เด่นโซเชียล

"โควิดลงปอด" อาการเป็นอย่างไร ใครเสี่ยง หมั่นสังเกตเช็กเบื้องต้น ดูแลตนเอง

"โควิดลงปอด" อาการเป็นอย่างไร ใครเสี่ยง หมั่นสังเกตเช็กเบื้องต้น ดูแลตนเอง

09 ก.ย. 2564

กรมการแพทย์ โดยสถาบันโรคทรวงอก แนะผู้ป่วย โควิด-19 สังเกตอาการตนเอง หากรู้สึกแน่นหน้าอก หอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม อ่อนเพลีย ระดับออกซิเจนในเลือดลดน้อยลงกว่าระดับปกติ อาจสงสัย "โควิดลงปอด"

"โควิดลงปอด" อาการเป็นอย่างไร นายแพทย์ สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ กล่าวว่า ในปัจจุบันผู้ติดเชื้อไวรัส โควิด-19 เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง แต่ละคนจะมีอาการมากน้อยแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ภูมิคุ้มกัน และโรคประจำตัวของผู้ป่วย การแพร่กระจายเชื้อไวรัส โควิด-19 นั้น สามารถแพร่ได้ผ่านการสูดดมเข้าทางโพรงจมูก เข้าไปสู่ปอด จากการไอ จาม เสมหะ หรือการสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ที่มีเชื้อไวรัส โควิด-19 หลังจากติดเชื้อผู้ป่วยอาจไม่มีอาการ หรือมีอาการทั่วไป เช่น มีไข้ ไอ เจ็บคอ จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส ผู้ที่มีความเสี่ยงที่จะส่งผลให้เกิดความรุนแรงของโรค และเชื้ออาจลงสู่ปอดได้ คือ ผู้สูงอายุ และกลุ่มที่มีโรคร่วม ได้แก่ โรคอ้วน โรคเบาหวาน โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด โรคไตวายเรื้อรัง โรคหลอดเลือดสมอง โรคมะเร็งทุกชนิด และผู้ที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ กลุ่มเสี่ยงเหล่านี้จึงควรระมัดระวังตนเองมากเป็นพิเศษกว่าคนปกติทั่วไป เพราะหากเชื้อลงสู่ปอดแล้ว อาจส่งผลต่อระบบภายในอื่น ๆ ของร่างกายได้

 

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

นายแพทย์ เอนก กนกศิลป์ ผู้อำนวยการสถาบันโรคทรวงอก กรมการแพทย์ กล่าวถึง "โควิดลงปอด" เพิ่มเติม ปอดในร่างกายมีหน้าที่สำคัญในการแลกเปลี่ยนของออกซิเจนในเลือด ถ้าผู้ป่วย โควิด-19 พบว่า เชื้อลงสู่ปอด จะส่งผลให้ผู้ป่วยมีอาการหอบเหนื่อย หายใจไม่อิ่ม เจ็บแน่นหน้าอก และระดับออกซิเจนในเลือดลดลง หากระดับออกซิเจนในเลือดลดลงมากเกินไป เช่น ออกซิเจนที่ไปเลี้ยงในส่วนของสมองน้อยลง จะทำให้เกิดภาวะซึม รู้สึกอ่อนเพลีย โดยในเกณฑ์ปกติระดับออกซิเจนในเลือดของร่างกายจะอยู่ที่ระดับ 97 - 100% (เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว) หรือ

"หากต้องการเช็กอาการว่า โควิด-19 ลงปอดหรือยัง ลองให้ผู้ป่วยออกกำลังกายเบา ๆ เช่น การเดินไวในระยะเวลา 6 นาที เพราะการเดินไว 6 นาที พอเพียงที่จะแสดงความผิดปกติของการแลกเปลี่ยนออกซิเจน ซึ่งเมื่อเกิดความผิดปกติในถุงลมในปอด (Alveoli) จะทำให้มีการแลกเปลี่ยนของออกซิเจนลดลง"

ดังนั้น หากมีโรคเกี่ยวกับปอดหรือเชื้อลงปอด จะทำให้ระดับออกซิเจนในเลือดลดน้อยลงกว่าระดับปกติ

 

 

สำหรับแนวทางการรักษาผู้ป่วย โควิด-19 แพทย์จะดำเนินการรักษาตามอาการ และในผู้ที่มีอาการรุนแรงเชื้อ "โควิดลงปอด" ผู้ป่วยจะได้รับยาต้านไวรัส ซึ่งยาต้านไวรัสจะเข้าไปฆ่าเชื้อไวรัส หยุดยั้งไม่ให้เชื้อไวรัสแบ่งตัวเพิ่มเติมและทำลายเซลล์อื่น ๆ

นอกจากนี้ แพทย์จะจ่ายยาต้านการอักเสบเพื่อลดกระบวนการอักเสบในร่างกายร่วมกับการให้ยารักษาตามอาการควบคู่กันไป ในกรณีผู้ป่วย โควิด-19 มีอาการรุนแรง มีปอดอักเสบร่วมด้วย และปอดอักเสบมีปัญหาทั้ง 2 ข้าง แพทย์จะให้ผู้ป่วยนอนคว่ำ เพราะการนอนคว่ำจะสามารถช่วยให้ปอดขยายได้ดีขึ้น การนอนคว่ำจะมีผลทำให้ปอดไม่มีตัวเบียดดัน ปริมาณเนื้อปอดจะมีโอกาสแลกเปลี่ยนออกซิเจนได้ดีขึ้น เมื่อผู้ป่วย โควิด-19 รักษาตัวจนหายดีแล้วปอดจะกลับมาเป็นเหมือนคนปกติ

 

นอกจากนี้ การฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่สามารถช่วยให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัส โควิด-19 ลดความรุนแรงของโรค "โควิดลงปอด" ช่วยให้อาการป่วยเบาลง สามารถหายป่วยและกลับมาใช้ชีวิตปกติได้เร็วขึ้นมากกว่าผู้ที่ไม่เคยได้รับวัคซีน 

สิ่งสำคัญที่สุดในการดูแลตนเองในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดเชื้อไวรัส โควิด-19 คือ เราทุกคนต้องหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดการติดเชื้อ ด้วยการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลา แม้กระทั่งอยู่บ้านร่วมกับคนในครอบครัว หมั่นล้างมือด้วยสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์อย่างสม่ำเสมอ เว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงการเดินทางไปในพื้นที่แออัด เลี่ยงการสัมผัสหรือใกล้ชิดผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และทำให้ร่างกายตนเองแข็งแรง มีภูมิคุ้มกันที่ดี ด้วยการออกกำลังกายเป็นประจำ รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ และเข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 เพราะถ้าทุกคนได้รับการฉีดวัคซีนป้องกัน โควิด-19 จะเกิดการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ ลดอัตราการติดเชื้อ ลดความรุนแรงของโรคโควิด-19 ได้อีกด้วย

 

โควิดลงปอด, โควิด-19