"กรมทะเล" เผย ผลสำรวจ "ปะการังเทียม" พบสิ่งมีชีวิตมาอาศัยเพิ่มขึ้น
"กรมทะเล" ร่วมกับ เชฟรอน และจุฬาฯ เผยผลสำรวจปะการังเทียม พบสิ่งมีชีวิตมาอาศัยเพิ่มขึ้น คาดหวังเป็นแหล่งเพิ่มพูนทรัพยากรสัตว์น้ำ
วันที่ 7 กันยายน 2564 นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง "ทช." เผยถึงผลการสำรวจหลังจากนำขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมไปจัดวางเป็นปะรังเทียม บริเวณเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี ว่า
ภายหลังจากที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง นำขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมไปจัดวางเป็นปะรังเทียม บริเวณเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 24 ก.ย. 2563 ที่ผ่านมา กรม "ทช." ได้ร่วมกับบริษัท เชฟรอน ประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด และ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ติดตามประเมินผลบริเวณปะการังเทียมจากขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียม ตามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือโครงการนำร่องการใช้ขาแท่นหลุมผลิตปิโตรเลียมจัดวางเป็นปะการังเทียมเพื่อการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล บริเวณเกาะพะงัน จังหวัดสุราษฎร์ธานี
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "กรมทะเล" จัดอบรมการกู้ชีพฉุกเฉิน ด้วยเครื่องกระตุกหัวใจ "AED"
- "วราวุธ ทส."ส่งมอบโครงการแนวไม้ไผ่กันคลื่น มอบ"ที่ปรึกษายุทธพล"เร่งหารือ "กรมทะเล"แก้ปัญหากัดเซาะ 3.19กม.จ.เพชรบุรี
- "วราวุธ" เผยความสำเร็จรับ "วันป่าชายเลนแห่งชาติ" "ปลัดจตุพร" สั่ง "กรมทะเล" เตรียมแนวทางจัดการทุกมิติ
หลังจากที่จัดวางไปแล้ว 6 เดือน พบว่าวัสดุขาแท่นเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม คุณภาพน้ำทะเลและตะกอนพื้นท้องทะเลอยู่ในเกณฑ์ปกติ พบสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กซึ่งเป็นแหล่งอาหารของสัตว์ทะเลหลากหลายชนิด จึงมีปลาหลายชนิดเข้ามาอยู่อาศัย เช่น ปลาสลิดหิน ปลานกขุนทอง อีกทั้งยังพบ ปลาเศรษฐกิจ เช่น ปลาอินทรีย์ ปลาริวกิว รวมทั้งพบปลาหลายชนิดที่ไม่เคยพบในบริเวณดังกล่าวมานานกลับเข้ามาอาศัย เช่น ปลาหางแข็ง ปลาโฉมงาม เป็นต้น
บริเวณขาแท่นที่อยู่ใต้น้ำ พบว่ามีกลุ่มปะการังอ่อน และกัลปังหา สามารถเจริญเติบโตได้ดี และมีโอกาสที่จะขยายพื้นที่ปกคลุมเพิ่มขึ้น
อธิบดี ทช. กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ กรม ทช. ได้ติดตามเฝ้าระวังพื้นที่กองปะการังเทียม และออกมาตรการคุ้มครองทรัพยากรปะการังบริเวณพื้นที่ดังกล่าว เป็นระยะเวลา 2 ปี มีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 8 มีนาคม 2564 เพื่อให้สิ่งมีชีวิตใต้ทะเลฟื้นตัวและเข้ามาอาศัย และทั้งสามหน่วยงานจะติดตามความคืบหน้าโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำมาถอดบทเรียนให้เกิดเป็นองค์ความรู้ใหม่ของประเทศ โดยคาดหวังว่าจะเป็นแหล่งเพิ่มพูน "ทรัพยากรสัตว์น้ำ" และส่งเสริมการท่องเที่ยวดำน้ำในอนาคตสร้างรายได้ให้กับชุมชน รวมทั้งส่งเสริมความร่วมมือในการสงวน อนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้มีความอุดมสมบูรณ์ต่อไป