7 กลุ่มเสี่ยงฉีด "วัคซีนไข้หวัดใหญ่" ฟรี เลี่ยงป่วยพร้อม "โควิด-19"
กรมควบคุมโรค ชวนประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง โรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ รับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เพื่อลดความรุนแรงของโรค ลดความเสี่ยงโรคปอดบวม เตือนหากป่วยไข้หวัดใหญ่พร้อมโควิด-19 เพิ่มความรุนแรงอาจถึงแก่ชีวิต
สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 ที่ต้องเฝ้าระวัง ประกอบกับช่วงฤดูฝนเป็นฤดูกาลระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ซึ่งเป็นโรคติดเชื้อทางระบบทางเดินหายใจ หากผู้ป่วยติดเชื้อ 2 โรคนี้พร้อมกันจะเพิ่มความรุนแรง และมีโอกาสเสียชีวิตสูงขึ้นได้ โดยเฉพาะประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง จึงได้รณรงค์ให้ประชาชนทั้ง 7 กลุ่มเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ข้อมูล ณ วันที่ 6 สิงหาคม พบผู้รับวัคซีนเพียง 1,739,633 โดส หรือ 28.05 % จึงพิจารณาขยายระยะเวลาจากเดิมวันที่ 31 สิงหาคม 2564 เป็นวันที่ 31 ธันวาคม 2564
นอกจากนี้ ยังได้ขยายกลุ่มเป้าหมายเพิ่มเติม ได้แก่ 1.บุคลากรหรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้บริการดูแลผู้ป่วยโรคโควิด-19 2.กลุ่มที่อยู่ในสถานที่ที่มีการรวมตัวของประชากรจำนวนมากที่เสี่ยงต่อการระบาด และ 3 กลุ่มเสี่ยงอื่น ๆ ขึ้นกับสถานการณ์ในช่วงนั้น โดยเริ่มให้บริการวัคซีนตั้งแต่เดือนตุลาคม 2564
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "ตรวจสอบสิทธิประกันสังคม" www.sso.go.th เช็คได้แล้ว 10 จว. รอรับ 2 เดือนรวด
- เผยข้อมูล ไทยระดม "ฉีดวัคซีนโควิด" ให้แพทย์-ผู้สุงอายุ เกินเป้าหมายแล้ว
- สธ. ส่งทีมเร่งควบคุม "โควิด-19" จ.ภูเก็ต ป้องกันผลกระทบเปิดประเทศ
- เริ่มฉีด "วัคซีนโควิด" เข็ม 3 ก่อนตุลาคม เร่งส่งวัคซีนฉีดพื้นที่ภูเก็ตเพิ่ม
- "เด็กหาย" ในไทยไม่มี "ค้ามนุษย์" จับตามองคนแก่หาย ยอดเพิ่มขึ้นจนน่ากังวล
นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า การฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ยังคงมีความจำเป็นอย่างมาก แม้ว่าจะฉีดวัคซีนโควิด-19 ไปแล้ว เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสคนละชนิดกัน ประชาชนควรได้รับวัคซีนทั้ง 2 ตัว และให้ฉีดห่างกัน 2 สัปดาห์ โดยเฉพาะประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง เพื่อป้องกันการเกิดโรคปอดบวม ทั้งยังช่วยลดความรุนแรงของโรค และลดความเสี่ยงการเสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนของผู้ป่วยลงได้
อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวอีกว่า วัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ ต้องฉีดป้องกันปีละ 1 ครั้ง โดยกรมควบคุมโรค ได้ดำเนินการร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในการรณรงค์ฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่ ขอเชิญชวนให้ประชาชน 7 กลุ่มเสี่ยง ได้แก่
- 1.หญิงตั้งครรภ์ อายุครรภ์ 4 เดือนขึ้นไป
- 2.เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี
- 3.ผู้มีโรคเรื้อรัง ได้แก่ ปอดอุดกั้นเรื้อรัง หอบหืด หัวใจ หลอดเลือดสมอง ไตวาย ผู้ป่วยมะเร็งที่อยู่ระหว่างการได้รับเคมีบำบัด และเบาหวาน
- 4.ผู้สูงอายุ 65 ปีขึ้นไป
- 5.ผู้พิการทางสมองที่ช่วยเหลือตนเองไม่ได้
- 6.โรคธาลัสซีเมียและผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง ซึ่งรวมผู้ติดเชื้อเอชไอวีที่มีอาการ
- 7.โรคอ้วน คือผู้ที่มีน้ำหนักตัวมากกว่า 100 กิโลกรัม หรือ มีดัชนีมวลกายมากกว่า 35 กิโลกรัมต่อตารางเมตร
เข้ารับวัคซีนได้ที่สถานบริการสาธารณสุขของรัฐใกล้บ้าน และที่สถานพยาบาลเอกชนที่เข้าร่วมโครงการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ตั้งแต่วันนี้จนถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2564 โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ประชาชนสามารถสอบถามข้อมูลสุขภาพเพิ่มเติมได้ที่สายด่วนกรมควบคุมโรค 1422