พม. ไล่ออก "นักพัฒนาสังคม" ฮุบเงิน "กลุ่มเปราะบาง" 13 ล้าน
ให้ออกจากราชการ "นักพัฒนาสังคม" ทุจริตเงิน "กลุ่มเปราะบาง" 13 ล้านบาท พม.รื้อทั้งระบบป้องกันการทุจริตในอนาคต
นางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กล่าวว่า สำหรับความคืบหน้ากรณีการทุจริตเงินของทางราชการ ของนายพิศาล สุขใจธรรม นักพัฒนาสังคมชำนาญการ ในเบื้องต้น กระทรวง พม. ได้ให้ออกจากราชการไว้ก่อน และอายัดเงินในบัญชีทั้งหมดของผู้กระทำความผิด เพื่อทำให้ตรวจสอบเงินในบัญชีได้มากขึ้น และไม่ให้มีการถ่ายโอนเงินไปให้บัญชีของผู้อื่น นอกจากนี้ ยังให้ทางสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ตรวจสอบเส้นทางการเงินที่ผู้กระทำความผิดได้ยักยอกเงินของกระทรวง พม. แล้วถ่ายโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว และมีการโอนเงินเข้าบัญชีของใครต่อหรือไม่ เพื่อจะได้เอาผิดกับผู้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย
อีกส่วนหนึ่ง คือ พม. ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง เพื่อจะตรวจสอบว่ามีผู้กระทำความผิดเพียงคนเดียว หรือมีบุคคลอื่น หรือหน่วยงานอื่นเกี่ยวข้องร่วมกันกระทำความผิดด้วยหรือไม่ ทั้งนี้ จากข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า มีการกระทำความผิดในปีนี้ 2564
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- จับแล้ว พม. "ทุจริต13ล้าน" พรุ่งนี้ส่งฟ้องศาลอาญา ข้อหาฉ้อโกง
- ฉบับเต็ม ทุกคำสารภาพ "ผู้กำกับโจ้" ขอสาบานไม่เคยทุจริตเรื่องเงิน
- จัดหน่วยเคลื่อนที่ฉีด "ซิโนฟาร์ม" ให้กลุ่มเปราะบางฟรี 1 แสนโดสทั่วประเทศ
- พม. ฉีดวัคซีน "โควิด-19" ให้กลุ่มเปราะบาง ในบางบอน
- ช่วยแล้ว "ชายไร้บ้าน" วัย 76ปี ป่วยเป็นมะเร็งโพรงจมูก เข้าบ้านบางแค
เนื่องจากในการดูแลเรื่องงบประมาณนั้น สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) จะเข้ามาดำเนินการตรวจสอบหน่วยงานเป็นประจำทุกปี ทำให้ผู้กระทำความผิดเร่งถ่ายโอนเงินสิ้นปีงบประมาณ 2564 ภายในเดือนกันยายนนี้ และรีบหนีไปก่อน ที่ สตง. จะเข้ามาตรวจสอบและพบการกระทำความผิด
นางพัชรี กล่าวเพิ่มเติมว่า จากกรณีดังกล่าว พม. จะถอดบทเรียนในการแก้ไขระบบเพื่อไม่ให้เกิดการทุจริตขึ้นอีก เนื่องจากอาจมีช่องว่างของระบบตัวบุคคลที่มอบหมายให้รับผิดชอบในการเบิกจ่ายต่างๆ ถึงแม้จะมี 3 คน แต่ด้วยความเชี่ยวชาญด้านการเงินในระบบ IT ของราชการถือว่ามีจุดอ่อนเยอะมาก จำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยน โดยจะต้องปรับบุคคลที่เคยทำงานอยู่ในสังกัดกรมนี้ให้ย้ายไปทำงานกรมอื่น มีการสลับหน่วยงานในแต่ละกรมสังกัดกระทรวง พม. เพื่อไม่ให้เกิดการไว้วางใจ มีการมอบรหัสเบิกจ่ายเงิน และอาจจะให้หน่วยงานภายนอกที่เกี่ยวข้องที่มีความเชี่ยวชาญด้านระบบ IT มาช่วยดูระบบของ กระทรวง พม. ทั้งหมด ทั้งนี้ ขณะนี้ ได้มีการเปลี่ยนรหัสใหม่ทั้งหมดของกระทรวง พม. เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้กระทำความผิดเข้ามายักยอกเงินได้อีก และในอนาคตจะต้องมีการปรับระบบใหม่ทั้งหมด ว่ามีช่องว่างอย่างไรนอกจากตัวบุคคล หากพบว่ามีช่องว่างตรงไหนก็จะปิดระบบตรงนั้น สำหรับในส่วนของการป้องกันการทุจริตนั้น กระทรวง พม. จะได้ร่วมมือกับ ปปท. และ ปปง. เพื่อหารือถึงแนวทางร่วมกันในการแก้ไขกรณีดังกล่าวที่เป็นเคสตัวอย่าง เป็นการทุจริตเงินโดยไม่ได้จับเงินเลย เราจะทำอย่างไรเพื่อป้องกันการทุจริตในอนาคต