำให้รู้สึกว่าน่ารำคาญ แล้วยังทำให้พระไม่ได้ปฏิสัมพันธ์กับญาติโยม ซึ่งพระมหาไพรวัลย์ก็ยอมรับว่าท่านเองก็โดนตำหนิไปด้วย และทำให้ไม่ได้อ่านคอมเมนต์ของชาวจ๊อก***

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

  • เหตุผลที่ 3 คนมองว่าบางเพจบางแบรนด์อิกนอร์เรื่องความเป็นอยู่ของประชาชนและสถานการณ์บ้านเมืองมาโดยตลอด เคยขอให้ call out ก็เมินเฉย แต่พอเวลาอย่างนี้กลับรีบมาเกาะชายผ้าเหลือง สามารถพูดเล่นเอาฮาไร้สาระได้ทุกเรื่อง ไปทุกแห่งที่มีกระแส แต่พูดความจริงไม่ได้
  • เหตุผลที่ 4 คนมองว่าพระมหาไพรวัลย์เป็นพระประชาธิปไตย ท่านยืนหยัดและพูดเรื่องนี้มาตลอดตั้งแต่ตอนที่ยังไม่มีกระแส หรือแม้แต่พระมหาสมปองเองก็เคยแสดงความคิดเห็นทางการเมืองจนโดนมหาเถรสมาคม (มส.) ตักเตือนมาแล้ว แต่ตอนนี้บรรดาแบรนด์และเพจอิกนอร์ต่าง ๆ ซึ่งเงียบกริบมาตลอดกลับมาเกาะกระแสพระประชาธิปไตย คนจึงตั้งคำถามว่าถ้า 2 พส.ไลฟ์เรื่องการเมืองจะมีเหลือสักกี่แบรนด์กี่เพจที่กล้าเข้ามาแสดงตัว
  • เหตุผลที่ 5 บางแบรนด์คอมเมนต์เลยเถิดไม่เหมาะสม เช่น เพจออฟฟิเชียลของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งขอให้พระช่วยครางเป็นชื่อห้าง เพจนิตยสารออนไลน์และเพจทีวีออนไลน์นิมนต์พระทั้ง 2 รูปไปเล่นซีรีส์วาย เป็นต้น ซึ่งคนมองว่าไม่จำเป็นต้องมองในแง่ของศาสนา แค่มองในแง่ของมารยาทก็ไม่ได้แล้ว

จากกระแสตีกลับและท่าทีแอนตี้ที่เกิดขึ้นทำให้หลายฝ่ายมองว่า อาจทำให้ต่อไปนี้แต่ละแบรนด์ต้องคิดให้รอบด้านมากขึ้นก่อนคอมเมนต์หรือแชร์อะไรในอนาคต

หมายเหตุ

* พส. = โดยทั่วไปเป็นคำย่อที่ใช้กันในหมู่จะเทย หมายถึงเพื่อนสาว/พี่สาว แต่ในกรณีนี้หมายถึง "พระสงฆ์"

** จะเทย = กะเทย

*** ชาวจ๊อก = มีกลุ่มเฟซบุ๊กชื่อ "จ๊อกจ๊อก" ซึ่งเป็นที่รวมตัวกันของหมู่จะเทย และพวกเธอเรียกตัวเองว่า "ชาวจ๊อก"

 

\"กระแสตีกลับ\" ชาวเน็ตแบน \"แบรนด์\" โหนกระแส Live \"พระมหาไพรวัลย์\"

 

\"กระแสตีกลับ\" ชาวเน็ตแบน \"แบรนด์\" โหนกระแส Live \"พระมหาไพรวัลย์\"

 

\"กระแสตีกลับ\" ชาวเน็ตแบน \"แบรนด์\" โหนกระแส Live \"พระมหาไพรวัลย์\" \"กระแสตีกลับ\" ชาวเน็ตแบน \"แบรนด์\" โหนกระแส Live \"พระมหาไพรวัลย์\"

อ่านคอมเม้นเพิ่มเติมได้ที่โพสต์ของเพจ  Poetry of Bitch

ที่มา : ขอบคุณเพจ Poetry of Bitch