ย้อนคลิป "น้องไข่เน่า" เปิดใจก่อนโดนจับ หลังทำ Onlyfans โกยรายได้เฉียดล้าน
ย้อนคลิป "น้องไข่เน่า" เปิดใจหลังทำ Onlyfans โกยรายได้เฉียดล้าน เผยสาเหตุที่ทำให้ครอบครัวเกิดการยอมรับ จากที่ตอนแรกต่อต้านสั่งให้เลิกทำ
กำลังเป็นจับตามองเป็นอย่างมากสำหรับ "น้องไข่เน่า" ดาว "onlyfans" หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจไซเบอร์ จ่อเอาผิดฐาน พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา เรื่องการชักชวนให้ผู้อื่นกระทำอนาจาร ซึ่งมีโทษสูงสุดจำคุก 5 ปี และโทษปรับ หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามที่นำเสนอข่าวไปก่อนหน้านี้
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
ขณะเดียวกัน แม้ว่าดาว "Onlyfans" อย่าง "น้องไข่เน่า" ได้มาเคลื่อนไหวผ่านทวิตเตอร์ โดยระบุว่า "คือหนูยังอยู่ดีนะคะ~ ขอบคุณที่ห่วงหนูกันนะคะ ขอบคุณมากๆเลย ;-; คืออิพวกนักข่าวมันก็ลงข่าวมั่ว คือมีหมายเรียกมาจริง แต่เรียกไปเป็นพยานค่า ไม่ได้เป็นผู้ต้องหา คือสิ่งที่หนูให้ปากคำกับตำรวจสวนทางกับที่นักข่าวเอาลง5555555 คิดเอาละกัน55555 ขอบคุณกำลังใจด้วยน้า ส่งใจ ปิ้วๆ~"
ทว่าต่อมานั้น พล.ต.ท.กรไชย คล้ายคลึง ผบช.สอท. เปิดเผยกับคมชัดลึกว่า ทาง พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ทาง บช.สอท. สืบสวนขยายผลหาผู้กระทำความผิดกับกลุ่มที่ทำคลิปใน Onlyfans จากการตรวจสอบพบว่า มีผู้ใช้ยูสเซอร์ชื่อว่า "น้องไข่เน่า" ได้ผลิตคลิปวิดีโอในลักษณะการกระทำอนาจาร พร้อมเก็บค่าสมาชิกเป็นรายเดือนหรือรายคลิป
นอกจากนี้ยังเคยไปออกรายการรายการในช่องยูทูบ มีพูดลักษณะเข้าข่ายการเชิญชวนให้ผลิตคลิปในลักษณะเดียวกันลงในเว็บไซต์ onlyfans ระบุว่าทำแล้วมีรายได้สูง ซึ่งตอนี้เจ้าหน้าที่ระบุว่า อยู่ระหว่างดำเนินการสรุปเรื่องการเรียกตัวมาดำเนินคดีต่อไปนั้น
ขณะเดียวกัน มีการเผยคลิปก่อนหน้านี้ที่ทาง ไข่เน่า ได้ไปสัมภาษณ์เปิดใจกับช่องยูทูบช่องหนึ่ง ซึ่งเธอได้พูดถึงที่มาของการทำ Onlyfans เริ่มการชักชวนแฟนหนุ่มให้ทำ เดือนแรกมีรายได้ประมาณ 15,000 บาท ทว่าผ่านไป 3 เดือน รายได้พุ่งเฉียดหลักล้านบาทเลยทีเดียว
ไข่เน่า บอกว่าการทำในลักษณะนี้ สิ่งที่ต้องแลกมานั้นคือชื่อเสียงของเธอที่มักจะถูกคุกคามอยู่เป็นประจำ เธอบอกว่าในทางกฎหมายยังไม่ได้คุ้มครองผู้ที่ทำอาชีพนี้สักเท่าไหร่
นอกจากนี้เธอยังได้พูดถึงครอบครัวด้วยว่า หลังทราบว่าเธอทำเช่นนี้ทีแรกคนที่บ้านก็ไม่ยอมรับ ครอบครัวขอร้องให้เลิกทำหลายครั้ง แต่เมื่อเธอได้พิสูจน์ว่าการทำเช่นนี้สามารถมีรายได้ ดูแลตัวเองได้ ทางบ้านจึงเกิดการยอมรับในเวลาต่อมา
ขอบคุณคลิปจากยูทูบ