ลุ้น "โบราณสถาน" อยุธยา รับมือ "น้ำท่วม" ระดับน้ำสูงขึ้นจากระบายน้ำเขื่อน
กรมศิลปากร รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ระดับน้ำสูงขึ้น 20 ซม. หลังเขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำท้ายเขื่อนมากกว่าวันที่ผ่านมา เฝ้าระวังใกล้ชิด
กรมศิลปากร รายงานสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ประจำวันที่ 29 กันยายน 2564 โดยในวันนี้เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำท้ายเขื่อน 2,775 ลบ.ม./วินาที มากกว่าเมื่อวาน (28 กันยายน) ประมาณ 103 ลบ.ม./วินาที ขณะที่ระดับน้ำในแม่น้ำบริเวณโดยรอบพื้นที่อุทยานฯ มีระดับสูงขึ้นประมาณ 20 เซนติเมตร โดยโบราณสถานวัดไชยวัฒนาราม ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงกว่าสันเขื่อน 50 เซนติเมตร โดยอุทยานฯ ได้ติดตั้งแผงป้องกันน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว และในวันนี้ได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำพลังงานดีเซล เสริมสำรองไว้กรณีเกิดฝนตกหนัก น้ำรั่วซึมมาก ไฟฟ้าดับหรือเครื่องสูบน้ำไฟฟ้าเสียหาย
ขณะที่โบราณสถานวัดธรรมราม ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงกว่าสันเขื่อน 40 เซนติเมตร โดยอุทยานฯ ได้ติดตั้งแผงป้องกันน้ำเสร็จเรียบร้อยแล้ว ด้านโบราณสถานหมู่บ้านโปรตุเกส ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับต่ำกว่าสันเขื่อน 14 เซนติเมตร และโบราณสถานวัดกษัตราธิราชวรวิหาร ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับต่ำกว่าสันเขื่อน 20 เซนติเมตร , โบราณสถานป้อมเพชร ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับสูงกว่าสันเขื่อน 5 เซนติเมตร ขณะนี้อุทยานฯ ได้ร่วมกับทางวัดติดตั้งแผงป้องกันน้ำคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันนี้
ส่วนทางด้านโบราณสถานวัดเชิงท่า ระดับน้ำในแม่น้ำลพบุรีมีระดับต่ำกว่าสันเขื่อน 30 เซนติเมตร ขณะนี้อุทยานฯ ได้ร่วมกับทางวัดติดตั้งแผงป้องกันน้ำคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในวันพรุ่งนี้ โบราณสถานวัดพุทไธสวรรย์ ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับต่ำกว่าสันเขื่อน 30 เซนติเมตร อุทยานฯ จะใช้แนวกำแพงวัดเป็นแนวป้องกันน้ำและจะดำเนินเรียงกระสอบทรายปิดประตูวัดป้องกันน้ำเข้าภายในพื้นที่โบราณสถานในวันพรุ่งนี้ , โบราณสถานหมู่บ้านฮอลันดา ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยามีระดับต่ำกว่าสันเขื่อน 135 เซนติเมตร
บริเวณท้ายพระราชวังโบราณมีน้ำจากแม่น้ำลพบุรีซึมลอดแนวถนนอู่ทองมาท่วมขังบริเวณรหัสวิดน้ำสูงประมาณ 70 เซนติเมตร ในบริเวณนี้ไม่สามารถสูบน้ำออกได้ เนื่องจากถนนอู่ทองในบริเวณท้ายพระราชวังโบราณเป็นถนนใหม่ที่พระยาโบราณราชธานินทร์นำดินจากการขุดแต่งพระราชวังโบราณในช่วงปลายสมัยรัชการที่ 5 มาถมทำเป็นถนน ถนนในบริเวณนี้จึงไม่แข็งแรงเหมือนถนนอู่ทองช่วงอื่นๆ หากสูบน้ำออกน้ำจากแม่น้ำลพบุรีก็จะซึมลอดถนนอู่ทองเข้ามา ซึ่งอาจทำให้ถนนเสียหายได้ โดยในระยะยาวอุทยานฯ จะประสานไปยังสำนักงานโยธาธิการในการก่อสร้างผนังกันน้ำใต้ถนนอู่ทองในช่วงบริเวณนี้ เนื่องจากโบราณสถานแห่งนี้ตั้งอยู่ติดกับแม่น้ำจนไม่มีพื้นที่ทำระบบป้องกันน้ำแบบถาวรได้ จึงทำให้ขณะมีน้ำบางส่วนซึมเข้าไปในพื้นที่โบราณสถานที่เป็นที่ลุ่มต่ำ โดยอุทยานฯ ได้ทำการถอดเก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า เช่น ไฟส่องสว่างและปั้มน้ำขึ้น และจะวางแนวกระสอบทรายเพื่อป้องกันคลื่นที่จะส่งผลกระทบต่อตัวโบราณสถาน และหากสถานการณ์น้ำเข้าสู่ภาวะปกติจะเร่งฟื้นฟูโบราณสถานโดยด่วนต่อไป
โดยในวันนี้อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ได้ระดมบุคลากรทั้งหมดมาปฏิบัติงานด้านการป้องกันน้ำ ซึ่งขณะนี้เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้มีการระบายน้ำในอัตรา 400 - 600 ลบ.ม./วินาที และปริมาณน้ำในแม่น้ำลพบุรีมีเพิ่มขึ้นจากน้ำที่ท่วมในพื้นที่จังหวัดลพบุรี ซึ่งมวลน้ำดังกล่าวจะมารวมกันที่เกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา ทำให้ระดับน้ำในพื้นที่อุทยานฯ มีแนวโน้มจะสูงขึ้นอีก โดยทางอุทยานฯ จะติดตามสถานการณ์โดยใกล้ชิดเพื่อเตรียมการในการรับมือต่อไป
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
- "สิทธิบัตรทอง" พื้นที่น้ำท่วม ให้รักษาต่อเนื่อง ส่งน้ำยาล้างไตถึงบ้าน
- "วัคซีนแอสตร้าฯ" 1.2 แสนโดส และ ATK 2 แสนชุด จากสิงคโปร์ ถึงไทยแล้ววันนี้
- เช็กหลักเกณฑ์ ชดเชยอาการไม่พึงประสงค์ "ฉีดวัคซีนโควิด" จ่ายแล้ว กว่า 230 ล.
- "ไฟเซอร์" ที่สหรัฐบริจาค 1 ล.โดส ไม่ล่าช้า กำลังเตรียมเอกสารจากต้นทาง
- สพฉ. แนะปชช.เสี่ยง "น้ำท่วม" เตรียมกระเป๋ายังชีพฉุกเฉิน พร้อมเร่งช่วยเหลือ