ลดขนาด "ฉีดไฟเซอร์" ให้เด็กเหลือ 1/3 โดส ภูมิขึ้นดี-ปลอดภัยกว่าฉีดเต็มโดส
"หมอเฉลิมชัย" แนะ "ฉีดไฟเซอร์" ให้เด็กใช้เพียง 1/3 โดส ภูมิขึ้นดีและมีความเสี่ยง-อาการข้างเคียงน้อยมาก คาด อย.สหรัฐฯ อนุมัติฉีดเด็กอายุ 5-11 ปี ภายในต.ค.นี้
นพ.เฉลิมชัย บุญยะลีพรรณ รองประธานกรรมาธิการการสาธารณสุขวุฒิสภา โพสต์ blockdit ส่วนตัว ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย โดยระบุว่า Pfizer ขนาดเพียง 1/3 ของโดสปกติ เมื่อฉีดเด็ก 5-11 ขวบ ได้ผลดี คาด อย.สหรัฐฯอนุมัติปลายตุลาคมนี้
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ในเด็ก เป็นเรื่องที่ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอ เพราะงานวิจัยส่วนใหญ่ ทำในผู้ใหญ่อายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป
ผู้บริหารบริษัท Pfizer ได้แถลงความคืบหน้าถึงผลการศึกษาการฉีดวัคซีนให้กับเด็กอายุ 5-11 ปี หลังจากที่วัคซีนของบริษัท ได้รับการอนุมัติให้ฉีดใสนสถานการณ์ฉุกเฉินในเด็กอายุ 12 ปีขึ้นไปแล้ว
โดยการศึกษาครั้งนี้ ทำในอาสาสมัครเด็กจำนวน 2,268 ราย ฉีดวัคซีนปริมาณเพียงหนึ่งในสามของขนาดปกติคือ ขนาด 10 ไมโครกรัม จากที่ปกติฉีด 30 ไมโครกรัม
โดยฉีดเข้ากล้ามเนื้อ สองเข็มห่างกัน 21 วัน พบว่า มีความปลอดภัยดี มีผลข้างเคียงเล็กน้อย คล้ายกับผู้ใหญ่ เช่น เจ็บตำแหน่งที่ฉีด เพลีย ปวดกล้ามเนื้อ ปวดศรีษะ และมีไข้ ซึ่งหายไปได้ในเวลาไม่กี่วัน
ส่วนระดับภูมิคุ้มกัน ก็พบว่าขึ้นได้ดีไม่แตกต่างกับเด็กโตหรือผู้ใหญ่ ทำให้ทางบริษัทมีความมั่นใจว่า จะสามารถส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับทาง USFDA ได้ภายในปลายเดือนนี้ และถ้าคำนวณจากระยะเวลาที่ทาง USFDA เคยตรวจเพื่ออนุมัติสำหรับวัคซีนเด็กโตแล้วก็คาดว่า บริษัทน่าจะได้รับการอนุมัติให้ฉีดวัคซีนในเด็กอายุ 5-11 ปีได้ภายในปลายเดือนตุลาคม 2564
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- เปิดผลข้างเคียง "วัคซีนไฟเซอร์" กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในเด็ก ที่รักษาได้
- เริ่มฉีด "วัคซีนไฟเซอร์" ให้เด็กกลุ่มเสี่ยงวันแรกไปแล้ว 2,000 ราย
- "ไฟเซอร์ไบออนเทค" ขออนุมัติด่วน "วัคซีน Pfizer" ใช้ในเด็ก 5-11 ปี
- "วัคซีนเด็ก" เล็งฉีด "mRNA" เพียงเข็มเดียว ลดผลกระทบกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ
- Pfizer-Sinopharm "วัคซีนเด็ก" เสียงแตก เทียบให้ชัด เลือกฉีดตัวไหนให้ลูกดี
ซึ่งเป็นข่าวดีมาก สำหรับพ่อแม่ผู้ปกครอง เพราะในเดือนกรกฎาคม 2564 เป็นต้นมา เคสโควิดที่พบในเด็กเพิ่มขึ้นถึง 240% คิดเป็น 28.9% ของเคสทั้งหมด หลังจากที่มีไวรัสเดลต้าระบาดแล้ว บริษัท Pfizer ยังได้ทำการทดลองเพิ่มเติมอีกสองกลุ่มได้แก่ อายุ 2-5 ขวบ และหกเดือนถึงสองขวบ ซึ่งคาดว่าจะสามารถยื่นขออนุมัติได้ในไตรมาสสี่ของปีนี้ ในอีกซีกโลกหนึ่งคือประเทศจีน ก็ได้ทำการทดลองฉีดในอาสาสมัครเด็กตั้งแต่อายุ 3-17 ปี ซึ่งถือว่ามีคนในก็ได้ผลดีเช่นกัน
คาดว่าภายในสิ้นปีนี้ คงจะมีทั้งวัคซีนเทคโนโลยี mRNA และวัคซีนเทคโนโลยีเชื้อตาย ได้รับการอนุมัติให้ฉีดในเด็กได้ ก็จะทำให้การเปิดโรงเรียนและการที่เด็กจะไปมีกิจกรรมต่างๆมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
ที่มา: blockdit ร้อยแปดพันเก้ากับหมอเฉลิมชัย