"วัคซีนเด็ก"กทม.พร้อม "ฉีดวัคซีนไฟเซอร์" ให้นักเรียน 4 แสนคน
"กทม." วางแนวทาง "ฉีดไฟเซอร์" ให้นักเรียน 12-17 ปี 4 แสนคน ย้ำฉีดตามความยินยอมของผู้ปกครองเท่านั้น ตั้งเป้าเด็กได้รับครบ 2 เข็มก่อนเปิดเทอม
พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ในที่ประชุมคณะอนุกรรการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้มีการหารือถึง แนวทางการบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์ สำหรับเด็กอายุ 12-17 ปี ซึ่งจะครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย คือ นักเรียน นักศึกษาที่ศึกษา อยู่ในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 1 – 6 หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช./ปวส.) หรือเทียบเท่า ซึ่งคาดว่าในพื้นที่กรุงเทพมหานครจะมีกลุ่มเป้าหมายในสถานศึกษาทุกสังกัด ประมาณ 400,000 คน โดย กทม. จะแบ่งการฉัดวัคซีนตามกลุ่มเป้าหมายเป็น 2 ระยะ ประกอบด้วย ระยะแรก นักเรียนระดับมัธยมศึกษาปีที่ 4-6 หรือปวช./ปวส. และระยะต่อไป คือ นักเรียนในระดับชั้นอื่น โดยกระทรวงสาธารณสุขจะเป็นผู้ควบคุมบริหารจัดการทั้งหมด ในส่วนของกทม. จะสำรวจกลุ่มเป้าหมายซึ่งผู้ปกครองต้องให้ความยินยอมในการรับวัคซีน จากนั้นจะจัดทำแผนจัดสรรและช่วงเวลาในการรับวัคซีน นอกจากนี้สถานศึกษาต้องเร่งประสานสถานพยาบาลเพื่อให้บริการวัคซีน พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจกับผู้ปกครองกลุ่มเป้าหมาย และแจ้งจำนวนนักเรียนที่จะเข้ารับวัคซีนโดยเร็วที่สุด
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการฯ ได้มอบหมายให้หน่วยงานเกี่ยวข้องระมัดระวังการควบคุมคุณภาพวัคซีนเนื่องจากวัคซีนไฟเซอร์จะต้องจัดเก็บในอุณหภูมิที่เหมาะสม โดยให้จัดระบบการบริหารจัดการที่ชัดเจน หากเป็นการฉีด ณ สถานพยาบาล คาดว่าจะไม่มีปัญหา แต่หากเป็นการนำออกไปฉีด ณ โรงเรียน ต้องเป็นการฉีดในที่ร่มและไม่มีแสงแดด เพื่อให้วัคซีนยังคงมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคได้ดี รวมทั้งให้เร่งจัดการระบบการฉีดให้แล้วเสร็จภายในเดือนนี้ เพื่อให้นักเรียนกลุ่มเป้าหมายแรกได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มก่อนเปิดเทอม
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- กทม. เตรียมฉีด "วัคซีนไฟเซอร์" ให้ "นักเรียนกลุ่มเสี่ยง" 21 ก.ย.นี้
- เตรียมฉีด "ไฟเซอร์" เด็ก 12 ปีขึ้นไป ต.ค.นี้ รองรับเปิดเรียนเต็มรูปแบบ
- "หมอสุภัทร" แนะฉีดวัคซีนให้เด็กโดยเร็วอุดช่องโหว่ควบคุมโควิด-19
- "นักวิจัย" ไขข้อข้องใจ ทำไมต้องเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไป ถึงฉีดวัคซีนโควิดได้
- คร.พร้อมฉีด "ไฟเซอร์" ให้ "นักเรียน" 12 ปีขึ้นไป ต้นตุลาคมนี้
พล.ต.ท.โสภณ กล่าวต่อว่า ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามรายงานทางวิชาการเกี่ยวกับผลข้างเคียงของวัคซีนไฟเซอร์ และให้คำแนะนำแก่ผู้ปกครองและเด็กนักเรียนในการดูแลตนเองอย่างถูกต้อง อาทิ การงดออกกำลังกายหนักภายหลังรับวัคซีน รวมทั้งเตรียมพร้อมสถานพยาบาลในการดูแลหากมีผู้ได้รับผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนไฟเซอร์
สำหรับผลการให้บริการวัคซีนโควิด-19 ของกรุงเทพมหานคร มีผู้ที่ได้รับวัคซีนตั้งแต่วันที่ 28 ก.ย. – 12 ก.ย.64 เข็มที่ 1 จำนวน 10,285,747 ราย (คิดเป็นร้อยละ 95.47) เข็มที่ 2 จำนวน 2,723,759 ราย (คิดเป็นร้อยละ 35.38) และเข็มที่ 3 จำนวน 184,874 ราย ทั้งนี้จากการคาดการณ์ จะสามารถให้บริการวัคซีนเข็มที่ 2 ครบร้อยละ 70 ได้ภายในเดือน ต.ค.นี้