เด่นโซเชียล

"หมอนิธิ" จี้ 3 หน่วย เร่งฉีด "วัคซีน" ให้ นร. หยุดสร้างแผลเป็นอนาคตชาติ

"หมอนิธิ" จี้ 3 หน่วย เร่งฉีด "วัคซีน" ให้ นร. หยุดสร้างแผลเป็นอนาคตชาติ

10 ก.ย. 2564

"หมอนิธิ มหานนท์" จี้ 3 หน่วยงาน กล้าตัดสินใจ เร่งฉีด "วัคซีน" ให้เด็ก ได้กลับไปเรียนหนังสือ หยุด สร้างแผลเป็นให้อนาคตของชาติ

ภายหลังจากที่ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นำร่อง เปิดให้สถานศึกษา ลงทะเบียนรับวัคซีนโควิด-19 "ซิโนฟาร์ม" ให้กับเด็กนักเรียนอายุ 10-18 ปี แต่ก็ยังคงมีข้อกังขาจากหลายฝ่ายว่า สามารถฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุต่ำกว่า 12 ปี ได้หรือไม่

 

โดย ศ.นพ.นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ โพสต์เฟซบุ๊ค ระบุข้อความว่า ช่วงนี้ 27% ของเคสใหม่ ในสหรัฐอเมริกา เป็นเด็กเยาวชนสำหรับประเทศไทย อย.และกระทรวงสาธารณสุข และขอเพิ่มกระทรวงศึกษาธิการ คงไม่อยากเห็นแบบนี้ในประเทศ ทางเดินมีได้สองทางคือ

 

  1. ไม่ต้องเปิดเรียนไปเรื่อย ๆ และฉีดวัคซีนให้ผู้ใหญ่ให้ได้มากกว่านี้ก่อน 
  2. ฉีดวัคซีนให้เด็กแล้วเปิดเรียน ด้วยมาตรการรักษาระยะห่าง ใส่หน้ากาก เลี่ยงที่แออัด อย่างเคร่งครัด

 

\"หมอนิธิ\" จี้ 3 หน่วย เร่งฉีด \"วัคซีน\" ให้ นร. หยุดสร้างแผลเป็นอนาคตชาติ

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

 

ยิ่ง อย.ยิ่งคิด และตัดสินใจช้า เด็กก็คงกลับไปโรงเรียนไม่ได้ หรือได้แต่เสี่ยง อย่างที่เคยพูดไว้นานมาแล้วว่า เรื่องของระบาด วิทยาการระบาดของโรคแบบโควิดนี้ ไม่ใช่แค่เรื่องทางการแพทย์อย่างเดียว แต่สังคมวิทยามีความสำคัญพอ ๆ กัน หรือมากกว่า เด็ก ๆ ทั้งวัยเรียน ประถม มัธยม และอุดมศึกษา ไม่ได้กลับไปชั้นเรียนมากันกว่าปีแล้ว เด็ก ๆ ไม่ได้เจอเพื่อนตัวเป็น ๆ ไม่ได้คุยกันเสียงดัง ๆ ไม่ได้แอบกินขนม หรือแอบเล่นโทรศัพท์ในห้องเรียน ให้ครูดุ กันทั้งปี เด็กที่เพิ่งเข้ามหาวิทยาลัยปีนี้ ยังไม่เคยได้ไปใช้ชีวิตใหม่ที่โลดโผนในปีแรก ของการเป็นน้องใหม่ในมหาวิทยาลัย เด็กรุ่นช่วงนี้คงเกิดแผลเป็นในการพัฒนาทางสังคมไปตลอด จนเป็นผู้ใหญ่
 

นี่ไม่นับคุณภาพการเรียนการสอนออนไลน์ ที่เด็กและครูในเมือง กับคุณภาพอินเตอร์เน็ตที่แตกต่าง จะยิ่งทำให้ช่องว่างทางการศึกษาที่มีมากอยู่แล้ว ยิ่งมากขึ้นไปอีก เพราะแน่นอนว่า ลูกคนมีฐานะย่อมมีอุปกรณ์ และการสื่อสารที่แตกต่างกับในที่ห่างไกลอย่างมาก ไม่ต้องพูดถึงเด็ก ๆ ชายขอบ เข้าใจว่าผู้เชี่ยวชาญที่ศึกษาพิจารณาการใช้วัคซีนในเด็กของ อย.จะมีความรู้ความชำนาญด้านการแพทย์ และวัคซีนที่เก่งที่สุดในประเทศแล้ว แต่ผมไม่มั่นใจว่า ใคร ๆ ใน อย.และผู้กำหนดนโยบาย จะคำนึงถึงเรื่อง สังคม และคุณภาพการศึกษาด้วยแค่ไหน ไม่อยากให้ท่านเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างแผลเป็นทางสังคมให้เด็ก ๆ และทำให้ช่องว่างทางการศึกษาในเยาวชนไทยกว้างขึ้นกว่านี้ โดยที่เยาวชนเหล่านี้ จะเป็นพลเมืองทรัพยากรของชาติเราในอนาคตอันใกล้

"อยากให้คนเก่งประเทศไทย คิดแล้วทำเองได้ ก่อนใคร ๆ บ้าง อย่าไปรอให้ชาติใด ๆ ตัดสินใจก่อนเลยครับ กล้าตัดสินใจกันหน่อยครับ"

 

ที่มา : Nithi Mahanonda