เช็ควิธีลงทะเบียน "Thailand Pass" เดินทางเข้าไทย หลังปรับระบบใหม่ง่ายขึ้น
รวมวิธีลงทะเบียน ระบบ "Thailand Pass" ใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
รวมวิธี ลงทะเบียน ระบบ "Thailand Pass" ใหม่ เพื่อให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนเข้าประเทศไทย ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564
Thailand Pass System เป็นระบบออนไลน์ใหม่ที่ใช้งานแทนการสมัคร Certificate of Entry (COE) สำหรับการเดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 คุณสามารถอ่านรายละเอียดและวิธีการลงทะเบียน Thailand Pass และขั้นตอนการขออนุมัติ Thailand Pass สำหรับการเดินทางกลับมายังประเทศไทย
ประเทศไทยได้เปิดตัวระบบลงทะเบียน ระบบ Thailand Pass ใหม่ เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวลงทะเบียนล่วงหน้าก่อนเข้าประเทศไทย ซึ่งตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ผู้เดินทางเข้าประเทศไทยทางอากาศทุกคน(ทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ) ต้องลงทะเบียน Thailand Pass ขั้นตอน step-by-step ในการลงทะเบียนแจ้งการเดินทางเข้าประเทศไทย มีดังนี้
ขั้นตอนที่ 1: เลือก Thai Nationals หรือ Non-Thai Nationals
ในการเริ่มต้นลงทะเบียน คุณเพียงแค่เลือก “คนไทย (Thai Nationals)” หรือ “ผู้ที่ไม่ใช่ชาวไทย (Non-Thai Nationals)” เพื่อเข้าสู่หน้าถัดไป ซึ่งเอกสารที่จำเป็นในการลงทะเบียนจะมีความแตกต่างกันเล็กน้อยระหว่างคนไทยกับชาวต่างชาติ สำหรับคนไทยสามารถเลือกภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษ
ขั้นตอนที่ 2: เลือกรูปแบบการเดินทางเข้าประเทศไทย
ขั้นตอนต่อไปของระบบการลงทะเบียน Thailand Pass คือ การเลือกรูปแบบการเดินทางเข้าประเทศไทย เนื่องจากมี 3 ตัวเลือกที่แตกต่างกันสำหรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศไทยตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564 ดังนี้:
Test & Go (Exemption from Quarantine) - สำหรับผู้เดินทางที่ได้รับวัคซีนจากประเทศที่มีสิทธิ์เดินทางเข้าไทยไม่ต้องกักตัว
Living in The Blue Zone Sandbox scheme
- หนังสือเดินทาง
- เอกสารรับรองการฉีดวัคซีน
- หลักฐานการจองโรงแรม และชำระเงิน SHA+ (สำหรับการพัก 7 คืน และรวมค่าธรรมเนียม การตรวจ RT-PCR 1 ครั้ง และ ATK 1 ครั้ง)
Happy Quarantine scheme
- หนังสือเดินทาง
- หลักฐานการจองโรงแรม และชำระเงิน AQ (สำหรับการพัก 10 คืน และรวมค่าธรรมเนียมการตรวจ RT-PCR 2 ครั้ง
ข้อมูลโรงแรมสำหรับเดินทางเข้าประเทศไทย
- โรงแรม SHA Plus (SHA+)
- โรงแรมกักตัวทางเลือก (AQ)
ขั้นตอนที่ 3: ยืนยันวัตถุประสงค์ในการเดินทางเข้าประเทศไทย
ขั้นตอนต่อไปคือการกรอกข้อมูลหน้าวัตถุประสงค์ของการเดินทางเข้าประเทศไทย (Purpose of Arrival) ของคุณและกด "ลงทะเบียน (register)" ซึ่งจะนำคุณไปยังหน้าที่ต้องกรอกข้อมูลส่วนตัวของคุณ
