เด่นโซเชียล

"โอไมครอน" นายกฯ ญี่ปุ่น เตรียมพร้อมรับสถานการณ์เลวร้ายขั้นสุด

"โอไมครอน" นายกฯ ญี่ปุ่น เตรียมพร้อมรับสถานการณ์เลวร้ายขั้นสุด

07 ธ.ค. 2564

"โอไมครอน" เตรียมเข้ามาแทนที่สายพันธุ์เดลตาอย่างเป็นทางการ เพราะ สายพันธุ์นี้แพร่กระจายได้ง่าย และสามารถหลบภูมิคุ้มกันได้ ล่าสุด นายกฯ ญี่ปุ่น ออกประกาศเตรียมรับมือสถานการณ์เลวร้ายขั้นสุดแล้ว

 

"โอไมครอน" นายกรัฐมนตรี ฟุมิโอะ คิชิดะ เผย เตรียมตัวเพื่อรับมือสถานการณ์เลวร้ายที่สุด จากโควิด-19 สายพันธุ์ "โอไมครอน" แล้ว ขณะเดียวกันก็ยังคงส่งเสริมการฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไปด้วย โดยระหว่างการปราศรัยเกี่ยวกับนโยบายการประชุมวิสามัญของรัฐสภาญี่ปุ่น คิชิดะแสดงความหวังว่าญี่ปุ่นจะเดินหน้าอภิปรายเกี่ยวกับการปรับแก้รัฐธรรมนูญ พร้อมให้คำมั่นทบทวนนโยบายด้านความมั่นคงให้เสร็จสิ้นภายในเวลา 1 ปี

 

แม้ว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ในญี่ปุ่นจะดีขึ้นมากแล้ว แต่คิชิดะยังกล่าวเตือนถึงภัยเสี่ยงใหม่ ๆ ซึ่งรวมถึงการที่หลายประเทศตรวจพบผู้ป่วยโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอไมครอน ด้วย โดยระบุว่า ญี่ปุ่นจะยังดำเนินการอย่างระมัดระวังต่อไป โดยตั้งแต่ช่วงฤดูร้อนเป็นต้นมา ญี่ปุ่นได้เพิ่มจำนวนเตียงผู้ป่วยในโรงพยาบาล เพื่อรองรับผู้ป่วยโควิด-19 รวม 10,000 เตียง และอาจอนุมัติการใช้งานยาแบบรับประทาน เพื่อการรักษาภายในเดือนธันวาคมนี้ ขณะเดียวกัน รัฐบาลญี่ปุ่นจะพร้อมออกใบรับรองดิจิทัลสำหรับผู้ที่ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ครบโดสแล้ว ภายในวันที่ 20 ธันวาคมนี้

 

 

 

 

เมื่อกล่าวถึงการตัดสินใจสั่งห้ามชาวต่างชาติเดินทางเข้าญี่ปุ่น เนื่องจาก ความกังวลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน คิชิดะกล่าวว่า เขาพร้อมรับคำวิพากษ์วิจารณ์ว่าตนระมัดระวังเกินไป ทั้งที่ยังไม่เข้าใจสถานการณ์ดีพอ นอกจากนี้ คิชิดะยังได้ให้คำมั่น สนับสนุนธุรกิจและแรงงานที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดใหญ่ ด้วยเงินกระตุ้นก้อนใหญ่ ซึ่งส่วนใหญ่มาจากงบประมาณเพิ่มเติมของปี 2021 ซึ่งมูลค่าถึง 36 ล้านล้านเยน (ราว 10.78 ล้านล้านบาท) และคาดว่ารัฐสภาจะให้การอนุมัติระหว่างการประชุมวิสามัญ

 

 

 

 

ส่วนการปฏิรูปรัฐธรรมนูญนั้น คิชิดะกล่าวย้ำว่า สมาชิกสภานิติบัญญัติมีหน้าที่พิจารณว่าจะแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ พร้อมระบุว่า ขณะที่เกิดความเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เราควรตอบคำถามสาธารณชนด้วยว่า รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันหรือไม่ ทั้งนี้ รัฐบาลจะเพิ่มแรงจูงใจทางภาษีมากขึ้น เพื่อให้บริษัทเพิ่มค่าแรงให้กับพนักงาน สอดคล้องกับคำสัญญาที่เขาเคยให้ไว้เกี่ยวกับทุนนิยมใหม่ ที่นอกจากจะกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจญี่ปุ่นแล้ว ยังจะเพิ่มการกระจายความมั่งคั่งให้กับชนชั้นกลางอีกด้วย

 

สำหรับการส่งเสริมเทคโนโลยีดิจิทัลนั้น คิชิดะระบุว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะวางระบบเคเบิลใต้น้ำรอบ ๆ ญี่ปุ่นเพื่อสร้าง ซูเปอร์ไฮเวย์ สำหรับอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงของประเทศ อนึ่ง การประชุมสมัยวิสามัญแห่งรัฐสภาญี่ปุ่นเริ่มขึ้นช่วงบ่ายวันจันทร์ (6 ธันวาคม) และจะดำเนินต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 21 ธันวาคม นี้