"ฉีดวัคซีน" ใต้ผิวหนัง เพจดังชี้ทำกันหลายที่ทั่วโลก ลุ้นแค่ว่าจะเวิร์คไหม
กรณีการทดลอง "ฉีดวัคซีน" ใต้ผิวหนัง ของ รพ.วชิระภูเก็ต ล่าสุด เพจดัง ชี้ทำกันหลายที่ทั่วโลก ไม่ใช่เรื่องแผลง ๆ ที่ไทยทำอยู่ประเทศเดียว ลุ้นแค่ว่าจะเวิร์คไหม
วันที่ 17 กันยายน 2564 เพจดังชี้ "ฉีดวัคซีน" ใต้ผิวหนัง ไม่ใช่เรื่องแผลง ๆ ที่ไทยทำอยู่ประเทศเดียว ภายหลังจากที่ "โรงพยาบาลวชิระภูเก็ต" ประสบความสำเร็จในการทำวิจัยฉีด "แอสตร้าเซนเนก้า" เข็ม 3 (Astrazeneca) สำหรับผู้ที่ได้รับ ซิโนแวค 2 เข็ม แบบฉีดเข้าผิวหนัง โดยใช้ปริมาณวัคซีนเพียง 20% ผลปรากฏว่า พบภูมิพุ่งสูงขึ้น
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- รพ.วชิระภูเก็ต "ฉีดวัคซีน" แอสตร้าเข็ม 3 เข้าผิวหนังใช้แค่ 20% ภูมิพุ่งสูง
- เปิดผลวิจัย "วัคซีนโควิด" โดส 3 เพิ่มภูมิคุ้มกัน 10 เท่า
- ก่อนฉีด "Moderma" รพ.เกษมราษฎร์ แนะนำล่าสุดเช็คเลย
- นนทบุรี ฉีดวัคซีน "ไฟเซอร์" หญิงตั้งครรภ์ เช็คเงื่อนไข - วิธีลงทะเบียน
- "หมอธีระ" แนะคิดให้ดี เปิดประเทศ - เปิดการท่องเที่ยว เสี่ยงเจอหนังม้วนเดิม
โดยทางเฟซบุ๊กเพจ Drama-addict ได้ยกงานวิจัยจากเว็บไซต์ต่างประเทศเกี่ยวกับการ "ฉีดวัคซีนใต้ผิวหนัง" กรณีหมอที่ภูเก็ตกำลังทดลอง ซึ่งอันนี้เป็นประเด็นน่าสนใจ ฝากพ่อแม่พี่น้องว่า เรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องแผลง ๆ ที่ไทยทำอยู่ประเทศเดียว ประเด็นนี้กำลังวิจัยกันหลายพื้นที่ทั่วโลกมาก
เพจ Drama-addict ระบุต่อว่า เพราะวัคซีนหลายตัวสามารถฉีดได้หลายวิธี เช่น ใครเคยฉีดวัคซีนพิษสุนัขบ้า จะรู้ว่าสามารถฉีดทั้งแบบ ID (intradermal ใต้ผิวหนัง) และแบบ IM (เข้ากล้ามเนื้อ) ได้ทั้ง 2 วิธี ประเด็นคือ ฉีดไปแล้วกระตุ้นภูมิคุ้มกันในระดับที่เราต้องการได้หรือไม่
ประเด็นคือเทคนิคการฉีดวัคซีนแบบ ID นั้น ในแวดวงการแพทย์เรารู้ว่า สามารถกระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดี โดยใช้ปริมาณวัคซีนน้อยกว่า เพราะมีเซลล์ในชั้นผิวหนังที่ช่วยทำหน้าที่กระตุ้นภูมิคุ้มกัน ประมาณทำหน้าที่เป็น Antigen presenting cell ในชั้นผิวหนัง ซึ่งตัวนี้มีบทบาทสำคัญมากในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน
และถ้ามันเวิร์ค เราจะมีปริมาณวัคซีนให้ฉีด เพิ่มขึ้น 5-10 เท่าทันที เท่ากับแก้ปัญหาวัคซีนทั้งโลกได้ในพริบตา ประเด็นคือ "มันเวิร์คมั้ย" แค่นั้น
ซึ่งตอนนี้หลาย ๆ ประเทศทั่วโลกก็กำลังวิจัยกันในวัคซีนหลายตัว ทั้งที่ใช้ AZ ทดลองแบบบ้านเราก็มี หรือใช้ mRNA ทดลองก็มี และเท่าที่อ่านงานวิจัยที่มีการเผยแพร่ออกมาถึงตอนนี้ พบว่า การฉีดแบบ ID กระตุ้นภูมิคุ้มกันได้ดีเลยทีเดียว ไม่ด้อยกว่าแบบฉีดเข้ากล้ามเนื้อเลย ดังนั้นถ้าเรามีงานวิจัยที่ชัดเจนรองรับ แนวทางนี้ก็น่าสนใจมาก รอดูผลที่ภูเก็ตกันครับ
ที่มา Drama-addict