ข้อมูลที่ต้องกรอก:
วัตถุประสงค์ของการเดินทางเข้าประเทศไทย
- การท่องเที่ยว
- ธุรกิจ
- การศึกษา
- สุขภาพ
- อื่นๆ
- ประเทศต้นทาง
- สนามบินแรกที่คาดว่าจะเดินทางถึงประเทศไทย
- วันที่เดินทางถึงประเทศไทย
- ระยะเวลาในการเข้าพำนัก (วัน)
ขั้นตอนที่ 4: ลงทะเบียนบนเว็บไซต์ Thailand Pass
1. ข้อมูลส่วนบุคคล
ข้อมูลที่กรอก:
- ชื่อ
- วันเดือนปีเกิด
- หมายเลขบัตรประชาชน
- อีเมล
- อาชีพ
- ข้อมูลหนังสือเดินทาง
- ประเภทหนังสือเดินทาง
- หมายเลขหนังสือเดินทาง
- แนบรูปภาพหนังสือเดินทางไทยเท่านั้น
ในกรณีที่คุณเป็นผู้ปกครอง คุณสามารถกรอกข้อมูลเพิ่มเติมเด็กที่อยู่ในอุปการะ เช่น ชื่อ, สัญชาติ, วันเกิด, หมายเลขบัตรประชาชน (ถ้ามี) และข้อมูลหนังสือเดินทาง
2. ข้อมูลการ "ฉีดวัคซีน"
ผู้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรจะต้องฉีดวัคซีนที่ได้รับการขึ้นทะเบียนตามกฎหมายของประเทศไทย หรือได้รับการรับรองจากองค์การอนามัยโลก หรือตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบถ้วนตามเกณฑ์ที่ผู้ผลิตวัคซีนกำหนดอย่างน้อย 14 วันก่อนเดินทาง
คุณต้องอัปโหลดหลักฐานการฉีดวัคซีนเข็มที่ 1 และเข็มที่ 2 (หรือ 1 เข็มกรณีฉีด Janssen) ให้ครบถ้วน โดยควรมีรายละเอียดยืนยันตัวบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล วันเดือนปีเกิด สัญชาติ หมายเลขหนังสือเดินทาง และรายละเอียดการฉีดวัคซีน
หากใบรับรองการฉีดวัคซีนของคุณมี QR code คุณสามารถแนบ QR Code จะช่วยให้ตรวจสอบข้อมูลวัคซีนได้สะดวกและได้รับการพิจารณาเร็วขึ้น
3. ข้อมูลการติดต่อและที่พัก
ข้อมูลการติดต่อและที่พักที่ต้องกรอก:
- ข้อมูลการจองที่พัก
- ช่องทางการจอง
- SHA+
- Alternative Quarantine
- Alternative Hospital Quarantine
- Other
- หมายเลขการจอง (Booking ID)
- ชื่อที่พัก
- ที่อยู่
- จังหวัด
- วันที่เข้าพัก
- วันที่เช็คเอาท์
- หมายเลขเที่ยวบิน
- เอกสารการจองที่พัก
- ข้อมูลการติดต่อในประเทศต้นทาง
- ที่อยู่ในต่างประเทศ
- หมายเลขโทรศัพท์มือถือในต่างประเทศ
- ข้อมูลติดต่อกรณีฉุกเฉิน
- ชื่อบุคคลที่สามารถติดต่อได้
- โทรศัพท์มือถือ
4. ประวัติการเดินทาง
กรอกข้อมูลประเทศที่ท่านพำนักอยู่หรือเคยเดินทางไปในช่วง 14 วัน ก่อนเดินทางเข้าประเทศไทย
ขอแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อความถูกต้อง หากข้อมูลใดไม่ถูกต้อง ให้คลิกกลับไปที่หน้าก่อนหน้าเพื่อทำการแก้ไขก่อนดำเนินการต่อ หากทุกอย่างเรียบร้อยดี คุณเพียงแค่ต้องคลิกปุ่ม “บันทึกข้อมูล (Submit)”
Note! ชาวต่างชาติจำเป็นต้องมีเอกสารกรมธรรม์ประกันภัยที่มีวงเงินคุ้มครองไม่น้อยกว่า 50,000 ดอลลาร์สหรัฐ ผู้มีสัญชาติไทยไม่จำเป็นต้องมีเอกสารกรมธรรม์ประกันภัยเพื่อลงทะเบียนใน Thailand Pass เนื่องจากได้รับรองการรักษาพยาบาลผ่านโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้าของไทยแล้ว
ใช้เวลานานเท่าใดจึงจะได้รับการอนุมัติ?
