เด่นโซเชียล

ศูนย์วิจัยฯศิริราช ชี้ ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ต้อง "ไฟเซอร์" หรือ "แอสตร้า" เท่านั้น

ศูนย์วิจัยฯศิริราช ชี้ ฉีดวัคซีนเข็ม 3 ต้อง "ไฟเซอร์" หรือ "แอสตร้า" เท่านั้น

15 ต.ค. 2564

ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยัน กระตุ้นเข็มสามบูสเตอร์โดส ต้องวัคซีน "ไฟเซอร์" หรือ "แอสตร้า" เท่านั้น

ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ยัน กระตุ้นเข็มสามบูสเตอร์โดส ต้องวัคซีน "ไฟเซอร์" หรือ "แอสตร้า" เท่านั้น

 

 

วันนี้ 15 ตุลาคม 2564 ศูนย์วิจัยคลินิก คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดเผยผลวิจัยเกี่ยวกับการศึกษาภูมิคุ้มกันหลังได้รับการฉีดวัคซีนเข็มบูสเตอร์ หรือเข็มที่ 3 ในผู้ที่ได้รับการฉีดวัคซีน "ซิโนแวค" ครบโดส 2 เข็ม หรือรับการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าครบโดส 2 เข็ม

 

 

ผลการวิจัย พบว่าวัคซีน "ซิโนแวค" เป็นวัคซีนเริ่มต้นที่ดี ซึ่งเมื่อฉีดกระตุ้นเข็ม 3 ด้วย "แอสตร้า" หรือ "ไฟเซอร์" จะให้ระดับภูมิคุ้มกันที่สูงมาก ในกรณีของวัคซีนไฟเซอร์ใช้เพียงครึ่งโดสก็สามารถมีภูมิคุ้มกันในระดับที่ใกล้เคียงกับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส ดังนั้น จึงแนะนำให้ฉีดเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีนยี่ห้อแอสตร้าเซเนก้า หรือวัคซีนไฟเซอร์เท่านั้น
 

นอกจากนี้ ในกรณีที่ได้รับการฉีดวัคซีน "แอสตร้า" ครบโดส 2 เข็มมาก่อนหน้านี้ ควรฉีดเข็มที่ 3 ด้วยวัคซีน "ไฟเซอร์" เท่านั้น ซึ่งอาจใช้เพียงครึ่งโดส ทำให้มีผลภูมิคุ้มกันใกล้เคียงกับการใช้วัคซีนเต็มโดส

 

 

ผลการวิจัย มีดังนี้ หลังได้รับวัคซีน 2 เข็ม ประมาณ 8-12 สัปดาห์ ระดับภูมิคุ้มกันผู้ที่ฉีดซิโนแวค 33-38 BAU/ml และผู้ที่ฉีดแอสตราฯ ระดับภูมิคุ้มกัน 90-116 BAU/ml โดยผู้ที่ฉีดซิโนแวคแล้วได้รับวัคซีนกระตุ้นด้วยไฟเซอร์ ขนาดเต็มโดส มีระดับภูมิคุ้มกันขึ้นสูงสุด 5,152 BAU/ml รองลงมาเป็นวัคซีนไฟเซอร์ขนาดครึ่งโดส ภูมิคุ้มกันที่ 3,981 BAU/ml สูงกว่าการฉีดกระตุ้นด้วยวัคซีนอื่นอย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ส่วนวัคซีนแอสตราฯ เข็มที่ 3 ภูมิคุ้มกันที่ 1,358 BAU/ml และวัคซีนซิโนฟาร์ม กระตุ้นได้น้อยที่สุด 155 BAU/ml

ส่วนผู้ที่ได้รับแอสตราฯ 2 เข็ม กระตุ้นเข็มที่ 3 ด้วยไฟเซอร์ขนาดเต็มโดส ภูมิคุ้มกันขึ้นที่สุด 2,377  BAU/ml รองลงมาเป็นการกระตุ้นด้วยไฟเซอร์ ครึ่งโดส ภูมิคุ้มกันขึ้นที่ 1,962 BAU/ml สูงกว่าการกระตุ้นด้วยวัคซีนชนิดอื่นอย่างมีนัยสำคัญ และเมื่อกระตุ้นด้วยวัคซีนแอสตราฯ เข็มที่ 3 ภูมิคุ้มกันกระตุ้นสูงขึ้นน้อนที่ 246 BAU/ml และวัคซีนซิโนฟาร์ม เข็มที่ 3 กระตุ้นได้น้อยที่สุด 129 BAU/ml

 

 

ทั้งนี้เมื่อทดสอบระดับภูมิคุ้มกันต่อการยับยั้งสายพันธุ์เดลตา ในผู้ที่รับซิโนแวคครบ 2 เข็ม กระตุ้นด้วยไฟเซอร์ครึ่งโดส ระดับไตเตอร์สูงที่สุด (499) รองลงมาเป็นวัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส สูงสุดที่ ( 411) กระตุ้นด้วยแอสตราฯ สูงสุดที่ (271) กระตุ้นด้วยซิโนฟาร์ม สูงสุดที่ (49)

 

 

ส่วนผู้ที่ฉีดแอสตร้าฯ ครบ 2 เข็ม วัคซีนไฟเซอร์เต็มโดส ได้สูงสุดที่ ( 520) รองลงมาเป็นไฟเซอร์ครึ่งโดส ได้สูงสุดที่ ( 358) โดยวัคซีนไฟเซอร์กระตุ้นได้สูงกว่าแอสตราฯ และซิโนฟาร์ม

 

 

ทั้งนี้ อาการไม่พึงประสงค์หลังการฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็มที่ 3 มีเล็กน้อยถึงปานกลางในทุกวัคซีนที่ได้ทำการวิจัยในครั้งนี้