เช็กที่นี่ "ผู้ประกันตนมาตรา 33" ถูกเลิกจ้างจาก "โควิด-19" ก่อนยื่นรับสิทธิ
เช็กเงื่อนไขก่อนยื่นรับสิทธิ ผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบกรณีรัฐสั่งปิดกิจการจาก โควิด-19 โดยไม่ได้รับค่าจ้าง สามารถยื่นรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเหตุสุดวิสัยได้
สำนักงานประกันสังคม เผยผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เนื่องจากรัฐมีคำสั่งปิดสถานที่ หรือประเภทกิจการตามคำสั่งรัฐเป็นการชั่วคราว พร้อมจ่ายสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยแก่ผู้ประกันตน ในอัตราร 50 % ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วัน โดยมีเงื่อนไขการยื่นขอรับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัย ต้องไม่ได้ทำงานจริง ไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างที่รัฐมีคำสั่งปิดที่ทำงาน โดยให้นายจ้างยื่นแบบรายการแสดงการนำส่งเงินสมทบ (สปส.1-10) ในระบบ e-service กรณีนายจ้างไม่จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้าง ตามข้อเท็จจริงนั้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- สาวบ้านร้างหมูป่า “ป่วยอาการทางจิต” พม.ส่งตัวเข้ารักษา เร่งตามหาญาติ
- "ผู้ประกันตนมาตรา 33" ว่างงานจาก โควิด-19 ยื่นรับสิทธิ 50%ของค่าจ้างรายวัน
- ทำความรู้จัก "เต่าปูลู" เต่าหัวโต อกแบน มีหางสัตว์ป่าใกล้สูญพันธุ์
จากกรณีที่สำนักงานประกันสังคม เร่งดำเนินการอนุมัติจ่ายเงินว่างงานเหตุสุดวิสัย เพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยา และบรรเทาความเดือดร้อนให้ผู้ประกันตนมาตรา 33 โดยคุณสมบัติของผู้ประกันตนที่มีสิทธิได้รับเงินกรณีว่างงานเนื่องจากมีเหตุสุดวิสัยดังนี้
- ต้องส่งเงินสมทบมาแล้วไม่น้อยกว่า 6 เดือนใน 15 เดือนย้อนหลังก่อนวันที่ว่างงานจากรัฐสั่งปิด
- ไม่ได้ทำงานเนื่องจากนายจ้างหยุดประกอบกิจการ ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน เนื่องจากทางราชการมีคำสั่ง ให้ปิดสถานที่ หรือสถานประกอบการ
- ผู้ประกันตนไม่ได้รับค่าจ้างในระหว่างนั้น
ทั้งนี้ผู้ประกันตนดังกล่าว มีสิทธิได้รับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยในอัตรา 50 % ของค่าจ้างรายวัน ไม่เกิน 90 วัน โดยขั้นตอนการขอรับสิทธิประโยชน์ให้นายจ้างยื่นขอรับสิทธิประโยชน์ และรับรองกรณีว่างงานเนื่องจากเหตุสุดวิสัยให้ผู้ประกันตน สามารถยื่นผ่านทางระบบ e-service และส่งแบบคำขอรับประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน (สปส.2-01/7) และสำเนาสมุดบัญชีธนาคารของผู้ประกันตนประเภทออมทรัพย์ เป็นเอกสารส่งให้สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่ หรือ จังหวัดที่สถานประกอบการตั้งอยู่ทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียนตอบรับ นับแต่วันที่บันทึกข้อมูลในระบบ e-service
ขอย้ำว่านายจ้างมีหน้าที่ต้องยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบ(สปส. 1-10) ส่วนที่ 1 และ ส่วนที่ 2 ทุกเดือน โดยในเดือนที่ไม่ได้จ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างตามข้อเท็จจริง ที่มีคำสั่งรัฐสั่งปิดนั้น ในช่องค่าจ้าง และเงินสมทบ ต้องระบุจำนวนค่าจ้างที่จ่ายจริงให้แก่ลูกจ้าง จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานจากเหตุสุดวิสัยตามเงื่อนไขข้างต้น หากลูกจ้างยังได้รับค่าจ้าง จะไม่เข้าเงื่อนไขการจ่ายสิทธิประโยชน์