หลังจากกรอกรายละเอียดของคุณและอัปโหลดเอกสารที่จำเป็นแล้ว คุณต้องรอการอนุมัติ กรมควบคุมโรค (DDC) จะตรวจสอบข้อมูลและใบรับรองการฉีดวัคซีนภายใน 1-3 วัน เมื่อได้รับการอนุมัติ Thailand Pass แล้ว คุณจะได้รับ QR Code ซึ่งจะต้องแสดง QR Code นี้แก่สายการบินที่เคาน์เตอร์เช็คอินและต่อเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเพื่อเดินทางเข้าประเทศไทย
หมายเหตุ! “Thailand Pass” จะได้รับการอนุมัติจากหน่วยงานกลางในประเทศไทยและไม่ใช่สถานเอกอัครราชทูตไทย ดังนั้น โปรดเผื่อเวลาให้เพียงพอสำหรับการลงทะเบียนและการรออนุมัติ โดย Thailand Pass จะต้องลงทะเบียนและส่งเอกสารออนไลน์ล่วงหน้าอย่างน้อย 7 วันก่อนวันเดินทาง
การเดินทางเข้าสู่ประเทศไทย
การเดินทางเข้าสู่ประเทศไทยไม่เพียงแต่ต้องใช้ QR Code ของ Thailand Pass เท่านั้น คุณต้องมีผลตรวจหาเชื้อโควิด-19 (RT-PCR) ที่ออกไม่เกิน 72 ชั่วโมงก่อนเวลาเดินทางเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย โดยข้อกำหนดนี้ยกเว้นสำหรับผู้มีสัญชาติไทยที่เดินทางเข้ารับการกักตัว ณ สถานกักกัน (Alternative Quarantine) เมื่อคุณมาถึงประเทศไทย จะทำการทดสอบโควิด-19 อีกครั้ง
ข้อปฏิบัติเมื่อเดินทางถึงประเทศไทย
1. เข้ารับการคัดกรองอาการทางเดินหายใจและวัดไข้ที่ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ ก่อนเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร
2. ยื่นเอกสารต่อพนักงานเจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อ ณ ช่องทางเข้าออกระหว่างประเทศ
- Thailand Pass QR Code
- ใบรับรองการฉีดวัคซีน
- ผลการทดสอบ RT-PCR ภายใน 72 ชั่วโมง
- ใบยืนยันการจองโรงแรม SHA+ หรือโรงแรม AQ
- ประกันสุขภาพ COVID-19 ที่มีความคุ้มครองขั้นต่ำ 50,000 USD (สำหรับต่างชาติ)
3. เข้ารับการกักกันและปฏิบัติตามคำสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติตต่อ ณ สถานที่ที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติตต่อกำหนด ตามมาตรการสาธารณสุขที่ทางการกำหนด ทั้งนี้ สถานที่ซึ่งผู้เดินทางต้องเข้ารับการกักกันให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวทางที่ทางราชการกำหนด
4. กรณีการเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ Test & Go (Exemption from Quarantine) โดยเดินทางมาจากประเทศตามที่รัฐบาลกำหนด
เข้ารับการตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 โดยวิธี RT-PCR และพักรอในสถานที่ที่ทางราชการกำหนดจนกว่าจะทราบผลการตรวจ
เมื่อได้รับแจ้งว่า ผลตรวจไม่พบเชื้อ (not detected/negative) จึงสามารถท่องเที่ยวในประเทศไทยได้
5. กรณีการเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ Sandbox
เข้ารับการตรวจหาเชื้อโรคโควิด - 19 โดยวีธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง ตามเงื่อนไขที่ทางการกำหนด
หากอยู่ในรูปแบบ Sandbox น้อยกว่า 7 วัน ต้องไม่ออกนอกพื้นที่ Sandbox ที่กำหนด ยกเว้นการเดินทางออกจากประเทศไทยเท่านั้น
หากอยู่ในรูปแบบ Sandbox ตั้งแต่ 7 วัน ขึ้นไป จะสามารถเดินทางไปจังหวัดอื่น ๆ ในประเทศไทยได้
6. กรณีการเดินทางเข้าประเทศไทยในรูปแบบ Alternative Quarantine
เข้ารับการตรวจหาเชื้อโควิด-19 โดยวิธี RT-PCR จำนวน 2 ครั้ง ตามเงื่อนไขที่ทางการกำหนด