เด่นโซเชียล

"โอไมครอน" องค์การอนามัยโลก ออกโรงเตือน อย่าด่วนสรุป ไร้พิษสง

"โอไมครอน" องค์การอนามัยโลก ออกโรงเตือน อย่าด่วนสรุป ไร้พิษสง

15 ธ.ค. 2564

"โอไมครอน" เคลื่อนไหวอีกครั้ง หลังจาก WHO ออกมาเผยว่า การแพร่ระบาดในครั้งนี้ อย่าได้ประมาท เพราะ สายพันธุ์นี้ยังไม่มีทิศทางที่ชัดเจน อาจจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ได้

 

เกาะติด "โอไมครอน" Omicron หรือ โอมิครอน โควิดสายพันธุ์ใหม่ ล่าสุด ผู้นำองค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ลักษณะการแพร่ระบาดไปทั่วโลกและการกลายพันธุ์หลายครั้ง บ่งชี้ได้ว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์นี้ อาจส่งผลกระทบใหญ่ในอนาคตข้างหน้าได้

 

ผู้อำนวยการใหญ่ขององค์การฯ ทีโดรส อัดฮานอม กีบรีเยซุส กล่าวเตือนว่า ปัจจุบัน เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน แพร่ระบาดอยู่ใน 57 ประเทศ และสามารถแพร่ระบาดได้เร็วกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ ถึงแม้จะยังไม่ปรากฏอัตราความเร็วที่ชัดเจนก็ตาม

 

 

 

 

นอกจากนี้ ยังระบุว่า ข้อมูลใหม่จากแอฟริกาใต้บ่งชี้ว่า เชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน มีอัตราการติดเชื้อซ้ำสูงกว่าสายพันธุ์อื่น ๆ แต่เรายังต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเพื่อหาข้อสรุปที่แน่ชัดก่อน ส่วนคณะผู้เชี่ยวชาญขององค์การฯ เอง ก็ระบุว่า ถึงแม้ หลักฐานบางส่วนชี้ว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน ก่อให้เกิดอาการป่วยน้อยกว่าสายพันธุ์เดลตา แต่ยังเร็วเกินไปที่สรุป

 

กรรมการบริหารโครงการภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขแห่งองค์การฯ ไมก์ ไรอัน ระบุว่า แม้ตามหลักแล้ว การวิวัฒนาการของเชื้อไวรัสฯ จะทำให้แพร่ระบาดได้ง่ายขึ้นหลังกลายพันธุ์ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเชื้อไวรัสฯ จะมีความรุนแรงน้อยลงอย่างที่บางฝ่ายกล่าวอ้าง เพราะ เชื้อไวรัสฯ จะอันตรายมากขึ้นหรือน้อยลงนั้นเป็นเรื่องที่ไม่สามารถคาดการณ์ได้

 

 

 

 

ปัจจุบัน การศึกษาเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน มีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ทว่าองค์การฯ ยังต้องการเวลา เพื่อวิเคราะห์และหาข้อสรุปที่ชัดเจน ด้านหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ขององค์การฯ ซุมยา สวามินาธาน ระบุว่า ยังเร็วเกินไปที่จะระบุว่าเชื้อไวรัสฯ สายพันธุ์โอไมครอน ลดประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 ลงอย่างมีนัยสำคัญหรือไม่

 

อนึ่ง องค์การฯ เรียกร้องทุกประเทศยกระดับการเฝ้าระวัง การตรวจโรค และการลำดับพันธุกรรม พร้อมส่งข้อมูลเพิ่มเติมเข้าแพลตฟอร์มข้อมูลทางคลินิกขององค์การฯ ผ่านรูปแบบการรายงานยอดผู้ป่วยทางออนไลน์ที่มีการอัปเดตข้อมูลเสมอ