"คลินิกแก้หนี้" ปรับใหม่ หนี้เสีย หนี้บัตรเครดิต จ่ายไม่ไหวทำยังไง เช็คเลย
"คลินิกแก้หนี้" ปรับเงื่อนไขใหม่ จ่ายเท่าที่ไหว ช่วยเหลือคนเป็นหนี้ ทั้ง "หนี้เสีย หนี้บัตรเครดิต" ขยายมาตรการถึงสิ้นปี 2564 เช็คเงื่อนไขได้ที่นี่
"คลินิกแก้หนี้" มาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลับมาอีกครั้ง หลังสิ้นสุดโครงการไปเมื่อเดือนมิถุนายน 2564 ล่าสุด คณะกรรมการกำกับดูแลโครงการคลินิกแก้หนี้ ได้ขยายมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ต่อไปอีก จนถึงเดือนธันวาคม 2564 เช็คเงื่อนไข และคุณสมบัติ ดังนี้
ขั้นตอนการเข้าร่วมโครงการ
ขั้นตอนที่ 1 : ตรวจสอบคุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
ขั้นตอนที่ 2 : กรอกข้อมูลในแบบฟอร์มใบสมัคร
ขั้นตอนที่ 3 : จัดเตรียมเอกสารประกอบการเข้าร่วมโครงการ ดังนี้
- ใบสมัครเข้าร่วมโครงการ
- รายงานเครดิตบูโร
- สำเนาบัตรประชาชน
- สำเนาทะเบียนบ้าน
- สำเนาใบเปลี่ยนชื่อ-สกุล (ถ้ามี)
- เอกสารแสดงรายได้ (แยกตามกรณี)
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ซิโนฟาร์มนักเรียน" ดีเดย์ฉีด 20 ก.ย. "ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์" แนะ เช็คขั้นตอน
- โอนเงิน "ประกันสังคม ม40" อัปเดตสิทธิล่าสุดวันนี้ เตรียมรับเงินเยียวยา
- "ตรวจสอบสิทธิประกันสังคม" www.sso.go.th เช็คได้แล้ว 10 จว. รอรับ 2 เดือนรวด
- เช็คอัปเดต "บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" 18 ก.ย. นี้ จ่ายเงินค่าน้ำ-ค่าไฟให้อีก
- "ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ" ปรับเกณฑ์เพิ่ม เช็คคุณสมบัติที่นี่
- กรณีพนักงานประจำ : สลิปเงินเดือนย้อนหลัง 1 เดือน
- กรณีอาชีพอิสระ : รายการเดินบัญชีย้อนหลัง 3 เดือน หรือหนังสือรับรองรายได้ (ตามแบบฟอร์มแนบท้ายใบสมัคร)
ขั้นตอนที่ 4 : ส่งเอกสารมาที่ ตู้ปณ. 40 ปณฝ.ซันทาวเวอร์ส กรุงเทพฯ 10905 (แนะนำส่งผ่านไปรษณีย์ไทย เพื่อสามารถตรวจสอบการจัดส่งและป้องกันการสูญหายของเอกสาร)
คุณสมบัติผู้เข้าร่วมโครงการ
- เป็นบุคคลธรรมดา ที่มีรายได้ อายุไม่เกิน 70 ปี
- เป็นหนี้เสียบัตรเครดิต บัตรกดเงินสด หรือสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มี หลักประกันของสถาบันที่เข้าร่วมโครงการ
- เป็นหนี้เสีย (NPL) ก่อน 1 ก.พ. 64*
- หนี้รวมไม่เกิน 2 ล้านบาท
*ตามรายงานเครดิตบูโร ณ เดือน ม.ค. 64 ต้องมีสถานะค้างชำระ 91-120 วันขึ้นไป
ผลประโยชน์ที่ปรับใหม่
- ปรับอัตราดอกเบี้ยจากเดิม 4-7% เป็นอัตราเดียวที่ 5% ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยของดอกเบี้ยในโครงการ มีผลตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2564
- ลูกหนี้สามารถชำระหนี้ตามความสามารถ หรือจ่ายเท่าที่ไหว ซึ่งจะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 1-2 % ขึ้นอยู่กับจำนวนเงิน ที่ชำระเข้ามาในช่วงเวลามาตรการ แบ่งออกเป็น 2 แบบ ดังนี้
- รายที่จ่ายค่างวดเฉลี่ยตั้งแต่ร้อยละ 80 ขึ้นไป จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 2%
- รายที่จ่ายค่างวดเฉลี่ยตั้งแต่ร้อยละ 40 แต่ไม่ถึงร้อยละ 80 จะได้รับส่วนลดดอกเบี้ย 1% โดยส่วนลดดอกเบี้ยที่คำนวณได้ จะถูกนำไปตัดเงินต้นในเดือนมกราคม 2565 ซึ่งจะทำให้หมดหนี้เร็วขึ้น
สถาบันที่เข้าร่วมโครงการ
ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือในช่วง 6 เดือนข้างหน้านี้ จะมีผลอัตโนมัติกับลูกหนี้ทุกราย และลูกหนี้ใหม่ในโครงการ โดยไม่ต้องลงทะเบียนโดยที่ลูกหนี้ต้องชำระหนี้ต่อเนื่อง สำหรับลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจทำให้ไม่สามารถชำระหนี้ได้ในช่วงนี้ สามารถขอผ่อนผันการชำระหนี้ได้ตามเงื่อนไขของโครงการ สำหรับท่านที่อยู่ในกลุ่มนี้ขอให้ติดต่อโครงการเพื่อสอบถามรายละเอียด ซึ่งผลการพิจารณาผ่อนผันขึ้นกับดุลพินิจของโครงการ