"อ.เจษฎา" แนะผู้ปกครองเลือกวัคซีนให้นักเรียน 12-17 ปี
"อ.เจษฎา" โพสต์ให้ข้อคิดผู้ปกครองเลือกวัคซีนโควิดให้ลูกระหว่าง "ซิโนฟาร์ม" หรือ "ไฟเซอร์" ชี้ทั้ง 2 ตัวมีความแตกต่าง
รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีวิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาลงกรร์มหาวิทยลัย โพสต์ข้อความผ่าน เฟซบุ๊ก Jessada Denduangboripant(อาจารย์เจษฎ์) มีข้อความว่า อันนี้เป็นความเห็นส่วนตัวนะครับ ย้ำว่าเป็นความเห็นส่วนตัว และไม่จำเป็นจะต้องเชื่อตามนะครับ คือ เริ่มมีพ่อแม่ผู้ปกครองจำนวนมาก ถามเข้ามาเกี่ยวกับเรื่องการเลือกฉีดวัคซีนให้กับลูกหลานของตนเอง (12-18ปี) เนื่องจากที่โรงเรียนได้รับสิทธิ์ในการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม และวัคซีนไฟเซอร์ เลยไม่รู้จะเลือกอะไรดี โดยส่วนตัว ผมเคยพูดตั้งแต่ปีที่แล้วตั้งแต่สมัยยังไม่มีวัคซีนฉีดกัน ว่าผมจะเลือกฉีดวัคซีนอะไรก็ได้ที่ทางประเทศสหรัฐอเมริกาเขารับรองแล้ว ผมก็ OK ด้วย (ดังนั้น ถึงผมจะได้สิทธิฉีดวัคซีนซิโนแวคไป ก็รีบจองวัคซีนโมเดิร์นน่าตามไปทันที)
ทีนี้ ถ้าเราเปรียบเทียบจุดเด่นจุดด้อยของวัคซีนซิโนฟาร์ม และวัคซีนไฟเซอร์นั้น ก็ค่อนข้างจะแตกต่างกันอยู่นะครับ
การฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มนั้น มีจุดด้อยที่วัคซีนยังไม่ได้รับการอนุมัติรับรองจาก อย. ให้ฉีดในเด็กได้ แต่ที่จะจัดฉีดกันนั้น เป็นโครงการทดลองฉีดของทางราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ซึ่งผู้ปกครองต้องให้ความยินยอมในการร่วมทดลองด้วย
การใช้งานวัคซีนซิโนฟาร์มในเด็ก ตอนนี้ก็มีแค่ประเทศจีน และ UAE ที่ใช้ได้ ยังไม่ได้รับการรับรองจากนานาประเทศให้ใช้ แต่จุดเด่น ก็คือมันเป็นวัคซีนกลุ่มวัคซีนเชื้อตาย ซึ่งผลข้างเคียงน่าจะต่ำ เหมือนกับที่นำมาฉีดในผู้ใหญ่
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ศบค." เคาะแล้ว ต.ค.นี้ "ฉีดไฟเซอร์" ให้นักเรียน อายุ 12-17 ปีทั่วประเทศ
- กทม.พร้อม "ฉีดวัคซีนไฟเซอร์" ให้นักเรียน 4 แสนคน
- เปิด Timeline ลงรับเปิดเรียนภาคเรียนที่2 "ศธ." ฉีดวัคซีนไฟเซอร์ นักเรียน-นศ. ตุลาคมนี้
- เข็ม "ฉีดวัคซีนไฟเซอร์" นักเรียน คาด พ.ย.เปิดเทอมได้
- โพลชี้ อยากให้ "เปิดโรงเรียน" 25 % หนุนฉีด "วัคซีนโควิด" ทุกคน 60%
สำหรับวัคซีนไฟเซอร์ซึ่งเป็นวัคซีนกลุ่ม mRNA นั้น จุดเด่นก็คือประสิทธิภาพในการต้านทานไวรัสที่สูงมาก มีการฉีดในเด็กแล้วในหลายประเทศทั่วโลก และได้รับการรับรองจากองค์กรต่างๆ ตั้งแต่ระดับองค์การอนามัยโลก FDA สหรัฐอเมริกา อย. ประเทศไทย รวมถึงอยู่ในคำแนะนำของราชวิทยาลัยกุมารแพทย์แห่งประเทศไทยด้วย
ส่วนจุดด้อยนั้นก็มีที่กังวลกันเรื่องของผลข้างเคียง เช่นเรื่องกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ แต่อัตราการเกิดก็ต่ำมากๆๆ คือประมาณ 14 คน ใน 1 ล้านคนเท่านั้น (มักเป็นในเด็กผู้ชาย ที่ออกกำลังกายหนักหลังจากฉีด) และทุกคนสามารถรักษาหายได้
วัคซีนทั้ง 2 ตัวนี้ ณ ขณะนี้ จะเป็นการได้ฉีดฟรีทั้งคู่จากรัฐ จึงไม่มีปัจจัยเรื่องค่าใช้จ่ายมาเกี่ยว
ซึ่งเพื่อนหมอหลายคนก็บอกว่าเป็นเขาก็คงเลือกวัคซีนซิโนฟาร์ม ตรงความปลอดภัยที่มีต่อเด็ก .... ส่วนผม ก็ขอบอกว่าผมเลือกไฟเซอร์ (รวมถึงโมเดิร์นน่า) ตามที่อเมริกาใช้
ดังนั้น การตัดสินใจ คงอยู่บนพื้นฐานของผู้ปกครองแต่ละท่าน ตามข้อมูลที่ให้ไว้นี้นะครับ
ปล. สำหรับวัคซีนในเด็กเล็กนั้น น่าจะยังอีกสักระยะหนึ่งถึงจะมีให้ฉีดกัน จากความจริงเรื่องหนึ่งที่ว่า เด็กที่อายุน้อย (ต่ำกว่า 12 ปี) จะมีโอกาสป่วยรุนแรงจากโรคโควิด-19 น้อยกว่าผู้ใหญ่มาก
ในทางปฏิบัติจึงแทบจะไม่จำเป็นต้องฉีดวัคซีน ยกเว้นจะมีโรคประจำตัวอยู่แล้ว (ส่วนเด็กโตมีความคาบเกี่ยวอายุมาทางผู้ใหญ่ ก็เลยควรจะต้องฉีดวัคซีนเพิ่มเติม)