ลือ "นิ่ว" ไม่รอดแน่ หากอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ จริงหรือไม่ เช็คชัวร์ก่อนแชร์
"นิ่ว" ลือสะพัดบนโลกโซเชียล ว่าหากอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ไม่รอดแน่ ๆ ข่าวลือดังกล่าว เชื่อถือได้แค่ไหน รีบเช็คด่วน ก่อนเชื่อ
"นิ่ว" โรคสุดแสนทรมาน ที่หลายคนไม่อยากเป็น ซึ่งส่วนใหญ่มักจะเกิดจากการที่รับประทานน้ำน้อยเกินไป และปัจจัยอื่น ๆ ประกอบกัน แต่เมื่อไม่นานมานี้ มีผู้ปล่อยข่าวลือบนโลกโซเชียลว่า หากอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ ทำให้เป็น โรคนิ่ว ทาง กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ไม่รอช้า รีบออกมาชี้แจงเกี่ยวกับประเด็นดังกล่าวว่า เป็นข้อมูลเท็จ
โดยระบุว่า การอั้นปัสสาวะบ่อย ๆ นั้นไม่ได้ทำให้เสี่ยงเป็น "นิ่ว" แต่อย่างใด โดยพฤติกรรมที่ทำให้เสี่ยงเป็นนิ่วนั้น มีดังนี้
- การดื่มน้ำน้อย
- การที่มีภาวะอ้วน
- กินเนื้อสัตว์เยอะ
- กินเค็ม
- กินวิตามินซีมากกว่า 2,000 มก.ต่อวัน
- กินอาหารที่มีสาร oxalate เยอะในปริมาณมาก เช่น ผักปวยเล้ง บีตรูต ช็อกโกแลต ถั่ว ชา เป็นต้น
ก็ยังเป็นปัจจัยที่ทำให้เสี่ยงต่อการเกิดนิ่วด้วยเช่นกัน ส่วนแคลเซียมเสริมนั้น ถ้ากินพร้อมอาหารก็จะช่วยลดความเสี่ยงลงได้
โดยอาการของ โรคนิ่ว ในทางเดินปัสสาวะนั้นขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น
- ตำแหน่งของก้อนนิ่ว
- ระดับการอุดตันของทางเดินปัสสาวะ
- การมีภาวะติดเชื้อในทางเดินปัสสาวะร่วมด้วย
ดังนั้น ผู้ป่วยโรคนิ่ว อาจเป็นได้ตั้งแต่ ไม่มีอาการปัสสาวะปนเลือด, ปวดบั้นเอว, ปัสสาวะสะดุด, ปัสสาวะมีเม็ดนิ่วหลุดออกมา หรือถ้ามีภาวะอุดกั้นของทางเดินปัสสาวะ อาจจะทำให้มีอาการปวดร้าวลงบริเวณขาหนีบ, อาการปวดบีบ ๆ เป็นพัก ๆ คลื่นไส้ได้ และถ้ามีการติดเชื้อของทางเดินปัสสาวะร่วมด้วยก็จะทำให้มีอาการของการติดเชื้อ เช่น
- มีไข้
- ปัสสาวะแสบขัด
- ปัสสาวะขุ่นหรือมีกลิ่นฉุน
- อั้นปัสสาวะลำบาก เป็นต้น
ส่วนการรักษาโรคนิ่วนั้น ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของนิ่ว ขนาด และตำแหน่งของนิ่วด้วย ซึ่งมีตั้งแต่
- การปรับพฤติกรรม
- การรักษาด้วยยา
- การสลายนิ่วด้วยคลื่นกระแทก (shock wave)
- การส่องกล้องผ่านทางท่อปัสสาวะ
- การส่องกล้องผ่านทางการเจาะผิวหนัง
- การผ่าตัดส่องกล้องหรือผ่าตัดเปิดเพื่อเอานิ่วออก
ข้อมูล : ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม