เด่นโซเชียล

"หมอธีระ" ชี้ต้องเปิดหมดข้อมูล โควิด-19 ให้เห็นภาพรวมที่ตรงกับความจริง

"หมอธีระ" ชี้ต้องเปิดหมดข้อมูล โควิด-19 ให้เห็นภาพรวมที่ตรงกับความจริง

28 ก.ย. 2564

อย่ากั๊ก "หมอธีระ" ชี้ต้องเปิดหมดข้อมูล โควิด-19 เพื่อให้ประชาชนเห็นภาพรวมสถานการณ์ที่ตรงกับความเป็นจริง คาดปลายสัปดาห์นี้ไทยมียอดติดเชื้อสะสมแซงแคนาดา เบียดขึ้นอันดับ 27

วันที่ 28 กันยายน 2564 ศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ หรือ "หมอธีระ" คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระบุถึงสถานการณ์ "โควิด-19" ในประเทศไทย ว่า 

 

 

สถานการณ์ "โควิด-19" ของไทยเรา เมื่อวานนี้จำนวนติดเชื้อใหม่ยังคงสูงเป็นอันดับ 10 ของโลก แต่หากรวม ATK ด้วย ก็จะแซงมาเลเซีย ขึ้นเป็นอันดับ 9 ของโลก 

 

สำหรับจำนวนติดเชื้อรวม ไทยยังอยู่อันดับ 28 อย่างไรก็ตามปลายสัปดาห์นี้ไทยจะมีจำนวนติดเชื้อสะสมแซงแคนาดา เบียดขึ้นอันดับ 27 ได้ 

 

เรื่องที่ต้องคอยติดตาม ตั้งแต่ปลายเดือนนี้ไปถึงสองสัปดาห์แรกของตุลาคม ควรติดตามดูผลการปลดล็อค 1 กันยายน เนื่องจากในอดีตที่ผ่านมา มักใช้เวลาราว 4-6 สัปดาห์หลังเริ่มดำเนินนโยบาย 

 

หมอธีระ ระบุอีกว่า จากการรายงานจำนวนติดเชื้อของทางการ 9,489 คน ต่างประเทศ 10 คน ในประเทศ 9,479 คน แต่...จำนวนตรวจพบด้วย ATK อีก 6,855 คน รวมแล้วติดเชื้อในประเทศ = 16,334 คน 

 

การรายงานประจำวัน ควรนำเสนอตัวเลขเช่นนี้ จึงจะเห็นภาพรวมสถานการณ์ที่สะท้อนความเป็นจริง และควรรายงานด้วยว่า แต่ละวันนั้นมีคนตรวจด้วย ATK และ RT-PCR วันละกี่คน 

 

และในจำนวนที่ตรวจพบด้วย ATK นั้น มีสักกี่คนที่สามารถเข้าถึงบริการตรวจ RT-PCR ได้ในแต่ละวัน ไม่งั้นรายงานที่นำเสนอต่อสาธารณะ และต่อหน่วยงานสากล ก็จะมีแนวโน้มที่จะต่ำกว่าความเป็นจริง และส่งผลต่อความตระหนักและการปฏิบัติตัวของประชาชนทั้งประเทศได้ครับ 

 

 

หมอธีระ เผยต่อว่า ระบบข้อมูลในเรื่อง "โควิด-19" ควรได้รับการเปิดเผยรายละเอียด "ทั้งหมด" เกี่ยวกับการควบคุมป้องกันโรค ทั้งเรื่องสถานการณ์การระบาด สถิติการตรวจคัดกรองโรคทุกวิธี รวมถึงเรื่องวัคซีน เพราะข้อมูลทุกเรื่องข้างต้น ส่งผลต่อสวัสดิภาพและความปลอดภัยในชีวิตของพลเมืองทุกคน ดังนั้นข้อมูลทุกเรื่องข้างต้น ควรเป็น "Open data" 

 

สำหรับ สถานการณ์โควิดทั่วโลก 28 กันยายน 2564 ทะลุ 233 ล้านไปแล้ว เมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 340,190 คน รวมแล้วตอนนี้ 233,006,793 คน ตายเพิ่มอีก 4,901 คน ยอดตายรวม 4,767,676 คน 

 

5 อันดับแรกที่มีจำนวนติดเชื้อต่อวันสูงสุดคือ อเมริกา สหราชอาณาจักร ตุรกีรัสเซีย และฟิลิปปินส์ 

 

อเมริกา ติดเชื้อเพิ่ม 56,495 คน รวม 43,886,822 คน ตายเพิ่ม 442 คน ยอดเสียชีวิตรวม 707,740 คน อัตราตาย 1.6% 

 

อินเดีย ติดเพิ่ม 14,905 คน รวม 33,693,148 คน ตายเพิ่ม 181 คน ยอดเสียชีวิตรวม 447,406 คน อัตราตาย 1.3% 

 

บราซิล ติดเพิ่ม 14,423 คน รวม 21,366,395 คน ตายเพิ่ม 218 คน ยอดเสียชีวิตรวม 594,702 คน อัตราตาย 2.8% 

 

สหราชอาณาจักร ติดเพิ่ม 37,960 คน ยอดรวม 7,701,715 คน ตายเพิ่ม 40 คน ยอดเสียชีวิตรวม 136,208 คน อัตราตาย 1.8% 

 

รัสเซีย ติดเพิ่ม 22,236 คน รวม 7,443,149 คน ตายเพิ่ม 779 คน ยอดเสียชีวิตรวม 204,679 คน อัตราตาย 2.7% 

 

อันดับ 6-10 เป็น ตุรกี ฝรั่งเศส อิหร่าน อาร์เจนติน่า และโคลอมเบีย ติดกันหลักพันถึงหลายหมื่น หากรวมทวีปเอเชีย ยุโรป และอเมริกาเหนือ พบว่ามีสัดส่วนสูงถึงร้อยละ 92.42 ของจำนวนติดเชื้อใหม่ทั้งหมดต่อวัน

 

แถบสแกนดิเนเวีย บอลติก และยูเรเชีย ก็มีการติดเชื้อเพิ่มขึ้นหลักร้อยถึงหลักพัน ส่วนแถบตะวันออกกลางส่วนใหญ่ยังติดเพิ่มหลักร้อยถึงหลักพัน ยกเว้นอิหร่านติดเพิ่มหลักหมื่นอย่างต่อเนื่อง 

 

ฟิลิปปินส์ และมาเลเซีย ติดเพิ่มกันหลักหมื่น ขณะที่ เวียดนาม ญี่ปุ่น เมียนมา อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้ ติดกันหลักพัน กัมพูชา และลาว ติดเพิ่มหลักร้อย ส่วนจีน และนิวซีแลนด์ ติดเพิ่มหลักสิบ ในขณะที่ฮ่องกง และไต้หวัน ติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ 

 

ที่มา Thira Woratanarat

 

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง